@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร ตะวันฉายในม่านเมฆ ตอนที่ 11/3 วันที่ 13 ม.ค. 56

อ่านละคร ตะวันฉายในม่านเมฆ ตอนที่ 11/3 วันที่ 13 ม.ค. 56

“ว่าไงนะทำตลอด มีหลังห้ามทำอีก ฉันไม่ชอบให้สนิทสนมกันเกินไป มันดูไม่ดี” เมฆพูด
“ครับๆ ไม่ทำก็ไม่ทำ”
เก่งเกาหัวแกร่กๆ พร้อมกับเดินออกไป เมฆหันมาทำลอยหน้าลอยตาแล้วพูดกับตะวันฉาย
“เออ วันนี้มาช่วยนวดให้ฉันหน่อยสิ ฉันรู้สึกเมื่อยๆยังไงไม่รู้”
“ไม่ได้หรอกครับ ผมมีงานต้องทำเยอะแยะ”
“ก็ให้เก่งมันทำไป เร็วๆสิ”
พูดจบเมฆก็รีบนอนลงที่โซฟาทันที ตะวันฉายลังเลนิดนึงก่อนจะยอมบรรจงนวดหลังให้เมฆ เมฆแอบยิ้มอย่างมีความสุข

เวลาผ่านไป ตะวันฉายกวาดหน้าบ้านพร้อมกับมองรอบๆบ้านด้วยความรู้สึกคุ้นเคยจนต้องยิ้มออกมา ทันใดนั้นเก่งก็เดินเข้ามาหา
“ยิ้มอะไรของแกห๊ะ” เก่งถาม



“เปล่าพี่ แค่รู้สึกดีใจที่ได้กลับมา ผมคงผูกพันกับบ้านหลังนี้จริงๆ”
“แหงล่ะ มากินมาอยู่เป็นเดือนๆมันก็ต้องผูกพันกันเป็นธรรมดา ฉันน่ะไม่อยากจะเม้าท์เลยว่า ตั้งแต่แกกลับไปนะ สองพ่อลูกนั่งหน้าบูดกัน ซึมกระทือ เหมือนซอมบี้ไม่มีชีวิต จนฉันอดคิดไม่ได้ว่า ตกลงแกกับคุณเมฆเป็นแฟนกันรึเปล่า”
ตะวันฉายชะงักไปทันที
“จะบ้าเหรอพี่ ผมไม่ได้ชอบผู้ชายนะ” ตะวันฉายบอก
“แกไม่ชอบแต่ฉันว่าคุณเมฆน่ะไม่แน่ จริงๆนะเว้ย ไม่เชื่อแกลองสังเกตดีๆ สิวะ”
ทันใดนั้นรถของเมฆก็แล่นมาจอดหน้าบ้าน
“ไร้สาระน่ะพี่เก่ง ไม่คุยด้วยแล้ว คุณหมอกมาพอดี ไปหาคุณหมอกดีกว่า”
ตะวันฉายรีบเดินไปรับหมอกที่ลงจากรถมาพอดี

หมอกในชุดกีฬายืนอยู่กลางสนามหญ้าหน้าบ้าน
“พี่ซันพร้อมยังครับ” หมอกถาม
ตะวันฉายยืนอยู่ข้างหมอก
“พร้อมแล้วครับ”
“หนึ่ง สอง ซั่ม ลุย!!!!”
หมอกเตะลูกบอลออกไป ขณะที่เมฆและเก่งที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเข้ามาดักไว้
หมอกและตะวันฉายช่วยกันเตะลูกบอลแล้วเลี้ยงไปที่ประตู ตะวันฉายเตะลูกบอลเข้าประตูจนได้ ทั้งสองคนดีใจมาก “เย่!!!!”
ตะวันฉายและหมอกตีมือกันด้วยความดีใจ
เมฆพูดกับเก่ง “เล่นให้มันดีๆหน่อยสิวะเก่ง จะแพ้อยู่แล้วเห็นมั้ย”
“ครับคุณเมฆ”
เมฆตั้งลูกตั้งเตะแล้วเตะออกไปทันที เมฆและตะวันฉายแย่งลูกกันจนล้มลงไปทั้งคู่ โดยที่ตะวันฉายล้มลงไปนอนทับบนอกเมฆ ทั้งสองคนชะงักเขินเหมือนหยุดเวลาเอาไว้ตรงนั้น ทันใดนั้นเองเสียงของหมอกก็ดังขึ้น
“พี่ซันลุกเร็ว เดี๋ยวพี่เก่งเอาบอลไปก่อน”
“ช้าไปแล้ว พี่เก่งไปก่อนนะ” เก่งบอก
เก่งเลี้ยงลูกบอลนำไป ในขณะที่หมอกวิ่งตาม เมฆรีบลุกขึ้นแล้วยื่นมือให้ตะวันฉายจับ ตะวันฉายจับมือเมฆแล้วลุกขึ้น ทั้งสองคนยิ้มเขินๆ

ตะวันฉายกำลังทำงานบ้าน สักพักเธอก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์บ้านดังขึ้นแต่ไม่มีใครรับ ตะวันฉายเลยต้องวางมือจากงานตรงหน้าเพื่อไปรับโทรศัพท์
“สวัสดีค่ะ ต้องการเรียนสายกับใครคะ...เอ๊ย ครับ”
ตะวันฉายฟังปลายสายก่อนจะทำหน้าตื่น
“อะไรนะ คุณหมอกไม่สบายหรือครับ”

ครูพยาบาลส่งสร้อยให้ตะวันฉายที่มาอยู่ที่ห้องพยาบาล ตะวันฉายรับไว้ ส่วนหมอกนั่งอยู่ที่เตียงพยาบาลใกล้ๆ
“ครูโทรศัพท์ไปหาคุณพ่อน้องหมอกแล้วแต่โทรไม่ติดเลย สงสัยว่าจะติดงาน ครูก็เลยโทรไปที่บ้านน่ะค่ะ”
“อ๋อ ครับ พอดีวันนี้คุณเมฆติดงานที่ห้องอัดเสียง คงจะปิดมือถือแน่ๆ ว่าแต่ว่าน้องหมอกเป็นอะไรหรือครับ”
“คงจะแพ้สร้อยคอนี่แหละค่ะ พอดีครูประจำชั้นสังเกตเห็นว่าน้องหมอกเอาแต่เกาที่คอก็เลยพามาส่งที่ห้องพยาบาล”
ตะวันฉายมองสร้อยคอนั้นแล้วเก็บไว้ในกระเป๋า
“ครูว่าพาน้องหมอกไปให้คุณหมอดูสักหน่อยก็ดีนะคะเพราะยิ่งคันก็ยิ่งเกาเดี๋ยวจะเป็นแผลเอา”
“ได้ครับ ถ้าอย่างนั้นงันนี้ผมขอพาน้องหมอกไปหาหมอนะครับ”
ครูพยาบาลพยักหน้าแล้วยิ้มให้
“ได้ค่ะ” ครูพยาบาลพูดกับหมอก “หายดีแล้วค่อยมาเรียนนะคะ น้องหมอก”
ตะวันฉายพาหมอกเดินออกจากห้องพยาบาลไป

ตะวันฉายพาหมอกกลับมาที่บ้าน โดยที่ในมือถือถุงยามาด้วย
“คุณหมอกรอตรงนี้ก่อนนะครับ พี่ซันจะไปตามพี่เก่งมาเฝ้าบ้านก่อน แล้วเดี๋ยวพี่ซันจะพาคุณหมอกไปอาบน้ำนะครับ”
ตะวันฉายเดินออกไป หมอกนั่งเล่นอยู่คนเดียวที่โซฟา

ตะวันฉายเดินออกมาตามหาเก่ง ในขณะที่เก่งแอบหลับอยู่ในที่ลับตาคน ตะวันฉายจะเข้าไปปลุกแต่กลับชะงักไว้ เธอเปลี่ยนใจแล้วเดินกลับออกไป

ตะวันฉายเดินกลับออกมาที่ห้องรับแขก แต่มองไม่เห็นหมอก ตะวันฉายสงสัยจึงเรียกหา
“คุณหมอกครับ คุณหมอก”
ไม่มีเสียงตอบจากหมอก ตะวันฉายยิ่งสงสัยจึงออกไปดูที่หน้าบ้าน
ตะวันฉายเดินออกมาตามหมอก แต่กลับเห็นลูกน้องเฮลมุทกำลังอุ้มหมอกที่ถูกปิดปากอยู่ออกไป ตะวันฉายตกใจจนทำอะไรไม่ถูก
“คุณหมอกๆ”
ลูกน้องเฮลมุทหันมามองเห็นว่าตะวันฉายกำลังวิ่งตรงมาหาเขา ลูกน้องคนหนึ่งเข้าไปกันตะวันฉายไว้ ตะวันฉายพยายามยื้อแย่งหมอกไม่ให้ลูกน้องเฮลมุทเอาตัวหมอกไปได้ เก่งได้ยินเสียงโวยวายจึงเดินออกมาดูแล้วก็ตกใจ
“เฮ้ย อะไรวะนั่น”
เก่งรีบคว้าไม้แล้ววิ่งไป
ตะวันฉายกับพวกเฮลมุทยื้อแย่งตัวหมอกกันอยู่
“แกจะเอาคุณหมอกไปไหน ปล่อยคุณหมอกนะ”
ตะวันฉายไม่ยอมง่ายๆ เธอยื้อกับลูกน้องเฮลมุทจนสุดแรง สุดท้ายตะวันฉายก็เหยียบเท้าแล้วเตะหน้าแข้งลูกน้องคนหนึ่ง ส่วนเก่งก็เอาไม้ตีลูกน้องอีกคนแต่โดนสวนกลับจนกระเด็น ตะวันฉายคว้าตัวหมอกกลับมาได้ ลูกน้องเฮลมุทอีกคนเลยเปลี่ยนแผน
“จับมันไปทั้งสองคนนั่นแหล่ะ”
ลูกน้องเฮลมุททั้งสองคนช่วยกันวิ่งมารวบตัวตะวันฉายที่อุ้มหมอกจะวิ่งหนี แล้วทั้งหมดก็พาขึ้นรถ
“ปล่อยนะ” ตะวันฉายร้องโวยวาย
“พี่ซัน หมอกกลัว”
ตะวันฉายดิ้นจะเปิดประตูรถ ลูกน้องเฮลมุทหยิบปืนออกมาขู่
“จะไปหรือจะตาย”
ตะวันฉายกับหมอกอึ้งและยอมสงบปากทันที

ลูกน้องเฮลมุทหยิบปืนออกมาขู่ ตะวันฉายกับหมอกกอดกันนิ่งด้วยความกลัว เก่งที่โดนซัดจนกระเด็นไปลุกขึ้นมายืนอย่างองอาจ
“เฮ้ย...มันจะมากไปแล้ว วันนี้ของสวมวิญญาณ แก้ว พงษ์ประยูรหน่อยเถอะวะ”
เก่งร้องจ๊ากวิ่งเข้ามา ทุกคนจึงหันไปมอง ตะวันฉายกับหมอกเห็นเก่งวิ่งมาก็ร้องเตือน
“พี่เก่ง ระวังนะมันมีปืน”
เก่งวิ่งหน้าเข้มเข้ามา ลูกน้องเฮลมุทยกปืนขึ้นเล็ง พอเห็นปืนเก่งก็เบรกจนตัวโก่ง
“โอ๊ย...สลบ”
เก่งทำเป็นล้มลงแล้วสลบไปทันที ลูกน้องทั้งสองของเฮลมุทพยักหน้าให้กันแล้วช่วยกันลากตะวันฉายที่อุ้มหมอกอยู่ขึ้นรถตู้แล้วขับออกไป เก่งลืมตาเงยหน้ามาเช็คจนแน่ใจว่ารถไปแล้วเขาก็ร้องไห้โฮ
“คุณหมอก ไอ้ซัน”

หมอกและตะวันฉายถูกนั่งขนาบข้างด้วยลูกน้องของเฮลมุท หมอกร้องไห้จ้าเพราะความกลัว ตะวันฉายต้องกอดเพื่อปลอบ
ตะวันฉายพูดกับลูกน้องเฮลมุท “พี่ๆ จะจับพวกผมไปไหนอ่ะ”
ลูกน้องทั้งสองเงียบ
“เอ่อ...พี่ครับ บางทีพี่อาจจะจับผิดตัวก็ได้นะครับ”
“เงียบ! หนวกหู!” ลูกน้องเฮลมุทตะโกน
หมอกกลัวจนถึงกับสะอื้นและกอดตะวันฉายแน่น
“ไม่ต้องกลัวนะครับคุณหมอก พี่ซันจะไม่ให้ใครมาทำร้ายคุณหมอกได้”
“หมอกอยากหาพ่อ”
ตะวันฉายกระชับกอดหมอกไว้แน่น

เมฆซ้อมต่อเพลงใหม่กับนิคและเอวาจนจบพอดี
“พี่ว่ามันยังไม่ค่อยแน่นนะ” เมฆบอก
“เพลงใหม่ก็งี้แหล่ะครับพี่เมฆ เดี๋ยวซ้อมอีกสองสามเที่ยวก็โอเค” นิคว่า
เมฆพยักหน้ารับ แล้วครู่หนึ่งเสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น เมฆรับโทรศัพท์
“ว่าไงเก่ง..”
เก่งโทรศัพท์ไปหาเมฆจากที่บ้าน
“คุณเมฆครับ แย่แล้ว คุณหมอกกับไอ้ซันถูกโจรจับตัวไปครับ”
“หา! อะไรนะ ไอ้เก่ง แกอย่าล้อเล่นนะเว้ย”
“จริงๆครับคุณเมฆ พวกมันมีปืนแล้วก็จับไอ้ซันกับคุณหมอกขึ้นรถตู้ไปแล้วครับ”
“ฉันจะกลับบ้านเดี๋ยวนี้”
เมฆวางสายด้วยอาการช็อค นิคกับเอวารีบเข้ามาหาเมฆ
“พี่เมฆ เกิดอะไรขึ้นครับ” นิคถาม
“มีคนมาจับตัวซันกับหมอกไป นิค เอวา ช่วยโทรหาซันให้พี่หน่อยสิ พี่อยากจะคุยกับพวกมัน”
เอวารีบหยิบโทรศัพท์มากดโทรออกทันที สักพักก็ได้ยินเสียงสัญญาณ เอวาดีใจ
“ติดแล้วค่ะ”
เมฆกับนิครีบเข้ามาฟังแล้วเอวาก็จ๋อยไป
“สายโดนตัดแล้ว” เอวาบอก

ลูกน้องเฮลมุทกดปิดโทรศัพท์ของตะวันฉายแล้วยิ้มร้ายนั่งมองหน้าตะวันฉายกับหมอกที่กำลังนั่งกอดกันด้วยความกลัว

เมฆ นิค และเอวามีท่าทางกังวลมาก
“เราควรจะเอาไงต่อดีครับเนี่ย” นิคถาม
“พี่จะต้องแจ้งตำรวจก่อน แล้วเดี๋ยวพี่จะรีบกลับบ้าน” เมฆบอก
เมฆเอาโทรศัพท์ออกมาแล้วจะกดโทรออก แต่เอวารีบจับมือไว้
“อย่าเพิ่งค่ะพี่เมฆ”
เมฆงง “เอวา ลูกพี่กับซันโดนจับตัวไปนะ”
“เอวาทราบค่ะ แต่ถ้าพี่เมฆจะโทรหาตำรวจ เราบอกพี่ยุทธดีกว่า”
“คุณยุทธน่ะเหรอ แล้วเขาจะช่วยอะไรเราได้”
“ได้สิครับ ก็พี่ยุทธเขาเป็นตำรวจไงครับ เก่งมากด้วย” นิคบอก
เมฆตกใจ “อะไรนะ”

ยุทธการยืนแนะนำตัวกับเมฆ โดยมีจ่าสม นิค และเอวาอยู่ด้วย
“ผมสารวัตรยุทธการครับ ขอโทษที่ไม่ได้บอกคุณแต่แรก และนี่จ่าสมผู้ช่วยผมครับ”
เมฆกับจ่าสมพยักหน้าให้กัน
“คุณจะช่วยหมอกกับซันได้ไหมครับ” เมฆถาม
“ได้ครับ แต่คุณต้องบอกข้อมูลบางอย่างกับผมด้วย”
เมฆงง “ข้อมูล หมายความว่าไงครับ คุณคิดว่าการที่หมอกกับซันถูกจับตัวไป พวกมันต้องการอะไรที่ไม่ใช่เงินเหรอครับ”
ยุทธการ พยักหน้ารับ “คุณอิงฟ้าตอนอยู่ต่างประเทศเธอใช้ชื่อว่าเอ็มม่าหรือเปล่าครับ”
เมฆงง “เอ่อ...ผมก็ไม่แน่ใจครับ เพราะเขาไม่เคยติดต่อมาเลย เดี๋ยวนะครับ แล้วมันเกี่ยวกับอิงฟ้ายังไงครับ”
ยุทธการส่งรูปเอ็มม่ากับอิงฟ้าให้เมฆดู
“คุณคิดว่าผู้หญิงสองคนนี่ใช่คนเดียวกันไหมครับ” ยุทธการถาม
“ใช่ครับ ใช่แน่นอนที่สุด” เมฆตอบ
“พวกค้ายาเสพติดข้ามชาติ กำลังตามหาตัวเธอ และเธอคือกุญแจสำคัญ”
เมฆ นิค และเอวามีสีหน้าตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน

ลูกน้องของเฮลมุทพาตะวันฉายที่อุ้มหมอกเดินเข้ามานั่งในห้องๆ หนึ่งภายในโกดังร้าง เฮลมุทเดินเข้ามาจ้องหน้าหมอก หมอกร้องไห้ด้วยความกลัว
ลูกน้องพูดกับเฮลมุท “เด็กคนนี้แหล่ะครับ”
เฮลมุทยิ้มเหี้ยมให้หมอก หมอกหันหน้าหนีพร้อมกับกอดตะวันฉายแน่น
“คุณจับเราสองคนมาทำไม” ตะวันฉายถาม
“อิงฟ้าอยู่ไหน”
“พวกเราไม่รู้หรอก”
“แต่เด็กนี่ต้องรู้สิว่าแม่อยู่ไหน”
เฮลมุทพยักหน้าให้ลูกน้องอุ้มหมอกแยกออกมาจากตะวันฉาย
“จะทำอะไรเด็กน่ะ อย่านะ” ตะวันฉายร้องลั่น
“ฉันให้โอกาสอีกครั้ง....แม่ของเด็กคนนี้อยู่ที่ไหน” เฮลมุทถาม
“ผมไม่รู้จริงๆ เพราะตอนที่มานี่คุณฟ้าก็ไม่อยู่แล้ว”
“ไม่เป็นไร I’ll find the way.”
เฮลมุทจ้องหน้าตะวันฉายอย่างเอาเรื่อง

ที่บ้านเมฆ เมฆรู้เรื่องทั้งหมดก็รู้สึกเสียใจ
“ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าอิงฟ้าจะเกี่ยวข้องกับพวกนั้น”
“งั้นนี่ก็คงเป็นเหตุที่คุณอิงฟ้ากลับมาที่นี่” นิคบอก
“ก็อาจเป็นไปได้ แล้วตอนที่คุณอิงฟ้าหนีมาที่นี่ พวกมันคงตามมาระยะหนึ่งแล้ว คุณอิงฟ้าเองก็คงได้เจอกับพวกมันถึงได้รีบหนีไป” ยุทธการสรุป
“นี่คุณรู้เรื่องทั้งหมด แล้วทำไมไม่บอกผม คุณเห็นชีวิตพวกเราเป็นอะไร” เมฆว่า
“ผมขอโทษครับ ผมให้จ่าสมเฝ้าอิงฟ้าไว้ตลอด แต่ไม่คิดว่ามันจะใช้วิธีเล่นงานที่หมอก”
เมฆทุบเก้าอี้ด้วยความโกรธ

“ใจเย็นๆนะคะพี่เมฆ พี่ยุทธคะ แล้วเราจะทำไงต่อ” เอวาถาม
“ตอนนี้คงต้องรอพวกมันติดต่อกลับมาอย่างเดียว ผมเชื่อว่าไม่นาน เพราะเป้าหมายของพวกมันคือคุณอิงฟ้าหรือเอ็มม่า ไม่ใช่หมอกกับซัน”
“ถ้าหมอกหรือซันเป็นอะไร ผมเอาเรื่องคุณแน่” เมฆโกรธ
ทุกคนนั่งนิ่งอย่างจนหนทาง แล้วโทรศัพท์ของเมฆก็ดังขึ้น เมฆหยิบมาดู
“เบอร์นี้ผมไม่รู้จัก”
“เบอร์ซันค่ะ” เอวาบอก
“เปิดสปีคเกอร์ด้วยนะครับ”
เมฆกดเปิดสปีคเกอร์
“ฮัลโหล”
เฮลมุทยื่นโทรศัพท์ให้หมอกพูด
“พ่อคร้าบ ช่วยหมอกด้วยนะครับ”
“หมอก อยู่ไหนน่ะลูก”
เฮลมุทดึงโทรศัพท์กลับไปพูดทันที
“ถ้าอยากได้ลูกคืน ต้องเอาตัวอิงฟ้ามาแลก”
“ลูกผมอยู่ที่ไหน ปลอดภัยหรือเปล่า แกต้องการอะไร”
“ฉันต้องการตัวอิงฟ้า ถ้าอยากให้เด็กปลอดภัย ก็ส่งตัวอิงฟ้ามาเดี๋ยวนี้”
ยุทธการส่งสัญญาพยักหน้าให้รับปาก
“ได้...จะให้พาไปที่ไหน” เมฆถาม

อิงฟ้านั่งอ่านหนังสือที่สนามแต่ก็ไม่มีสมาธิจึงวางหนังสือลง สักพักเธอก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ อิงฟ้ากดรับสาย
“เมฆเหรอ...” อิงฟ้างง “อยู่หน้าบ้าน? ฟ้าบอกแล้วว่าไงว่าอย่ามา....อะไรนะ หมอกหายตัวไปเหรอ?”
อิงฟ้ารีบกดวางสายแล้วรีบวิ่งไปที่ประตูใหญ่ พอเปิดประตูอิงฟ้าเห็นเมฆ ยุทธการ นิค และเอวายืนอยู่ อิงฟ้ารีบถามเมฆ
“เมฆ หมอกหายไปได้ไง พวกมันมาจับตัวหมอกไปใช่ไหม”
“ฟ้ารู้มาตลอดว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น”
เมฆจ้องหน้าอิงฟ้าด้วยความโกรธ อิงฟ้าเริ่มร้องไห้ด้วยความเสียใจ
“ผมเคยถามแล้วใช่ไหมว่าฟ้ามีปัญหาอะไรทำไมต้องมาอยู่ แล้วทำไมไม่บอก ฟ้าเห็นแก่ตัวมาก” เมฆว่า

อ่านละคร ตะวันฉายในม่านเมฆ ตอนที่ 11/3 วันที่ 13 ม.ค. 56

ตะวันฉายในม่านเมฆ บทประพันธ์โดย ภาวิน
ตะวันฉายในม่านเมฆ บทโทรทัศน์โดย
กฤษณ์ มงคลเกษม,พิมพ์พชา รุ่งประพันธ์,วิวัฒน์ กฤษณาเวศน์
ตะวันฉายในม่านเมฆ กำกับการแสดงโดย ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติ
ตะวันฉายในม่านเมฆ ดำเนินการผลิต ณัฐพงศ์ เหมือนประสิทธิ์เวช
ตะวันฉายในม่านเมฆ ผลิตโดย บริษัท เมคเกอร์ กรุ๊ป จำกัด
ที่มา manager