@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร ตะวันฉายในม่านเมฆ ตอนที่ 12/4 วันที่ 14 ม.ค. 56

อ่านละคร ตะวันฉายในม่านเมฆ ตอนที่ 12/4 วันที่ 14 ม.ค. 56

เกริกไกรกับสายรุ้งก้าวขึ้นรถ ตะวันฉายยืนโบกมือส่ง รถแล่นออกไป
เกริกไกรกับสายรุ้งที่นั่งอยู่ในรถยิ้มให้กัน
“ดูพ่อจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษนะ” สายรุ้งแซว
เกริกไกรยิ้ม “คุณนภทีป์เขาเป็นคนดี ไหนจะรักลูกเรามากจนยอมสละได้แม้แต่ชีวิต พ่อว่าโชคดีของซันแล้วที่มีคนแบบนี้มารักและลูกเราก็รัก”
“ซันนี่โชคดีเหมือนแม่เลยเนอะ”
เกริกไกรกับสายรุ้งจับมือแล้วยิ้มให้กันอย่างมีความสุข

เมฆกับตะวันฉายนั่งคุยกันอยู่ในห้อง
“พ่อกับแม่บอกว่าพอคุณเมฆหายแล้วให้ฉันรีบกลับเกาะ”
เมฆใจไม่ดี “ท่านไม่พอใจงั้นเหรอ”
“ไม่หรอกค่ะ แค่กลับไปเยี่ยมท่านบ้าง”
“ไม่หลอกผมนะ”
“ไม่แล้ว ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าการโกหกมันเหนื่อย เพราะต้องคอยระวังกลัวความลับแตก ไม่เอาอีกแล้วล่ะ”
“ ตอนนี้ผมมีความสุขที่สุดเลยรู้ไหม”
ตะวันฉายยิ้ม เมฆเลยหอมแก้มตะวันฉาย


โปรดิวเซอร์ยื่นซองเอกสารให้นิค
“เอกสารการเดินทางกับ work permit ทั้งหมดนี่ เก็บไว้ให้ดีนะ อย่าทำหายล่ะ ไม่งั้นละเราไม่ได้ทำงานด้วยกันแน่”
“ขอบคุณมากครับพี่”
“ใกล้ๆวันเดินทางแล้วเอวาจะช่วยเตือนอีกแรงนะคะ ไม่ต้องเป็นห่วงค่ะพี่” เอวาบอก
“ขอบคุณมากนะครับคุณ เอวา พี่ไปก่อนนะ”
โปรดิวเซอร์เดินออกไป นิคมองซองเอกสารหน้าเศร้าๆ
“ทำหน้าให้มันดูมีความสุขหน่อยได้มั้ยเนี่ย ฉันล่ะพลอยหดหู่ตามไปด้วย” เอวาว่า
“ถ้าฉันไป เราก็คงไม่ได้เห็นหน้ากันทุกวันอย่างนี้สินะ” นิคบอก
“ก็สไกป์สิ ไม่เห็นจะยากเลย”
“มันไม่เหมือนกันหรอก มันอดใจหายไม่ได้จริงๆ หรือแกจะไม่คิดถึงฉัน” นิคถาม เอวามองหน้า “ฉันหมายถึงคิดถึงกันแบบเพื่อนอ่ะ”
เอวานิ่งไป “ฉันคงคิดถึงแกน่าดูเลยเน๊อะ”
นิคมองหน้าเอวา เอวายิ้มให้
“งั้น ฉันไม่ไปก็ได้นะ” นิคบอก
“บ้าเหรอ..ถ้าแกไม่ไป ฉันก็จะโกรธแกมากกว่านี้อีกนะ”
“แปลว่าดีใจที่เห็นฉันไปใช่มั้ย”
“มันก็ไม่ดีใจหรอก แต่ฉันอยากเห็นแกใช้โอกาสนี้ทำความฝันให้เป็นจริง จำได้ไหม ตอนเราเข้าปีหนึ่ง พวกพี่ปีสี่บอกให้เราพูดความฝันที่ทำให้พวกเรามาเรียนดนตรี”
“จำได้สิ ฉันบอกว่าฉันอยากเป็นนักดนตรีที่มีอัลบั้มเพลงเป็นของตัวเอง ส่วนแกก็อยากเป็นครูสอนกลองหญิงที่เก่งที่สุด”
“ตอนนี้ความฝันของแกใกล้เข้ามาแล้วนะ”
“ไม่หรอก แค่ไปเล่นร่วมให้เขาเท่านั้นเอง”
“เอาน่า ถ้าไม่ก้าวแล้วมันจะใกล้เหรอวะ”
“ขอบใจนะเอวา แกเป็นกำลังใจให้ฉันเสมอเลย”
นิคยิ้มอย่างเข้าใจ เอวาเข้าไปกอดนิค นิคยิ้มอย่างมีความสุข ส่วนเอวายิ้มแบบสุขปนเศร้า

เมฆนั่งเล่นดนตรีอยู่ในห้อง ตะวันฉายเดินเข้ามานั่งฟัง เมฆหยุดเล่นแล้วหันมายิ้มให้
“ผมโทรบอกนิคกับเอวาแล้วนะว่าคืนนี้จะไปเล่นดนตรี” เมฆบอก
ตะวันฉายตกใจ “แต่คุณยังไม่หายดีนะคะ”
“ไม่เป็นหรอก ให้ผมนั่งนอนอยู่บ้านเบื่อจะตาย”
“งั้นให้ฉันไปด้วยนะ ขับรถให้ก็ได้”
“เอ่อ...ไม่ต้องดีกว่า ผมไปเองได้ คุณอยู่ดูหมอกเถอะ”
“คุณฟ้าก็ยังอยู่ ให้ฉันไปนะคะ ฉันเป็นห่วงคุณ”
“ผมไปเองได้จริงๆ”
“นี่แอบนัดกิ๊กป่ะเนี่ย”
เมฆขำก๊ากทันที
“ยังไม่ทันไรมีหึงแล้วเหรอเนี่ย”
“ไม่รู้ล่ะ ตกลงฉันไป ถ้าคุณบริสุทธิ์ใจก็อย่าขวาง”
เมฆคิดหนักเพราะไม่อยากให้ไป ตะวันฉายจ้องหน้า เมฆเลยยิ้มรับเจื่อนๆ

เมฆกับตะวันฉายเดินเข้ามาในห้องพักนักดนตรี นิคกับเอวาเห็นก็รีบเข้าไปหา
“ซัน ไม่เห็นบอกเลยว่าแกจะมา” เอวาว่า
“ก็ฉันเห็นคุณเมฆยังไม่แข็งแรงดีก็เลยขับมาให้” ตะวันฉายบอก
“อ้าว...ไม่ใช่กลัวผมนัดกิ๊กเหรอ” เมฆถาม
ตะวันฉายตีแขน “นี่คุณ...ที่ฉันพูดเพราะกลัวคุณไม่ให้มาหรอก”
“อ๋อ...เหรอ”
เมฆกับตะวันฉายยิ้มให้กันแบบคู่รักที่หยอกกัน
นิคกับเอวามองอาการสนิทสนมของเมฆกับตะวันฉายไม่วางตาจนตะวันฉายรู้ตัวก็เริ่มอาย
ตะวันฉายพูดกับเมฆ “เอ่อ...เดี๋ยวซันไปรอข้างนอกนะคะ”
ตะวันฉายรีบเดินออกไป นิคกับเอวารีบมาประกบเมฆทันที
“รู้สึกตอนนี้พี่เมฆจะมีความสุขมากนะครับ”
“รู้ดีนะเรา” เมฆบอก
“ยังไง ตอนพี่เมฆแต่งงานกับซัน เราสองคนจองเล่นดนตรีในงานให้นะคะ” เอวาบอก
“เฮ้ย...นี่เล่นคิดข้ามช็อตแล้วเหรอ”
“อ้าว...นี่พี่เมฆยังไม่คิดไปถึงแต่งงานเหรอครับ” นิคถาม
“ใครว่า...พี่คิดไปไกลกว่านั้นแล้ว”
“ห๊า...พี่คิดถึงตอนส่งตัวเหรอพี่”
เมฆตบหัวนิค
“ทะลึ่ง...พี่คิดไปถึงตอนที่พี่แก่ไปกับเขาต่างหาก” เมฆบอก
นิคกับเอวาทำตาซึ้ง “หวานอ่ะ”
“ถ้าพี่คิดไปถึงนั่นแล้วจริงๆ แสดงว่าการขอแต่งงานก็ต้องเตรียมไว้แล้วสิ” เอวาถาม
“ก็เตรียมไว้แล้ว พี่ถึงอยากเจอเราสองคนวันนี้ไง แต่ซันเขาเกิดห่วงพี่เลยขอตามมาด้วย”
“พี่เมฆจะทำอะไรเหรอครับ”
เมฆถอนใจ “ยังบอกตอนนี้ไม่ได้ เพราะพี่ยังอยากได้อีกคนมาร่วมทีม”
นิคกับเอวาสงสัย “ใคร?”
เมฆอมยิ้มไม่ยอมพูด นิคกับเอวาพยามเซ้าซี้ถาม

เมฆ นิค และเอวาเล่นดนตรีบนเวที เมฆยิ้มมาให้ตะวันฉาย ตะวันฉายที่นั่งอยู่ด้านล่างยิ้มตอบ นิคกับเอวาเห็นสองคนส่งสายตากันแล้วทั้งสองก็ยิ้มมีความสุขไปกับเพื่อน

ดึกสงัด เมฆค่อยๆย่องเดินออกจากบ้าน แล้วเปิดประตูบ้านออกไป
ที่ร้านอาหาร นิคกับเอวาเห็นยุทธการหาวก็เกรงใจ
“พี่ยุทธง่วงเหรอคะ”
“นิดหน่อยอ่ะ แล้วรู้ไหมว่าคุณเมฆนัดพวกเรามาทำไม” ยุทธการถาม
นิคกับเอวามองหน้ากันเพราะไม่กล้าพูดตรงๆ
“นั่นไงพี่เมฆมาแล้วครับ” นิครีบบอก
ทุกคนมองไปก็เห็นเมฆลงจากรถแท็กซี่แล้วจ่ายเงิน เมฆเดินมานั่งด้วยกันในร้าน
“ขอโทษที่มาช้า ต้องรอให้แน่ใจว่าซันหลับก่อน”
ยุทธการ งง “ตกลงนี่มันอะไรกันครับ ทำไมต้องปกปิดซันไม่ให้รู้ด้วย”
เมฆยิ้ม “คืนที่ผมเรียกทุกคนมา ก็เพราะว่าผมอยากจะให้ทุกคนช่วยผมจัดเซอร์ไพรส์ขอซันแต่งงาน”
เมฆพูดจบก็มองหน้ายุทธการ นิคกับเอวาสะกิดกันดูหน้ายุทธการ

นิคกับเอวายืนที่รถ ทั้งสองมองไปที่เมฆกับยุทธการที่ยืนคุยกันอยู่ห่างออกไปที่ตลาดขายดอกไม้
“แกคิดไงวะเอวา”
“ไม่รู้สิ แต่ฉันว่าคงไม่มีอะไรมั้ง”
เมฆกับยุทธการยืนคุยกันอยู่
“ผมขอโทษ ที่บอกคุณวันนี้ แต่ผมรักซันจริงๆ” เมฆว่า
“ผมทราบครับ ที่จริงคุณเมฆไม่ต้องขอโทษผมหรอก”
“แต่ผมรู้ว่าผู้ใหญ่ของคุณกับของซันต้องการให้คุณสองคนแต่งงานกัน”
“เรื่องแต่งงานมันต้องเป็นความต้องการของคนสองคนเท่านั้นครับ ซันเขาไม่ได้รักผม เขารักคุณ”
เมฆได้แต่ยิ้มไม่กล้าพูดอะไร
“ยังไงผมก็ยินดีกับคุณเมฆนะครับ ผมฝากซันไว้กับคุณด้วย ผมรู้ว่าคุณจะดูแลซันได้ดีที่สุด และซันก็จะมีความสุขมากที่ได้เป็นคู่ชีวิตของคุณ”
“ผมสัญญาว่าจะดูแลเขาให้ดีที่สุดครับ” เมฆบอก
ยุทธการ ยิ้ม “ต่อไปคุณก็จะเป็นน้องเขยผมแล้วนะครับ”
ยุทธการกับเมฆจับมือกัน
นิคกับเอวาเห็นทั้งสองคนจับมือกันแล้วก็ถอนใจโล่งอกก่อนจะยิ้มให้กัน
“แฮปปี้เอ็นดิ้งจนได้” เอวาบอก
เมฆกับยุทธการเดินมาสมทบกับนิคและเอวา
“พร้อมจะลุยกันหรือยัง” เมฆถาม
ยุทธการ นิค และเอวายิ้มรับกับเมฆ

เช้าตรู่ เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น ตะวันฉายรีบลุกขึ้นหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเดินออกไปจากห้อง
ตะวันฉายในชุดใหม่เดินมาเคาะประตูห้องเมฆแล้วเปิดประตูเข้าไป เธอเห็นว่าไม่มีใครอยู่ในห้อง ตะวันฉายงงแล้วก็เดินออกไป
ตะวันฉายเคาะประตูห้องหมอกแล้วเปิดประตูเข้าไปก็เห็นห้องไม่มีคนอีก
ตะวันฉายมาเคาะประตูห้องอิงฟ้าแต่ไม่มีเสียงตอบ
ตะวันฉายเคาะอีก “คุณฟ้า คุณฟ้าคะ....ไปไหนกันหมด”

ตะวันฉายเดินลงมาจากชั้นบนมาถึงบริเวณที่พักครึ่งทางของบันไดแล้วก็ต้องชะงัก เมื่อเห็นดอกกุหลาบเต็มพื้นห้อง ตะวันฉายเผลอยิ้ม เธอเดินลงมาตามขั้นบันไดจนถึงชั้นล่างก็เห็นซองจดหมายวางอยู่ที่พื้น ตะวันฉายหยิบมาเปิดอ่าน
“มีคนเคยบอกผมว่า ในโลกกลมๆใบนี้มันต้องมีสักคนที่พร้อมจะรักเราและเขาก็อาจจะกำลังตามหาเราอยู่ แต่หลังจากที่ผมต้องผิดหวังกับความรัก ผมก็ไม่คิดจะเปิดใจให้ใครอีก และไม่คิดว่าจะมีใครที่พร้อมจะรักผมและตามหาผมเหมือนที่ผมเคยวิ่งตามหา แต่วันนี้ผมได้คุณ ตะวันฉาย คุณคือคนที่ผมวิ่งตามหาและพร้อมที่จะรัก ถ้าคุณคิดเหมือนผมช่วยเดินมาหาผมที่สระน้ำ ผมรอคุณอยู่ที่นั่น”
ตะวันฉายปิดจดหมายแล้วเดินไปเปิดม่านออกก็เห็นเมฆยืนรออยู่พร้อมดอกกุหลาบอีกช่อ ส่วนอีกมือก็จูงมือหมอกไว้ ยุทธการ อิงฟ้า นิค เอวา และเก่งยืนอยู่ด้านหลังเมฆ
ตะวันฉายเปิดประตูกระจกแล้วเดินออกไป เมฆยื่นช่อดอกไม้ให้ ตะวันฉายมองหน้าทุกคนแล้วยิ้มเขินอาย
“ตะวันฉาย คุณ....”
“ไม่ใช่ฉัน...แต่เป็นคุณต่างหากที่ฉันวิ่งตามหาและพร้อมที่จะรัก คุณเมฆ”
เมฆกับตะวันฉายโผเข้ากอดกัน ทุกคนปรบมือให้
“แต่งงานกับผมนะ” เมฆบอก
หมอกเดินเอาแหวนมาให้เมฆ เมฆหยิบแหวนมาสวมที่นิ้วของตะวันฉาย ทั้งสองคนกอดกันอีกครั้ง ยุทธการ อิงฟ้า นิค และเอวายิ้มปลื้ม ส่วนเก่งร้องไห้

ทุกคนมานั่งที่โต๊ะอาหาร
“นี่ทุกคนร่วมมือกันแกล้งซันเหรอ” ตะวันฉายถาม
“ฟ้า หมอก เก่ง เพิ่งรู้เมื่อเช้าค่ะ เมฆเขาไปปลุกขึ้นมาเตี๊ยมกัน” อิงฟ้าบอก
“ถ้างั้นพี่ยุทธ นิค เอวาก็ต้องรู้มาก่อน ร้ายจริงนะพวกนี้”
“อะไรกัน อยากเห็นเพื่อนมีความสุขนี่คือร้ายเหรอ งอนแล้วนะ” เอวาแกล้งงอน
ตะวันฉายเข้าไปกอดเอวา
“ขอโทษจ้าเพื่อนรัก งั้นเปลี่ยนเป็นขอบคุณก็ได้”
ตะวันฉายกับเอวายิ้มให้กัน นิคยกแก้วยื่นให้ตะวันฉาย
“ซัน ฉันยินดีกับแกด้วยนะ ในที่สุดแกก็มาไม่เสียเปล่า”
หลังจากนิคพูด ตะวันฉาย เอวา และยุทธการก็นิ่งไป เมฆกับอิงฟ้ามองนิคงงๆ
“นิค หมายความว่าไง พี่ไม่เข้าใจ” เมฆถาม
เมฆมองตะวันฉายเป็นเชิงถาม แต่ตะวันฉายหน้าเจื่อนเพราะพูดไม่ออก เอวาส่งสายตาตำหนินิค ยุทธการเห็นท่าไม่ดีจึงรีบช่วยแก้สถานการณ์
“เอ่อ...นิคหมายถึงว่าแค่ซันจะเข้ามาหาข้อมูลแต่ในที่สุดก็ได้พบกับควารักที่ดีที่สุดจากคุณเมฆไงครับ”
เมฆจับมือตะวันฉายแล้วยิ้ม “จริงเหรอซัน”
ตะวันฉายยิ่งตกใจจนพูดอะไรไม่ออก เธอคิดว่าเมฆถามเพราะไม่เชื่อใจ
“ดูสิ เมฆ คุณซันอายใหญ่แล้ว” อิงฟ้าบอก
“อ้าว...ผมทำให้ซันอายเหรอเนี่ย ผมขอโทษนะ ผมแค่อยากรู้ว่าซันได้รับความรักที่ดีที่สุดจากผมจริงๆเหรอ แค่นั้น”
ตะวันฉายยิ้ม “คุณเมฆคะ คุณคือความรักที่ดีที่สุดของซันจริงๆ”
เมฆโอบไหล่ตะวันฉายมากอด นิคกับเอวาลอบถอนใจอย่างโล่งอก
“พ่อหอมแก้มพี่ซันด้วยสิ” หมอกบอก

เมฆกับอิงฟ้าที่อยู่ในบ้านมองไปที่ตะวันฉายที่กำลังยืนส่งยุทธการ นิค และเอวาที่รถ
“ไม่น่าเชื่อเลยนะฟ้า ตอนแรกที่ผมเจอซัน ผมไม่รู้สึกชอบเขาเลย” เมฆบอก “คิดแต่ว่าเมื่อผมออกจากรีสอร์ทแล้วก็อย่าได้พบได้เจอกันอีก แต่ในที่สุด...”
“เมฆกับคุณซันก็รักกัน”
เมฆยิ้มรับ
“ชีวิตก็เป็นอย่างนี้แหล่ะ บางอย่างเราอาจจะกำหนด แต่หลายอย่างเราพยายามจะกำหนดแต่มันก็กำหนดไม่ได้ เพราะถ้าทุกคนขีดเส้นทางให้ชีวิตตัวเองได้ ฟ้าคงเป็นคนแรกที่มีความสุข”
เมฆกับอิงฟ้ายิ้มให้อย่างคนเข้าใจชีวิต

ตะวันฉายยืนส่งยุทธการ นิค และเอวาที่รถ
“ขอบคุณนะคะพี่ยุทธที่ช่วยซันวันนี้”
“ถ้าขอบคุณพี่ยุทธก็ต้องคู่กับประทุษร้ายไอ้นิค” เอวาพูดกับนิค “แกนะแก ปากพาซวยแล้วไหมล่ะ”
“ขอโทษว่ะซัน ฉันก็ลืมนึกไปเลยว่าจริงๆแกเข้ามาตามหาพี่ธีร์” นิคบอก

อ่านละคร ตะวันฉายในม่านเมฆ ตอนที่ 12/4 วันที่ 14 ม.ค. 56

ตะวันฉายในม่านเมฆ บทประพันธ์โดย ภาวิน
ตะวันฉายในม่านเมฆ บทโทรทัศน์โดย
กฤษณ์ มงคลเกษม,พิมพ์พชา รุ่งประพันธ์,วิวัฒน์ กฤษณาเวศน์
ตะวันฉายในม่านเมฆ กำกับการแสดงโดย ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติ
ตะวันฉายในม่านเมฆ ดำเนินการผลิต ณัฐพงศ์ เหมือนประสิทธิ์เวช
ตะวันฉายในม่านเมฆ ผลิตโดย บริษัท เมคเกอร์ กรุ๊ป จำกัด
ที่มา manager