@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร ตะวันฉายในม่านเมฆ ตอนที่ 12/3 วันที่ 14 ม.ค. 56

อ่านละคร ตะวันฉายในม่านเมฆ ตอนที่ 12/3 วันที่ 14 ม.ค. 56

เมฆกับตะวันฉายมองหน้ากันอย่างอึ้งๆ หมอกเดินมาจับแขนเมฆกับตะวันฉาย
“พ่อครับ พี่ซัน พาหมอกไปหาแม่หน่อยสิ หมอกอยากเจอแม่”
“ไม่ต้องห่วงนะครับหมอก อีกไม่นานหมอกได้เจอกับแม่แน่” เมฆบอก
“พ่อหลอกหมอก หลอกมาหลายวันแล้ว”
ตะวันฉายนั่งลง “น้องหมอกครับ คุณพ่อก็ยังไม่สบายอยู่ รอให้คุณพ่อหายก่อนนะครับ”
“พี่ซันล่ะ พี่ซันพี่เก่งก็พาไปได้นี่”
ทุกคนนิ่งเพราะพูดไม่ออก หมอกเดินนิ่งๆเศร้าๆเข้าบ้านไป เก่งรีบวิ่งตามเข้าไปทันที

ตะวันฉายนำหมอกสวดมนต์ พอตะวันฉายกับหมอกกราบหมอนเสร็จ ตะวันฉายจะลงจากเตียงแต่หมอกยังนั่งพนมมือต่อ
“เอ...วันนี้ที่โรงเรียนสอนบทสวดมนต์เพิ่มเหรอครับ” ตะวันฉายถาม
หมอกหลับตาแล้วพูด “หลวงพ่อครับ หมอกอยากเจอแม่ หมอกคิดถึงแม่ หลวงพ่อพาแม่กลับมาหาหมอกเร็วๆนะครับ”
หมอกก้มลงกราบหมอนสามครั้ง



ตะวันฉายลงไปนั่งข้างๆหมอก แล้วดึงหมอกมากอดด้วยความรัก
“น้องหมอกครับ พี่ซันจะช่วยขอหลวงพ่อให้พาคุณแม่กลับมาเร็วๆอีกคนนะครับ”
หมอกยิ้ม “งั้นเราบอกให้พ่อกับพี่เก่งช่วยกันขอหลวงพ่อด้วยนะครับ”
ตะวันฉายกับหมอกยิ้มให้กัน แล้วหมอกก็นอน ตะวันฉายห่มผ้าให้ เมฆที่ยืนแอบดูอยู่ตรงประตูน้ำตาไหลเพราะสงสารหมอก

จ่าสมดึงจี้ออกมาจนเห็นชิปคอมพิวเตอร์ เขานำไปเปิดกับคอมพิวเตอร์ ยุทธการนั่งอยู่ด้วย เฮลมุทที่ถูกควบคุมตัวนั่งอย่างทะนงตัวและยิ้มเยาะ บนหน้าจอเป็นรายชื่อคนเต็มไปหมด
เฮลมุทพูดภาษาอังกฤษ “คุณจะจับผมเพราะผมมีรายชื่อไม่ได้นะ”
เฮลมุทชูมือที่ถูกใส่กุญแจมืออยู่ขึ้นมา
เฮลมุทพูดภาษาอังกฤษ “ผมจะให้ทนายทำเรื่องฟ้องพวกคุณ”
ยุทธการ พูดภาษาอังกฤษ “มันเป็นสิทธิ์ของคุณครับ อย่าลืมฟ้อง FBI ด้วยแล้วกัน”
“ไม่ต้องมาขู่ผม FBI มาเกี่ยวอะไรด้วย”
“เกี่ยวเต็มๆเลยล่ะครับ คุณคงไม่รู้ว่าตอนนี้คุณถูกหมายจับในฐานะที่เป็นผู้ร้ายข้ามแดน”
“อะไรวะเนี่ย”
“ส่วนรายชื่อพวกนี้ก็เป็นหลักฐานชิ้นสำคัญสำหรับการขยายผลการจับกุมต่อด้วย”
“บ้าที่สุด”
“อ้อ...แล้วถ้าอยากได้คดีในประเทศผม ผมจะจัดคดีลักพาตัว กักขัง ทำร้ายร่างกาย และพยามฆ่าให้นะ”
จ่าสมพาเฮลมุทเดินออกไป เฮลมุททำเป็นฮึดฮัดแต่ก็ถูกจ่าสมพาตัวออกไปในที่สุด

ยุทธการใส่ชุดตำรวจนั่งดูแฟ้มโดยมีอิงฟ้านั่งอยู่ตรงหน้า จ่าสมยืนอยู่ข้างๆอิงฟ้า
“ทางเฮลมุทยอมสารภาพว่าคุณอิงฟ้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ทั้งหมด เขาเพียงแต่หลอกใช้คุณ” ยุทธการพูด
“รายชื่อลูกค้าและเอเย่นต์ของขบวนยาเสพติดที่มันเก็บไว้ในจี้แล้วฝากไว้ที่ฟ้า โดยใช้โค้ดว่าเปเปอร์” จ่าสมพูดต่อ
“ฮึ...ฟ้าโง่เอง นึกว่ามันรักฟ้า ที่แท้ฟ้าก็ไม่ต่างอะไรกับลูกน้องของมัน”
“เท่าที่รู้เฮลมุทมีปัญหากับกลุ่มค้ายาเลยขโมยรายชื่อพวกนี้มาเก็บไว้ หวังจะเอาไปสร้างกลุ่มใหม่ แต่พอคุณอิงฟ้าหนีมาเมืองไทยมันก็เลยต้องตามหาคุณ”
“เอ๊ะ...ถ้าอย่างนั้นฟ้าก็ไม่ได้พ้นผิดคนเดียวน่ะสิ เพราะแค่รายชื่อมันเอาผิดอะไรกับเฮลมุทไม่ได้นี่คะ”
“เฮลมุทก็พูดเหมือนคุณอิงฟ้าครับ”
อิงฟ้าหน้าเสียขึ้นมาทันที
“แต่ไม่ต้องห่วงนะครับ มีคนช่วยให้พวกนั้นไม่มาราวีกับคุณอิงฟ้าได้อีก”
“ใครคะ”

ยุทธการกับจ่าสมพาอิงฟ้าเดินมาที่หน้าตึก เฮลมุทถูกควบคุมตัวอยู่และกำลังจะถูกส่งขึ้นรถตำรวจ อิงฟ้าเดินมาหาเฮลมุท เฮลมุทจ้องหน้าอิงฟ้าด้วยความแค้นก่อนจะโดนควบคุมตัวขึ้นรถผู้ต้องหาไป
“ตำรวจ FBI จะมารอรับตัวเฮลมุทไปดำเนินคดีต่อที่อเมริกา เพราะทางโน้นได้หลักฐานว่าเฮลมุทส่งยาเสพติดเข้าประเทศ” ยุทธการบอก
อิงฟ้าหันกลับมามองจ่าสมแล้วจะร้องไห้ จ่าสมจับไหล่อิงฟ้าเพื่อปลอบ
“ต่อจากนี้ก็ตั้งต้นใหม่นะลูก”
“พ่อให้โอกาสฟ้าใช่ไหมคะ”
จ่าสมยิ้มอิงฟ้าโผเข้ากอด ยุทธการมองสองพ่อลูกกอดกันแล้วก็ยิ้มดีใจ

หมอกเอาแต่นั่งที่สระน้ำพร้อมกับมองไปที่ประตูเพื่อรอแม่ โดยมีเก่งนั่งปาดเหงื่อไปด้วย
“คุณหมอกครับ เข้าบ้านทานข้าวเถอะครับ ป่านนี้คุณซันทำอาหารเสร็จแล้ว มานั่งตรงนี้ร้อนออกครับ”
“ไม่กิน หมอกจะนั่งนี่” หมอกบอก
ตะวันฉายประคองเมฆเดินออกมา
“หมอก ทำไมทำอย่างนี้กับพี่เก่งละลูก” เมฆถาม
“ก็หมอกจะรอแม่นี่ครับ หมอกอยากเจอแม่พ่อก็ไม่พาไปหาแม่”
ตะวันฉายนั่งข้างๆ หมอกแล้วกอดหมอก หมอกร้องไห้
“ที่พ่อไม่พาไปเพราะแม่เขากลับมาแล้วไงครับ นั่นไง” เมฆว่า
หมอกหยุดร้องไห้แล้วมองไปที่ประตู เขาเห็นอิงฟ้าเดินเข้ามา
หมอกตะโกน “แม่”
หมอกวิ่งไปหาอิงฟ้า ทั้งคู่กอดกันแน่นแล้วก็ร้องไห้
ตะวันฉายพูดกับเมฆ “นี่เป็นภาพที่ซันประทับใจที่สุดเลยค่ะ”
อิงฟ้าได้ยินเสียงก็เงยหน้าขึ้นมองตะวันฉาย
“เอ๊ะ...นี่”
อิงฟ้ามองตะวันฉายที่เป็นผู้หญิงด้วยแววตาสงสัย

ตะวันฉายที่ยืนนอกบ้านพยายามจะหาทางฟังให้ได้ว่าเมฆกับอิงฟ้าคุยอะไรกัน สักพักหมอกก็วิ่งมาดึงแขนเธอ
“พี่ซัน ไปเล่นกันเถอะ”
“น้องหมอก น้องหมอกไม่คิดถึงคุณแม่เหรอ ไม่ได้เจอกันตั้งหลายวัน” ตะวันฉายถาม
“คิดถึงครับ แต่แม่บอกว่าเดี๋ยวคุยกับพ่อเสร็จแล้วจะอยู่กับหมอกทั้งคืนเลย”
หมอกจะดึงตะวันฉายไปแต่ตะวันฉายก็ยังไม่อยากไป
“แล้วน้องหมอกไม่อยากรู้เหรอครับว่าคุณพ่อกับคุณแม่คุยอะไรกัน”
“พ่อบอกว่าคนที่ชอบแอบฟังคนอื่นคือคนไม่มีมารยาท”
ตะวันฉายแอบค้อนใส่ประตูห้อง
“ก็ได้งั้นเราไปเล่นกันก็ได้”
หมอกดึงตะวันฉายออกไป ตะวันฉายจำใจเดินตามหมอกไป

เมฆกับอิงฟ้านั่งคุยกัน
“ฟ้ายอมรับว่าช็อคไปเหมือนกันที่กลับมาแล้วรู้ว่าซันเป็นผู้หญิง แต่มองอีกมุมก็ดีเหมือนกัน เพราะมันแสดงว่าเมฆไม่ได้เป็นเกย์” อิงฟ้ายิ้ม
“แต่เรื่องของเรามัน” เมฆพูด
อิงฟ้าสวนขึ้น “จบไปแล้ว ที่ฟ้าอยากจะบอกคือ ฟ้าดีใจที่เมฆกับคุณซันรักกัน คุณซันเขาเป็นคนดี เขาเหมาะที่จะเป็นแม่ให้หมอกมากกว่าฟ้า”
เมฆอึ้งมองอิงฟ้าเหมือนไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน
“เมฆกับคุณซันรักกันใช่ไหม” อิงฟ้าถาม
“ใช่”
“ฟ้าดีใจด้วยจริงๆค่ะ จากนี้ไปฟ้าอยากให้เมฆได้พบกับความสุขซะที แล้วคุณซันก็คงจะเป็นคนที่ทำให้เมฆมีความสุขได้”
อิงฟ้ายื่นมือมาให้เมฆเช็คแฮนด์
“ยินดีด้วยนะคะ เพื่อนที่ดีที่สุดของฟ้า”
ทั้งสองจับมือกันแล้วยิ้มให้กัน

อิงฟ้าสอนหมอกทำการบ้าน หมอกวิ่งเล่นกับอิงฟ้า ตะวันฉาย และเก่ง เมฆมองอย่างมีความสุข
เมฆ ตะวันฉาย อิงฟ้า และหมอก กินข้าวด้วยกัน โดยที่อิงฟ้าดูแลหมอกเป็นอย่างดี
ตะวันฉายเปิดประตูห้องนอนหมอกเข้ามาก็เห็นอิงฟ้ากำลังเก็บหนังสือนิทานเพราะหมอกหลับไปแล้ว
อิงฟ้าลุกขึ้นแล้วเดินยิ้มมาหาตะวันฉาย ก่อนจะดึงตะวันฉายออกไปข้างนอกห้อง
“ขอคุยอะไรหน่อยได้ไหมคะ” อิงฟ้าบอก
ตะวันฉายพยักหน้ารับ

อิงฟ้าเดินนำตะวันฉายมาที่สนามแล้วหยุดก่อนจะหันมามองจ้องตะวันฉาย ตะวันฉายรู้สึกผิด
ตะวันฉายเริ่มใจไม่ดี “เอ่อ...คุณฟ้ามีอะไรจะคุยกับซันหรือคะ”
“เป็นเพราะฟ้าคนเดียวที่ทำให้ทุกอย่างมันวุ่นวายไปหมด”
“อย่าโทษตัวเองเลยค่ะ ไม่มีใครอยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นหรอก”
อิงฟ้าเดินมาจับมือตะวันฉาย
“ฟ้าขอบคุณคุณซันนะคะที่ช่วยดูแลเมฆกับหมอกมาตลอด แม้ในช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุด”
“ไม่เป็นไรค่ะ”
“ฟ้าเห็นเมฆเขารักคุณซันมากจนยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยคุณแล้ว....ฟ้าดีใจแทนคุณนะคะ”
“เอ่อ...คุณฟ้า”
“ฟ้าไม่คิดอะไรกับเมฆแล้วค่ะ เพราะจริงๆสิ่งที่เมฆทำฟ้าก็เคยได้รับจากผู้ชายคนหนึ่ง เขาให้ฟ้ามาก แต่ฟ้าไม่เห็นค่าในสิ่งที่เขาให้เอง”
“พี่ธีร์ใช่มั้ยคะ”
“คุณรู้เรื่องนี้ ?”
“ค่ะ แต่ซันก็รู้แค่ว่าพี่ธีร์กับคุณมีน้องหมอก แต่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพี่ธีร์หลังจากนั้น คุณฟ้าพอจะเล่าได้มั้ยคะว่ามันเกิดอะไรขึ้น”
อิงฟ้าคิดเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้ารับ

อิงฟ้าเล่าเรื่องในอดีตให้ตะวันฉายฟัง...
ธีรภพนั่งทำงานหน้าเครียดโดยพิมพ์คอมพิวเตอร์ไปคิดไป แล้วเขาก็หยิบสมุดบัญชีมาเปิดดูก่อนจะตัดสินใจเดินออกจากห้องไป อิงฟ้าที่ท้องแก่นั่งถักถุงมือให้เด็กอยู่ที่ห้องนั่งเล่น ธีรภพเดินมานั่งด้วย อิงฟ้ายิ้มให้
“เป็นอะไรคะพี่ธีร์หมู่นี้หน้าเครียดจัง เดี๋ยวลูกออกมาเครียดตามคุณพ่อนะคะ”
ธีรภพถอนใจ “มันมีปัญหาเรื่องงานน่ะ”
“เรื่องงานก็ต้องไว้ที่บริษัทสิคะ อย่าเอามาบ้าน”
“แต่มันจำเป็นน่ะสิฟ้า”
อิงฟ้าเริ่มวางงานแล้วหันมาจ้องหน้าธีรภพ
“มีอะไรร้ายแรงเหรอคะ”
“บริษัทเราติดตัวแดงมาระยะหนึ่งแล้ว ตั้งแต่ปัญหาภายในประเทศทำให้เราไม่มีกรุ๊ปทั้ง Inbound และ outbound เลย”
“ไม่มีทางแก้ไขอะไรได้บ้างเลยเหรอคะ”
“มันก็พอมีนะ” ธีรภพจับมืออิงฟ้า “ฟ้าจะว่าอะไรไหมถ้าผมจะเอาเงินของเราไปช่วยพยุงบริษัท”
“เท่าไหร่คะ”
“ทั้งหมด”
“ไม่ได้นะคะพี่ธีร์ นี่มันเงินของเรา ฟ้าไม่ยอม”
“ฟ้า ผมแค่ขอยืม”
“แล้วถ้าเกิดพี่ธีร์ทำไม่สำเร็จล่ะคะ เงินเราก็จะสูญน่ะสิ”
“ไม่หรอก พี่จะทำให้ดีที่สุด”
“ไม่ค่ะ ยังไงฟ้าก็ไม่ยอม”
“แต่ว่า...”
อิงฟ้าสวนขึ้น “เราจะไม่พูดเรื่องนี้กันอีก”
อิงฟ้าลุกขึ้นธีรภพรีบลุกมาพยุงอิงฟ้า
“สมุดบัญชีอยู่ไหน ฟ้าจะเอามาเก็บเอง”
อิงฟ้าจะก้าวเดินแต่ก็รู้สึกปวดครรภ์
“ฟ้าเป็นอะไร”
“พี่ธีร์ฟ้าเจ็บท้อง”
ธีรภพทั้งตกใจและดีใจ “ห๊า...เจ็บท้องเหรอ งั้นเราไปโรงพยาบาลนะ”
อิงฟ้าพยักหน้าแล้วก็เจ็บท้องอีก ธีรภพค่อยๆประคองอิงฟ้าเดินออกไป

อิงฟ้าอุ้มหมอกในวัยทารกเข้ามาในห้อง โดยมีธีรภพเดินถือของเข้ามา อิงฟ้าอุ้มหมอกลงวางบนที่นอนเด็กที่ถูกเตรียมไว้ ธีรภพวางของแล้วเดินมานั่งดูหน้าหมอก
“เป็นไงครับหมอกลูกพ่อ บ้านเราสวยไหม นี่คือบ้านของพ่อกับแม่แล้วก็ของหมอกนะครับ”
อิงฟ้ามองธีรภพที่เล่นกับหมอกแล้วตัดสินใจพูดขึ้น
“พี่ธีร์คะ แล้วเรื่องเงินที่จะไปช่วยบริษัท เอ่อ...พี่ธีร์ว่าไงคะ”
“ไม่ต้องห่วงนะฟ้า ช่วงที่ฟ้าอยู่โรงพยาบาล ผมคุยกับไอ้วัฒแล้ว เราจะลองหาเงินจากทางอื่นมาช่วย”
อิงฟ้ายิ้ม “แต่ยังไงพี่ธีร์ก็ต้องรีบทำให้ฐานะมั่นคงโดยเร็วนะคะ เพราะตอนนี้เรามีหมอกแล้ว ความเป็นอยู่เราต้องดีกว่าเดิม เพื่อลูกนะคะ”
คนรับใช้เดินเข้ามานั่งคุกเข่า
“คุณธีร์คะ คุณวัฒน์มาพบค่ะ”
“อ้าว...แล้วอยู่ไหนล่ะ ไปพามานี่สิ บอกว่าหลานอยู่ห้องนี้”
“บอกแล้วค่ะ แต่คุณวัฒอยากให้คุณธีร์ไปคุยข้างนอกค่ะ”
ธีรภพกับอิงฟ้ามองหน้ากันด้วยความสงสัย

อิงฟ้าแอบย่องออกมาหน้าบ้านแล้วมาหลบที่กำแพง เธอค่อยๆแอบดูและแอบฟังธีรภพกับวิวัฒน์คุยกันที่สนาม
“ฉันคุยกับคุณศุภเดชแล้ว แกบอกว่าไม่อยากให้เรากู้เงิน แต่จะขอเป็นซื้อหุ้นแทน แล้วแกจะจัดการเรื่องหนี้สินทั้งหมด” วิวัฒน์บอก
“เฮ้ย...นี่มันเท่ากับเข้ามายึดบริษัทของพวกเราชัดๆ”
“งั้นแกจะทำไงวะ กู้คนอื่นก็ไม่มีใครปล่อย ขายหุ้นก็ไม่ขาย ไอ้ธีร์เรากำลังจะล้มละลายกันอยู่แล้วนะเว้ย”
“ฉันจะไม่ยอมให้บริษัทที่ฉันสร้างมากับมือต้องพังลงไปต่อหน้าต่อตา”
“แล้วแกจะทำไง อย่าบอกว่าให้ฉันไปยืมพ่อฉันอีกนะเว้ย”
“ฉันจะเอาเงินครอบครัวฉันมาให้บริษัทยืม” ธีรภพบอก
“เฮ้ย..จะดีเหรอ ก็ไหนแกบอกว่าอิงฟ้าไม่เห็นด้วย”
“ฉันจะไม่บอกเขา เพราะบัญชีที่เราเปิดด้วยกันแค่ใครคนใดคนหนึ่งเซ็นก็ถอนได้ เมื่อสถานการณ์บริษัทดีขึ้น เราจะค่อยๆทยอยใช้หนี้”
วิวัฒน์ยิ้มออกแล้วตบไหล่ธีรภพด้วยความดีใจ
“ไอ้ธีร์ขอบคุณมากเพื่อน ถ้าผ่านวิกฤติคราวนี้ไปได้ฉันว่าต่อไปบริษัทเราต้องรุ่งแน่”
ธีรภพยืนเครียดเพราะคิดหนัก โดยไม่รู้ว่าอิงฟ้าที่ยืนแอบดูรู้สึกเจ็บใจมาก

ธีรภพกับอิงฟ้านอนกับหมอกอยู่บนเตียง สักพักอิงฟ้าก็ลุกขึ้นมองธีรภพกับหมอกที่หลับไปแล้วแล้วตัดใจลุกออกจากเตียงไป

อิงฟ้าในชุดเดินทางเปิดประตูเข้ามาในห้องทำงาน แล้วตรงไปที่ไขกุญแจที่ลิ้นชักเอกสาร เธอค้นหาก่อนจะหยิบสมุดฝากเงินออกมาเปิดดู เธอเห็นตัวเลขในบัญชีเกือบๆสามล้านบาท อิงฟ้ารีบเก็บสมุดใส่กระเป๋าถือ แล้วเธอก็หยิบปากกาขึ้นมาเขียนจดหมาย
“พี่ธีร์คะ ฟ้ารู้เรื่องหมดแล้ว ฟ้าเสียใจมากที่พี่ธีร์ไม่สามารถดูแลฟ้ากับลูกได้ และฟ้าก็จะไม่ยอมให้พี่ธีร์เอาเงินก้อนนี้ไปอีกแล้ว ฟ้าต้องการใช้มันในการตั้งต้นชีวิตใหม่ เมื่อฟ้าทำสำเร็จฟ้าจะกลับมารับลูกไปอยู่ด้วยกัน ฝากดูหมอกด้วยนะคะ”
อิงฟ้าเขียนเสร็จก็เปิดประตู กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ตั้งอยู่หน้าห้อง แล้วอิงฟ้าก็ลากกระเป๋าเดินจากไป

สีหน้าของอิงฟ้าที่กำลังเล่าเรื่องสะเทือนใจอย่างหนัก
“หลังจากนั้นไม่นานฟ้าก็ได้ข่าวว่าเขาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ฟ้าเป็นห่วงหมอกอยากจะกลับมาตั้งแต่ตอนนั้น แต่พอรู้ว่าเมฆรับหมอกเป็นลูกบุญธรรมและยังกอบกู้บริษัทให้กลับมาอีกครั้งฟ้าก็วางใจว่าเมฆต้องดูแลหมอกเป็นอย่างดีไปตลอดจนกว่าเขาจะดูแลตัวเองได้”
“ถ้าคุณไว้ใจคุณเมฆ แล้วคุณกลับมาทำไมล่ะคะ” ตะวันฉายถาม
“ฟ้าหนีเฮลมุทกลับมาค่ะ”
“เขาคงทำไม่ดีกับคุณมากใช่มั้ยคะ”
“ค่ะ ฟ้าควรจะรู้ตัวเร็วกว่านี้ด้วยซ้ำ”
“แต่ตอนนี้ทุกอย่างก็จบลงด้วยดีแล้วนะคะ”
“ใช่ค่ะ จบลงด้วยดีที่คุณกับเมฆรักกัน ฟ้าขอให้คุณสองคนมีความสุขมากๆนะคะ”
ตะวันฉายกับอิงฟ้ายิ้มให้กันอย่างมีไมตรี
วันใหม่ ตะวันฉายเดินเข้าร้านอาหารมา พอมองเห็นเกริกไกรกับสายรุ้งที่กินอาหารอยู่เธอก็รีบเดินเข้าไปหา พอถึงโต๊ะก็ยิ้มหวานทันที แต่เกริกไกรกับสายรุ้งกินอาหารนิ่งๆ ทำเหมือนไม่สนใจ
“อ่ะแฮ่ม” ตะวันฉายทำกระแอม ทั้งสองยังนิ่ง “แฮ่มๆๆๆ”
เกริกไกรกับสายรุ้งยังเฉยอีก
“โอเคค่ะ งั้นซันลาพ่อกับแม่เลยนะคะ” ตะวันฉายไหว้ลาแล้วจะลุกขึ้น
“เอ้ยๆๆๆ จะรีบไปไหนล่ะ” เกริกไกรถาม
“แหม...ก็คุณเกริกไกร คุณสายรุ้งเล่นไม่สนใจซันเลย”
เกริกไกรกับสายรุ้งแอบขยิบตาให้กัน
“แม่โกรธเราอยู่นี่” สายรุ้งบอก
“เรื่องอะไรคะ”
“ยังไม่รู้ตัวอีก ก็เราน่ะสิไม่กลับคอนโดเลยนะ จนพ่อแม่จะกลับวันนี้แล้วถึงได้ยอมมาให้เห็นหน้า”
“ก็คุณเมฆเขายังไม่หายนี่คะ ซันก็ต้องเฝ้าเขา”
“ได้...ถ้าชอบอยู่ที่อื่นมาก งั้นพ่อจะขายคอนโดฯ”
“ดีค่ะ โอนคอนโดเสร็จก็โอนตังเข้าบัญชีซันเลยนะคะ”
เกริกไกรสะดุ้ง “เย้ยยยย พ่อประชด”
ตะวันฉายขำ “ขอโทษค่ะพ่อกับแม่ แต่พ่อกับแม่ก็รู้นี่ว่าคุณเมฆเขาบาดเจ็บหนักเพราะช่วยชีวิตซัน ซันก็ต้องตอบแทนบุญคุณเขา”
“แค่ตอบแทนบุญคุณเหรอ” สายรุ้งถาม
“ค่ะ” ตะวันฉายหลบตา
“ถามจริงๆลูกชอบคุณเมฆเขาใช่ไหม” เกริกไกรถาม
ตะวันฉายหน้าเสียเพราะเกริกไกรจ้องหน้าอย่างเอาเรื่อง
“ทำไมพ่อถามอย่างนี้ล่ะ”
“อย่ามาเปลี่ยนเรื่อง ตกลงว่าไง”
ตะวันฉายเอียงหน้าหลบตา เกริกไกรกับสายรุ้งเอียงคอตาม ตะวันฉายเหลือบตาเจอสายตาของทั้งคู่ก็หันเอียงหลบอีก เกริกไกรกับสายรุ้งเอียงตามอีก
“พ่อกับแม่ว่าไงคะ” ตะวันฉายถามกลับ
เกริกไกรกับสายรุ้งมองหน้ากันเป็นเชิงปรึกษา

ตะวันฉายมายืนส่งเกริกไกรกับสายรุ้งที่หน้าร้าน ตะวันฉายกอดทั้งสองคนแน่น
“เสร็จธุระแล้วรีบกลับบ้านนะ” สายรุ้งบอก
เกริกไกรกับสายรุ้งก้าวขึ้นรถ ตะวันฉายยืนโบกมือส่ง รถแล่นออกไป
เกริกไกรกับสายรุ้งที่นั่งอยู่ในรถยิ้มให้กัน

อ่านละคร ตะวันฉายในม่านเมฆ ตอนที่ 12/3 วันที่ 14 ม.ค. 56

ตะวันฉายในม่านเมฆ บทประพันธ์โดย ภาวิน
ตะวันฉายในม่านเมฆ บทโทรทัศน์โดย
กฤษณ์ มงคลเกษม,พิมพ์พชา รุ่งประพันธ์,วิวัฒน์ กฤษณาเวศน์
ตะวันฉายในม่านเมฆ กำกับการแสดงโดย ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติ
ตะวันฉายในม่านเมฆ ดำเนินการผลิต ณัฐพงศ์ เหมือนประสิทธิ์เวช
ตะวันฉายในม่านเมฆ ผลิตโดย บริษัท เมคเกอร์ กรุ๊ป จำกัด
ที่มา manager