@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร แรงปรารถนา ตอนที่ 12 วันที่ 23 ม.ค. 56

อ่านละคร แรงปรารถนา ตอนที่ 12 วันที่ 23 ม.ค. 56

“ผมเชื่อคุณ ผมรู้ว่าคุณไม่ได้ทำ และจะไม่มีวันทำแบบนั้น ทุกอย่างที่เกิดขึ้นต้องเป็นฝีมือของนายภูวดล”
สุอาภาท้อใจ
“ฉันไม่เข้าใจว่าไปทำอะไรให้เค้าไม่พอใจ เค้าถึงต้องการทำลายฉัน ถ้าลำพังฉันคนเดียว เค้าจะฆ่าจะแกงยังไงฉันก็ยอม แต่ทำแบบนี้เท่ากับทำร้ายป๋าด้วย แล้วถ้าเกิดป๋าเห็นข่าวนี้ แล้วเป็นเหมือนตอนนั้นอีก ฉันรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้แล้วนะพิท ฉันรับไม่ได้อีกแล้ว”
สุอาภาน้ำคาคลอแล้วร้องไห้ น้ำตาไหล พิทยามองอย่างเห็นใจมาก..ยกมือเช็ดน้ำตาให้ แล้วดึงเธอเข้ามากอด เธอร้องไห้อย่างสุดที่จะอั้นได้อีกต่อไป
“ผมขอโทษ”

สุอาภาแปลกใจ
“ขอโทษฉันทำไม”
“อาจเป็นเพราะผมที่ทำให้คุณแตต้องเจอเรื่องแบบนี้ คนที่ภูวดลต้องการเล่นงานน่าจะเป็นผมมากกว่า ผมจะไม่ยอมให้คุณต้องมารับเคราะห์หรือถูกกระทำจากนายนั่นอีก”


พิทยาพูดในอาการมาดมั่น
สุอาภามองพิทยาด้วยความสงสัย

“นายจะทำอะไร”
“ไปทำให้ทุกอย่างมันจบ”
พิทยาหน้าเอาเรื่องด้วยความโมโหมาก ลุกขึ้นจะเดินออกไป เธอตกใจรีบจับแขนเขาเอาไว้
“อย่าทำอะไรบ้าๆนะพิท”
“ผมจะไม่ทนเห็นมันทำร้ายคุณ”
สุอาภาอึ้งและแอบรู้สึกดี เธอจับมือพิทยาสองข้าง
“ฉันไม่เป็นไร อย่าไป ถ้านายต้องเดือดร้อนเพราะฉัน ฉันจะไม่ให้อภัยตัวเองเด็ดขาด”
พิทยาเห็นแววตาที่จริงใจของสุอาภาก็ค่อยๆผ่อนลง
“สัญญากับฉันว่านายจะไม่เอาตัวเข้าไปเสี่ยงกับคนชั่วแบบนายภูวดล มันไม่คุ้มกัน คนดีอย่างนายไม่สมควรจะเป็นอะไร”
พิทยาดึงมือออกมาจากสุอาภา แล้วเป็นฝ่ายกุมมือสุอาภาเอาไว้เอง พิทยามองหน้าสุอาภาแล้วก็พยักหน้ารับ
“ผมสัญญา”
สุอาภายิ้มดีใจเผลอกอดพิทยา พิทยาชะงัก อึ้ง รู้สึกดีสุดๆ เมื่อเธอรู้ตัวว่ากอดพิทยาอยู่ก็รีบผละออกมา ทำหน้าเก้อๆเขินๆ
“ฉัน..เออ...ฉัน...ไปห้องน้ำก่อนนะ”
สุอาภารีบจ้ำเดินออกไป พิทยายิ้มออกมา

ภายในห้องรับแขก บ้านภูวดล เวลาเช้า รวีพรรณ รมณี ยืนประจันหน้ากับศรีพิไล ภูวดล และภาสันต์ รมณีมองภูวดลด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์อย่างแรง
“ทำกับลูกสาวน้าแบบนี้ได้ยังไง”
“ใจเย็นก่อนรมณี” ศรีพิไลว่า
“เธอจะให้ฉันใจเย็นอีกยังไงไหว คุณทำแบบนี้หลายครั้ง แล้วทุกครั้งฉันก็ให้อภัย”
รวีพรรณทำเป็นห้าม
“พอเถอะค่ะคุณแม่ เรากลับบ้านกันเถอะ”
รมณีหันไปทางรวี และมองภูวดล
“แม่ยังไม่เคลียร์จบ อธิบายมา”
“ผมไม่ได้ทำอะไรผู้หญิงคนนั้น มีคนต้องการแกล้งผม”
ภูวดลปรายตามองรวีพรรณที่ทำนิ่ง
“แล้วใครที่ต้องการแกล้งคุณ”
ภูวดลหยิบมือถือออกมากดข้อความที่รวีพรรณส่งมายื่นให้รมณีอ่าน
“ก่อนที่งานแฟชั่นจะเริ่ม คุณรวีเมสเสจมาบอกให้ผมไปพบ แต่พอผมไปถึง กลับเจอสุอาภา”
รวีพรรณอึ้งมาก รมณี ศรีพิไล ภาสันต์ต่างนิ่งไปและหันไปมองรวีพรรณ
รวีพรรณหันมาทางภูวดลแล้วรีบแก้ตัว
“รวีเมสเสจไปจริงค่ะ ฉันรอคุณอยู่นาน แต่คุณก็ไม่มา ฉันก็เลยต้องกลับเข้าไปในงาน อย่ามาใส่ร้ายกันแบบนี้สิคะ”
“โกหก!”
ภาสันต์สุดทน
“เงียบ! ยอมรับผิดแล้วก็ขอโทษทุกคนเดี๋ยวนี้!”
ภูวดลผงะ ไม่พอใจ
“ผมไม่ได้ทำ ทำไมผมต้องขอโทษ”
ภูวดลหันไปมองรวีพรรณด้วยแววตาโกรธแค้นแล้วก็จ้ำเดินออกไปทันที รมณีตกใจกับท่าทางเกรี้ยวกราดของภูวดล ศรีพิไลกับภาสันต์ถึงกับหน้าเสีย
“พ่อดล...จะไปไหน”
ภูวดลไม่ตอบและเดินออกไปเลย รมณีเริ่มไม่พอใจนิดๆ
“ฉันไม่นึกว่าลูกชายเธอจะเป็นคนแบบนี้ เสียแรงที่รักและไว้ใจ ยกลูกสาวคนเดียวให้ดูแล สงสัยฉันคงต้องคิดอีกทีแล้วล่ะมั้ง”
รวีพรรณลอบยิ้มอย่างพอใจ ศรีพิไลกับภาสันต์ตกใจ
“ผมว่าเราค่อยๆ พูดค่อยๆ จากันดีกว่า อย่าเพิ่งตัดสินอะไรตอนนี้เลยนะครับ ขอผมจัดการลูกชายผมก่อน”
รมณีไม่พูด รวีพรรณสบายใจ ภาสันต์กับศรีพิไลมองหน้ากันด้วยความเครียด

ในเวลาต่อมา รมณีกลับเข้ามาในบ้าน ณรงค์เดินออกมา
“ลูกล่ะคุณ”
“ไปร้าน”
“แล้วฝ่ายนั้นว่ายังไงบ้าง”
“ก็บอกให้เราใจเย็น แต่ฉันเย็นไม่ไหว พ่อดลทำฉันผิดหวังมาก”
“ผู้ชายเนื้อหอมอย่างนั้น เป็นธรรมดาที่จะมีข่าวเรื่องผู้หญิง แล้วยิ่งมีข่าวกับยัยสุอาภา คุณก็รู้ว่านังนี่มันเน่าขนาดไหน ผมว่าเราอย่าไปถือสาเลย”
“คุณเป็นผู้ชายก็เข้าข้างกันสิ”
“ผมไม่ได้เข้าข้าง แต่เราประกาศออกไปแล้วว่าลูกสาวเราจะแต่งงาน ถ้าเกิดวิวาห์ล่มไม่เสียหน้าแย่เหรอ ไอ้เรื่องคบกิ๊กคบกั๊ก ผมว่าสมัยนี้มันธรรมดาออกจะตาย เดี๋ยวคนก็ลืม”
รมณีคล้อยตาม
รมณีคิดและเห็นด้วย
“มันก็จริง เฮ้อ ฉันก็โมโหมากไป เดี๋ยวต้องโทรไปหาศรีพิไลซักหน่อยแล้ว ไม่งั้นเค้าจะคิดว่าเราปฏิเสธไม่แต่งงานกับลูกชายเค้า”

ณรงค์พยักหน้า รมณีหยิบมือถือออกมากดโทรออก
พิทยาเดินมาหาสุอาภาที่กำลังจะทำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป

“ออกไปหาอะไรทานกันดีกว่าคุณแต”
สุอาภาชะงัก สีหน้ามีแววกังวล
“ไม่ล่ะ นายไปคนเดียวเถอะ ฉันไม่อยากออกไปไหน”
“เราไม่ได้ทำอะไรผิด ทำไมเราต้องไปสนใจว่าคนจะคิดยังไง”
“ฉันเบื่อสายตาพวกนั้น”
“คุณก็เลยจะขังตัวเองให้อยู่แต่ในบ้าน แล้วคิดจะอยู่แบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่”
สุอาภาเงียบ ก่อนมองพิทยาแล้วก็ถอนหายใจออกมา

พิทยากับสุอาภาเดินเข้ามา เห็นลูกค้าที่เดินไปเดินมาหันมามองสุอาภา แล้วก็ซุบซิบกันว่า ใช่คนที่เป็นข่าวรึเปล่า สุอาภารู้สึกไม่สบายใจ
“ฉันกลับล่ะนะ”
พิทยาคว้ามือสุอาภาเอาไว้ สุอาภาหันไป
“เราเพิ่งออกมาเอง”
“นายไม่เห็นคนมองฉันเหรอ”
พิทยาไม่พูดอะไร โอบสุอาภาเข้ามาประชิดตัวเอง สุอาภาชะงัก
“นายทำอะไร”
“ทำให้ทุกคนเห็นว่าความจริงมันเป็นยังไง”
สุอาภาอึ้ง พิทยายิ้มให้เธอ แล้วก็พาเธอเดินออกไป พวกคนที่ซุบซิบสุอาภามองตามด้วยความงง

ภายในร้านอาหาร สุอาภากับพิทยากำลังทานข้าว แต่เธอยังรู้สึกไม่สบายใจ เหลือบตามองไปรอบๆร้าน
“ทานข้าวเถอะ ไม่มีใครเค้าสนใจคุณหรอก”
สุอาภาถอนใจ มีลูกค้าเดินมานั่งโต๊ะข้างๆ พอเห็นสุอาภากับพิทยาก็สะกิด แล้วก็เมาท์เผาขนทันที
“นี่มันยัยไฮโซที่เป็นข่าว ก็ยังมากับผัวได้อีก ไม่ละอายบ้างเหรอไง”
สุอาภากับพิทยาได้ยินและเริ่มทนไม่ไหว เธอจะหันไปเอาเรื่อง แต่เขาจับแขนเธอเอาไว้
เธอหันไปมอง แล้วเขาก็ป้อนข้าวให้เธอ
“ทานสิครับ”
สุอาภาชะงักไปนิดนึง เห็นลูกค้าสองคนหันมาจ้องด้วยความอยากรู้ สุอาภากินข้าวที่พิทยาป้อน
“ทานนี่ด้วยนะ”
พิทยาป้อนสุอาภาอีก แล้วก็เอากระดาษมาเช็ดปากให้ ทำสวีตกัน ลูกค้าที่เมาท์สุอาภาถึงกับหน้าแตกเพล้ง!!! สุอาภากับพิทยาอมยิ้มให้กัน

ในเวลาบ่าย รวีพรรณเปิดประตูส่งลูกค้าออกจากร้านอาหาร สีหน้าเธอแฮปปี้มาก
“ขอบคุณมากนะคะ”
รวีหันหลังเดินไปหาสินีนาฎที่ยืนตรงเคาน์เตอร์ สินีนาฎมองเพื่อนด้วยความรู้สึกแปลกๆ เธอเห็นรวีพรรณกดมือถือตัวเอง
“แทนที่เธอจะกังวลเรื่องข่าวคุณภูวดลกับยัยสุอาภา แต่ทำไมเธอถึงดูมีความสุขจัง”
รวีพรรณวางมือถือลงบนเคาน์เตอร์
“ในเน็ต...มีแต่คนเข้ามาด่ายัยนั่น ฉันจะไม่มีความสุขได้ยังไง”
“คงไม่ใช่แค่นี้ล่ะมั้ง เธอคงคิดว่าข่าวนี้จะทำให้พิทกับยัยนั่นเลิกกันได้ล่ะสิ”
รวีพรรณหันมายิ้มพร้อมยักไหล่แทนคำตอบ สินีนาฎตั้งข้อสงสัยต่อ
“แต่ก็น่าแปลกที่นักข่าวดันมาเห็นเข้าพอดี ทั้งๆที่เป็นห้องเก็บของข้างหลัง อย่างกับมีคนบอกทาง”
รวีพรรณไม่พูดอะไรเอาแต่อมยิ้ม แล้วก็หันไปเห็นลูกค้าเข้าร้านเลยเดินออกไปต้อนรับ
“สวัสดีค่ะ”
สินีนาฎมองตามรวีพรรณด้วยความสงสัยมากๆ
ระหว่างนั้นเสียงมือถือรวีดังขึ้น สินีนาฎหันไปมองเห็นเบอร์แปลก ด้วยความอยากรู้เลยถือวิสาสะรับสายแทน
“ฮัลโหล”
“โอนเงินมาให้ผมเหรอยัง”
สินีนาฎ ฟังแล้วก็ชะงัก
“ฉันไม่ใช่รวีค่ะ ไม่ทราบใครโทรมาคะ ฉันจะบอกรวีให้”
“ผมสุเทพ...นักข่าว บอกคุณรวีแค่นี้ แล้วก็ให้โทรกลับผมด้วย”
นักข่าววางสาย สินีนาฎมั่นใจว่า ข่าวที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือรวีพรรณแน่นอน รวีพรรณกำลังเดินกลับมา สินีนาฎเห็นก็รีบจดเบอร์นักข่าวใส่กระดาษ ก่อนจะลบเบอร์ทิ้งแล้ววางไว้ที่เดิม รวีพรรณเดินมาถึงพอดี
“มีใครโทรหาฉันรึเปล่า”
“ไม่มี”
สินีนาฎเดินออกไป รวีพรรณไม่ได้ติดใจสงสัย หยิบมือถือขึ้นมา แล้วเดินออกไป

ภายในห้างสรรพสินค้า พิทยายังคงจับมือสุอาภาเดินไปตามทางด้วยกัน สุอาภาเก้อๆเขินๆ
“ไม่มีใครมองฉันแล้ว เลิกสร้างภาพเถอะ”
พิทยาหันมา
“ผมไม่ได้สร้างภาพ สิ่งที่ผมทำเพราะผมอยากทำ”
สุอาภาอึ้ง พิทยากระชับมือเธอแน่นขึ้นแล้วยิ้มให้ สุอาภารู้สึกดีจนต้องหันไปลอบยิ้มอีกทาง ระหว่างนั้นเสียงมือถือพิทยาดังขึ้น พิทยาเอาออกมา
“รวีโทรมา … ครับรวี ผมอยู่ข้างนอก แต่คุณจะมาหาผมก็ได้”
สุอาภามองอย่างสงสัย

รวีพรรณเดินมาตามทาง สีหน้าแช่มชื่นมากๆ เห็นพิทยานั่งอยู่คนเดียว เธอรีบจัดเสื้อผ้าแล้วเดินเข้ามาหาในร้านทันที
“พิทคะ...”
พิทยาหันไป รวีพรรณสังเกตเห็นกระเป๋าสะพายวางอยู่ที่เก้าอี้ข้างๆก็แปลกใจ แต่ยังไม่ทันถาม สุอาภาก็เดินเข้ามา รวีพรรณหันไปเห็นสุอาภาก็หน้าเจื่อนลงอย่างเห็นได้ชัด แต่จำต้องฝืนยิ้มเอาไว้
“คุณแต”
สุอาภายิ้มให้แล้วก็นั่งลงข้างพิทยา
“นั่งสิรวี”
รวีพรรณนั่งลง งุนงงกับสิ่งที่เห็นมากๆ
“เห็นพิทกับคุณแตออกมาด้วยกันแบบนี้ แสดงว่าคุณสองคนไม่ได้ทะเลาะกัน”
“ผมรู้ดีว่าเรื่องที่เกิดขึ้น เป็นฝีมือของใครและที่สำคัญผมเชื่อใจคุณแต ผมรู้ว่าคุณแตไม่ได้เป็นแบบที่ข่าวเค้าเขียน”
สุอาภายิ้มให้พิทยา สองคนยิ้มให้กัน ทำให้รวีพรรณไม่พอใจเลยรีบเปลี่ยนเรื่อง
“สิ่งที่คุณภูวดลทำ.. มันแย่มากจริงๆ ฉันโมโหแทนคุณแตมากเลยนะคะ”
“ขอบคุณนะคะที่เป็นห่วงฉัน”
รวีพรรณแสร้งยิ้มจริงใจ นึกอะไรออก
“ข่าวนี้ทำให้แม่รวีเห็นธาตุแท้ของคุณภูวดล บางทีรวีอาจจะไม่ต้องแต่งงานกับเค้าแล้วก็ได้”
พิทยากับสุอาภาดีใจ
“จริงเหรอรวี ผมขอให้เป็นแบบนั้นจริงๆ ผมจะได้สบายใจ”

รวีพรรณกับพิทยายิ้มให้กัน พอสุอาภาเห็นสองคนยิ้มให้กัน ก็ชักรู้สึกใจหายแปลกๆ เหมือนว่าถ้ารวีพรรณไม่ต้องแต่งงาน เธออาจจะต้องคืนพิทยาให้รวีพรรณ
ภูวดลเดินมาเจอสินีนาฎยืนรออยู่ในสถานที่แห่งหนึ่ง

“นัดผมออกมามีอะไร”
สินีนาฎหันมา
“เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเป็นฝีมือของรวี”
“ผมรู้อยู่แล้ว แต่ผมไม่มีหลักฐานพูดไปใครจะเชื่อ!”
“แต่ฉันมี”
ภูวดลชะงัก สินีนาฎยื่นกระดาษที่จดเบอร์นักข่าวให้ ภูวดลรับมาเปิดอ่านเห็นข้อความเขียนว่า “สุเทพ นักข่าว...” มีเบอร์โทรศัพท์ต่อท้าย
“ฉันช่วยคุณได้เท่านี้ ที่เหลือคงต้องเป็นหน้าที่ของคุณ”
สินีนาฎพูดจบก็เดินออกไป ภูวดลมองเบอร์โทรศัพท์ในกระดาษอีกครั้งแล้วก็ครุ่นคิด ก่อนจะนึกอะไรออก เขากดเบอร์โทรออก ไม่นานมีคนรับสาย
“คุณสุเทพนะครับ”
ภูวดลสีหน้าเหี้ยม เอาจริง

ภายในห้างสรรพสินค้า เสียงมือถือรวีพรรณดังขึ้น รวีพรรณหยิบออกมาเห็นเบอร์ก็รีบกดรับสาย
“ฉันกำลังจะโอนเงินไปให้”
“ผมต้องการเงินสด คุณต้องเอามาให้ผม”
“ให้ไปเจอที่ไหน”
รวีพรรณตั้งใจฟัง

สุอาภาเดินซึมกลับเข้ามา พิทยาเดินตามมาเห็นสีหน้าของสุอาภาก็แปลกใจ
“ยังคิดมากเรื่องนั้นอยู่อีกเหรอ”
สุอาภาหันมาบอก
“เปล่า”
“เปล่าอะไร ก็หน้าคุณมันฟ้องซะขนาดนี้”
สุอาภามองหน้าพิทยาแล้วก็กลั้นใจถามเพราะอยากรู้
“พิท..ถ้าเกิด คุณรวีไม่ต้องแต่งงานกับนายภูวดล นาย...ช่างเถอะ”
สุอาภาหันหลังไม่รู้จะพูดยังไง ยิ่งทำให้พิทยาสงสัย พิทยาเดินมาตรงหน้า
ไมีอะไรก็พูดมา ทำแบบนี้ ผมยิ่งอยากรู้”
“ฉันไม่อยากถามแล้ว”
“คุณจะมาพูดส่งๆแบบนี้ไม่ได้นะ”
สุอาภามองหน้าพิทยา คิด แล้วก็ตัดสินใจ

อ่านละคร แรงปรารถนา ตอนที่ 12 วันที่ 23 ม.ค. 56

ละครแรงปรารถนา บทประพันธ์โดย อาริตา
ละครแรงปรารถนา บทโทรทัศน์ : ปณธี
ละครแรงปรารถนา กำกับการแสดง : ยุทธนา ลอพันธ์ไพบูลย์
ละครแรงปรารถนา แนวละคร : โรแมนติก - ดราม่า
ละครแรงปรารถนาดำเนินงานสร้าง : บริษัทละครไท จำกัด โดย หทัยรัตน์ อมตวณิชย์
ละครแรงปรารถนา ออกอากาศ : ทุกวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 20.30 น. ช่อง 3 (ต่อจากเหนือเมฆ)
ที่มา manager