@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร แรงปรารถนา ตอนที่ 1/3 วันที่ 5 ม.ค. 56

อ่านละคร แรงปรารถนา ตอนที่ 1/3 วันที่ 5 ม.ค. 56

“แม่คะ เมื่อคืนรวีก็อยู่ที่งานนั่น รวีเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง มันไม่ใช่อย่างที่นักข่าวเขียนเลยสักนิด” รมณีกับณรงค์ชะงัก รวีพรรณพูดต่อ
“พิทเค้าสนิทกับบ้านคุณนพคุณพ่อของสุอาภามาก ไม่ใช่ญาติก็เหมือนญาติ คุณนพเป็นคนเลี้ยงพิทมาตั้งแต่คุณแม่เค้าเสีย กับสุอาภาเค้าก็โตมาด้วยกัน เป็นเพื่อนกันมา ความคุ้นเคยแบบนั้นอาจจะมีคนตีไปในทางลบ เสียหายกับตัวเค้าและสุอาภาด้วย”
“ให้มันได้อย่างนี้สิลูกสาวพ่อ ลูกมองคนในแง่ดีเกินไปแล้ว”

“คุณพ่อพูดถูก ลูกยังไม่รู้อะไร แม่ได้ยินมาว่าแม่ของนายพิทยามั่วจะตาย มั่วจนไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อของลูก สุดท้ายก็หน้าด้านกระเตงลูกมาให้คนอื่นเลี้ยง ลูกกับแม่มันก็คงไม่ต่างกัน” รมณีว่า
รวีพรรณเงียบแบบไม่พอใจแม่แต่ไม่กล้าเถียง



“เลิกยุ่งกับเค้าก่อนที่ลูกจะต้องเสียใจไปมากกว่านี้ ผู้ชายที่มีแต่ตัวได้มาก็เท่านั้น”
รวีพรรณมองรมณีด้วยความอึ้ง...พูดอะไรไม่ออก นอกจากรวบช้อนส้อมบนโต๊ะ
“รวีขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ”
รวีพรรณลุกขึ้นเดินออกไป
“เกาะเค้ากินตั้งแต่เด็กยันโต ไม่รู้ว่าลูกไปหลงมันลงไปได้ยังไง ตั้งแต่คบมันก็ปีกกล้าขาแข็ง ไม่เชื่อฟังพ่อแม่ เห็นทีฉันต้องทำอะไรซักอย่าง เพื่อเป็นการตัดไฟตั้งแต่ต้นลม”
รมณีสีหน้าครุ่นคิดเห็นแววร้ายกาจ ณรงค์มองรมณีด้วยความสงสัย

ภายในออฟฟิศ รวีพรรณนั่งทำงานอยู่ สักพักมีเสียงเคาะประตูดังขึ้น ช่อดอกไม้ยื่นเข้ามาก่อน ตามมาด้วยตัวพิทยา
“มีดอกไม้มาส่งครับ”
รวีพรรณสีหน้านิ่งมาก
“วางไว้ตรงนั้นแหละค่ะ”
รวีพรรณก้มหน้าทำงาน พิทยาหน้าเสีย เดินมายืนตรงข้าม วางดอกไม้ลงบนโต๊ะ มองรวีพรรณอย่างรู้สึกผิดมาก
“คุณคงเห็นข่าวแล้ว”
รวีพรรณนิ่งไปซักพักแล้วเงยหน้า “ค่ะ”
รวีพรรณลุกเดินเลี่ยงไม่สบตา พิทยารีบไปดักไว้
“เดินหนีแบบนี้ โกรธผมใช่มั้ย”
รวีพรรณจ้องตาพิทยา ทำเสียงแข็ง
“รู้ตัวด้วยเหรอว่าสมควรจะโดนโกรธ”
“อย่าจ้องแบบนี้เลยนะครับ ใจมันแว๊บไปกองอยู่ตาตุ่มแล้ว”
“ในเมื่อรู้ว่ารวีจะต้องโกรธแล้วพิททำทำไม”
“ที่ผมโกหกเพราะว่าผมไม่อยากให้รวีไม่สบายใจ ไม่อยากให้รวีเป็นห่วงผม ผมไม่ได้อยากไปกับเค้าเลยนะ แต่ขัดใจไม่ได้เพราะพระคุณพ่อเค้าท่วมหัว”
“รวีเข้าใจ”
“เข้าใจ”
รวีพรรณพยักหน้า
“ก็แค่อยากรู้ว่ารวีมองพิทในแง่ดีเกินไปรึเปล่า เพราะรวีคอยปกป้องพิทจนคุณพ่อคุณแม่น้อยใจรวีจะแย่แล้ว”
พิทยาดีใจ จับมือรวีพรรณขึ้นมาหอมที่มือรวีฟอดใหญ่
“ใครจะมองผมยังไงก็ช่าง ขอแค่รวีเข้าใจผมก็พอแล้ว ขอบคุณนะครับรวี คุณเป็นแฟนที่น่ารักที่สุดในโลก”

รวีพรรณกับพิทยายิ้มให้กันอย่างมีความสุข
สุอาภาอยู่ที่บ้าน เธอเปลี่ยนชุดแล้วเรียบร้อย บวรหยิบหนังสือพิมพ์ส่งให้สุอาภา มีวรรณวดีนั่งอยู่ข้างๆ ป้าณียืนอยู่

“อ่ะ...ดูซะให้เต็มตา”
สุอาภารับหนังสือพิมพ์มาดูแล้วก็อึ้ง พลันเสียงนพดังขึ้น
“ดูอะไรกันอยู่ห๊ะ”
สุอาภา บวร วรรณวดี ณี หันไปเห็นนพเดินเข้ามาก็ดีใจ
“ป๋า!”
สุอาภารีบเข้ามากระโดดกอดและหอมนพไม่หยุด
สุอาภาพูดไป หอมไป กอดไป
“แตคิดถึงป๋าจังเลย คิดถึ๊ง คิดถึงๆๆ หืม...ชื่นใจ”
นพหัวเราะชอบใจบอก
“พอพอ...กอดจนป๋าหายใจไม่ออกแล้ว”
สุอาภาผละออกมาแล้วบอก
“ก็คนมันคิดถึง ไม่ได้เจอหน้ากันตั้งหลายวัน”
นพมองแบบรู้ทัน
“คิดถึง หรือกลัวถูกดุ เอาให้แน่นะ”
สุอาภาหน้าเจื่อนถาม
“ป๋าเห็นแล้ว”
นพยิ้มแบบรู้ทัน สุอาภาหันไปมองวรรณวดี บวร ณีหน้าแหยแล้วพึมพำ
“คุณหนูของป้าตายแน่!”

ภายในห้องรับแขก นพถือหนังสือพิมพ์ที่มีข่าวสุอาภาพลางหัวเราะชอบใจ ทำเอาทุกคนแปลกใจ
“ไม่อยู่เมืองไทย 5 วัน กลับมาลูกสาวป๋าดังอีกแล้ว ฮ่าๆๆ”
สุอาภาเข้ามาออเซาะเกาะแขนคลอเคลียอยู่ข้างๆตัวนพ
“แล้วไม่ดีเหรอคะ แตไม่ต้องทำอะไร ก็มีคนเขียนข่าวเชียร์”
บวรพูดขัดขึ้น
“เชียร์อะไร?! เนี่ยเค้าเรียกว่าด่า ด่ามาถึงป๋าถึงพี่ด้วยที่ไม่รู้จักสั่งสอนแก ฉาวไปหมดแล้ว”
นพตบหัวบวรจนเขาสะดุ้ง
“น้องกำลังขวัญเสีย แทนที่แกจะปลอบ กลับมาซ้ำเติมเดี๋ยวปั๊ด!”
“ป๋าอ่ะ...เข้าข้างมันตลอดเลย”
ณีหัวเราะเงียบๆคนเดียว
“ไม่ให้เข้าข้างลูกรักแล้วจะให้เข้าข้างใคร จริงมั้ยณี”
“จริงค่ะ”
บวรมองป้าณีอย่างไม่พอใจ นพโอบสุอาภาเข้ามากอด สุอาภาแลบลิ้นใส่บวรที่ทำหน้าเซ็ง
“แล้วอีกอย่างไอ้ข่าวเนี่ย ฉันไม่เห็นว่ามันจะฉาวตรงไหน เพราะผู้ชายในรูปคือพิท ดีซะอีกที่ไม่ใช่คนอื่น”
“ถูกต้องที่สุดเลยค่ะคุณท่าน” ณีบอก
สุอาภาเซ็งบอก
“แต่แตอยากเป็นข่าวกับคนอื่นมากกว่า ทำแบบนี้เสียเครดิตแตหมด”
“พอเลยค่ะทั้งป๋าทั้งยัยแต”
นพกับสุอาภาอึ้งหันไปมองวรรณวดีที่พูดขึ้น
“นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆนะคะ ตอนนี้ชื่อเสียงยัยแตติดลบได้ฉายาคุณหนูขาวีน มันน่าดีใจตรงไหน”
“แต...ป๋าเพิ่งรู้ว่าเรามีแม่คนเดียวกัน” นพว่า
สุอาภาพยักหน้ารับ บวรกับณีหันมาขำใส่กัน วรรณวดีถลึงตาใส่ผู้เป็นพ่อ
“ป๋า!”
“ป๋ารู้ว่าเราเป็นห่วงน้อง แต่ข่าวก็คือข่าว จะไปแคร์ทำไม คนมันอยากพูดอะไรก็ให้มันพูด”
สุอาภา วรรณวดี บวร ณีเงียบ
“ป๋าและพวกเรารู้ว่ายัยแตเป็นยังไงก็พอแล้ว”
นพหันไปจับหัวสุอาภา ลูกสาวคนเล็กด้วยความรัก สุอาภาซาบซึ้งใจ ทั้งสามคนมองหน้ากันแล้วเห็นด้วยกับที่นพพูด นพหยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาดูภาพข่าวอีกครั้ง
“เสียดายรูปเล็กไปหน่อย คนเลยไม่เห็นความสวยของลูกสาวป๋าแบบชัดๆ”
ทุกคนหัวเราะกับการมองโลกในแง่ดีของนพ ที่ทำให้ครอบครัวครื้นเครง มีความสุข

ภายในห้องทำงาน พิทยากำลังเขียนแบบ พลันเสียงมือถือดังขึ้น พิทยาเห็นชื่อ “นพ” ที่หน้าจอก็ชะงัก พิทยากดรับสาย
“ครับคุณอา”

ในห้องครัว บ้านสุอาภา นพในชุดพ่อครัวกำลังปรุงอาหารด้วยความชำนาญ ผัดสปาเก็ตตี้ แล้วก็เอามาใส่จาน หันไปเห็นพิทยาเดินเข้ามา พิทยายกมือไหว้
“สวัสดีครับคุณอา”
“เสร็จพอดี ออกไปทานกัน”

พิทยากับนพนั่งด้วยกันในบริเวณโต๊ะในสวน
“ไม่ได้ทำนาน ไม่รู้ว่ารสชาติยังอร่อยเหมือนเดิมรึเปล่า” นพว่า
พิทยายิ้มอย่างเจียมตัว นพกิน พิทยามองนพด้วยสีหน้าลำบากใจ
“ผมขอโทษเรื่องข่าวนะครับคุณอา”
นพเงยหน้าแล้วยิ้มใจดี
“ไม่ต้องขอโทษ ฉันรู้ว่าเธอเป็นคนยังไง”
พิทยามีสีหน้าสบายใจขึ้น นพพูดต่อ
“ทานสิ … เป็นไง”
“อร่อยเหมือนเดิมครับ” พิทยาบอก

นพหัวเราะชอบใจ
ในตอนบ่ายๆ สุอาภากลับจากชอปปิ้ง หิ้วถุงแบรนด์เนมเข้าบ้าน

“พี่ณี...พี่ณี!”
ไม่มีเสียงตอบรับ แต่พิทยาที่เดินออกมาแทน สุอาภาชะงักที่เห็นเขาที่นี่ แล้วณีวิ่งหน้าตาตื่นออกมาอย่างหอบ
“มาแล้วค่ะ”
ณีเตรียมเข้ามารับของจากสุอาภา แต่เธอกลับยื่นไปทางพิทยา ณีเหวอเหล่มองสองคน รู้ทันทีว่าต้องเกิดเรื่อง
“เอาของไปเก็บที่ห้อง”
พิทยารับถุงมา สุอาภายิ้มพอใจ แต่เขากลับเดินออกไปนอกบ้าน สุอาภาตกใจ ณีเหวอ
“นายจะเอาของฉันไปไหน”
สุอาภารีบตามพิทยาออกไป ณีหน้าเสีย
“เอาอีกแล้ว! รีบไปตามคุณๆดีกว่า”

พิทยาหิ้วถุงเดินออกมา สุอาภารีบตามมาขวาง พิทยาหยุดเดิน
“ฉันบอกให้เอาของไปเก็บในห้อง ไม่ได้ให้เอาออกมาข้างนอก แค่นี้ฟังไม่รู้เรื่องเหรอไง” สุอาภาบอก
“ของแค่นี้ ถ้ายังเก็บเองไม่ได้ ก็ทิ้งดีกว่า”
สุอาภาตกใจ เขาเดินไปที่ถังขยะข้างทางแล้วเทของในถุงทิ้งลงไป เธอกำมือแน่นด้วยความโกรธ สุอาภากำลังจะด่าแต่เขาเอาถุงกระดาษครอบหัว เธอเดือด...ดึงถุงออกมา
“ไอ้พิทบลู!”
พิทยายิ้มกวนเยาะ และก่อนที่เรื่องจะไปกันใหญ่มากกว่านี้ นพ บวร วรรณวดี และณีก็เดินออกมา
“เล่นอะไรกัน” ณพถาม
สุอาภากับพิทยาหันไปเห็นทุกคน สุอาภารีบจ้ำเดินมาหานพ
“ไอ้พิท... เออ นายพิทยารังแกแต เค้าเอาของของแตทิ้งขยะหมดเลย”
นพเดินไปดูในถังขยะ
“ขอป๋าดูหน่อยสิ โอ้โฮ..ทั้งรองเท้า ทั้งกระเป๋า”
นพหันไปทางพิทยา สุอาภายิ้มเยาะนึกว่านพจะดุ
“พิท... ขอบใจที่ช่วยทิ้งรองเท้ากระเป๋าของยัยแตเต็มบ้านจนไม่มีที่จะเก็บแล้ว”
“ไม่เป็นไรครับ ผมเต็มใจ”
พิทยาอมยิ้ม บวร วรรณวดี ณีหัวเราะร่วน แต่สุอาภาโมโหมาก
“ทุกคนรวมหัวกันแกล้งแตเหรอ... พี่ณีหัวเราะอะไร”
“ขอประทานโทษค่ะ ณีไม่สมควรทำใช่มั้ยคะ” ณีบอก แต่ก็กลั้นไม่อยู่ขำออกมาอีก
สุอาภาหัวเสียอย่างแรงที่ไม่มีคนเข้าข้าง เธอหันไปจ้องพิทยาที่ยิ้มเยาะ แล้วก็หันไปมองทุกคน
“แตโกรธทุกคนแล้ว”
สุอาภาจ้ำเดินเข้าไปในบ้าน ทุกคนยังขำไม่เลิก
“อีกไม่ถึงชั่วโมงก็หายโกรธ” นพพูดยิ้มๆ

ภายในห้องรับแขก เวลากลางคืน สุอาภาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเดินลงมาจากชั้นบน เธอมองไปรอบๆ ไม่เห็นพิทยาก็โล่งใจ
“ไอ้หมาบ้ากลับไปแล้ว”
สุอาภาหันไปเจอวรรณวดีเดินมา
“แต...ช่วยขึ้นไปตามพี่ใหญ่ลงมาทานข้าวที”

สุอาภาเข้ามาในห้องนอนของบวร
“พี่ใหญ่”
เธอได้ยินเสียงอาบน้ำดังออกมาก็เข้าใจว่า บวรกำลังอาบน้ำ เธอหันมาที่โต๊ะทำงานเห็นรูปครอบครัวที่วางบนโต๊ะ มีรูปพิทยาอยู่ด้วย
เธอมองรูปเขาแล้วทำหน้าเคียดแค้น หยิบปากกาเขียนแผ่นซีดีบนโต๊ะขึ้นมาวาดเขาบนหัวพิทยา วาดหนวดแมว วาดเขี้ยวเป็นระบายความแค้น
เสียงอาบน้ำเงียบ สุอาภาไม่สนใจ ยังคงเติมรูปพิทยาอย่างเมามันส์และสะใจ ทันใดนั้นพิทยาชะโงกหน้ามาข้างๆ..เห็นสิ่งที่เธอทำ
“ทำอะไร”
สุอาภาหันขวับเห็นพิทยาโป๊เลยตกใจทำกรอบรูปหล่นใส่เท้าเขาจนกระโดดเหยง ยกขาขึ้นมาเหลือขาเดียว
“โอ๊ย”
สุอาภาไม่ค่อยกล้าหันไปมองตรงๆ
“นายอยู่ในห้องพี่ใหญ่ได้ไง”
“พี่ใหญ่ให้ผมเข้ามาอาบน้ำ”
แล้วพิทยาก็ทรงตัวไม่อยู่ ล้มหงายหลัง
“เวย!”
โครม!! สุอาภาผงะหันขวับไปมอง เขาลุกขึ้นยืน ผ้าขนหนูร่วงลงพื้น!! สุอาภาตาโตอ้าปากค้างตกใจแทบสิ้นสติ

บนโต๊ะอาหาร วรรณวดีกับนพนั่งอยู่ด้วยกัน ระหว่างนั้นบวรเดินเข้ามา วรรณวดีหันไปมองแล้วถาม
“แตล่ะ”
“พี่จะไปรู้เหรอ” บวรบอกพลางหยิบอาหารกินด้วยมือ
“ก็ต่ายให้แตไปตามพี่ใหญ่ในห้อง”
“พี่ไม่ได้อยู่ในห้อง พี่ลงมาข้างล่างนานแล้ว”
พูดไม่ทันขาคำ เสียงสุอาภาดังลั่นบ้าน
“อ๊าย!”
แล้วบวรก็นึกขึ้นมาได้ แทบสำลักอาหารออกมา
“ซวยแล้ว!”
นพ บวร วรรณวดี หันขวับไปมองด้วยความตกใจ

ทุกคนกรูมาที่ห้องนอนบวร สุอาภาวิ่งกรี๊ดสวนออกไป บวร นพ วรรณวดีหันไปมองเหล่พิทยาที่นุ่งผ้าขนหนูอยู่
“ผมไม่ได้ทำอะไรคุณแตนะครับ”
เสียงหัวเราะดังขึ้น

บนโต๊ะอาหาร นพ บวร วรรณวดี หัวเราะล้อสุอาภาจนเธออายหน้าแดง
“เจอของจริง หนาวดึ๋งไปเลยสิไอ้แต ฮ่าๆๆ” บวรว่า
“ซ้อมไว้ก่อนไงลูก พอเข้าหอจะได้ชิน ฮ่าๆๆ” นพบอก
“ป๋า พี่ใหญ่ น้องอายจะแย่แล้ว” วรรณวดีบอก แต่ก็อดขำด้วยไม่ได้

สุอาภาพูดไม่ออก รีบลุกวิ่งออกไป ทั้งโกรธทั้งอาย วรรณวดีสะกิดให้บวรกับนพเงียบ
สุอาภานอนหน้างออยู่บนเตียง เสียงเคาะประตูดังขึ้น สุอาภาหันไปเห็นนพเปิดประตูเข้ามา เธอทำงอนหันไปทางอื่น นพอมยิ้ม เดินเข้ามานั่งข้างเตียง

“งอนป๋าเหรอ ถ้าไม่พูด ป๋าออกไปก็ได้ มันน่าน้อยใจ ลูกไม่รัก”
สุอาภาลุกขึ้นนั่งแล้วหันมา
“ใครกันแน่ที่ควรน้อยใจ ป๋าก็ดีแต่เข้าข้างนายพิทยา ทั้งๆที่แตเป็นลูกป๋า”
นพเดินมานั่งบนเตียงบอก
“พิทเค้าก็เป็นลูกป๋าเหมือนกัน”
“ไม่ใช่!”
นพจับมือสุอาภา
“แต..ลูกต้องหัดเอาใจเค้ามาใส่ใจเรา พิทน่าสงสาร ไม่มีพ่อ ไม่มีแม่”
“แตก็ไม่มีแม่”
“แต่แตมีป๋า มีพี่ใหญ่ มีพี่ต่าย มีคนที่รักแตมากมาย ส่วนพิท..ตัวคนเดียว ป๋าไม่เข้าใจเลยจริงๆ ตอนเด็กๆเราสองคนก็เข้ากันได้ดี แล้วทำไมพอโตขึ้นมาถึงเหมือนงูกับพังพอน เจอกันไม่ได้ ต้องมีเรื่องตลอด
สุอาภาเงียบไปนิดนึงแล้วบอก
“ป๋าอย่ามาถามแตเลย ไปถามเค้าดีกว่าว่าทำไม”
สุอาภาเบือนหน้าไปทางอื่นเมื่อคิดถึงความหลังก็รู้สึกเจ็บปวด นพมองด้วยความแปลกใจ

วันต่อมา ที่สนามกอล์ฟ เวลากลางวัน ทันทีที่นพหวดลูกกอล์ฟออกไปก็รู้สึกเจ็บหน้าอกขึ้นมา นพถึงกับยืนไม่อยู่ ยกมือกุมหน้าอก
“โอ๊ย”
เพื่อนตกใจร้อง
“เฮ้ย! นพ!”
นพหน้าแดงด้วยความเจ็บปวดและหายใจไม่ออก

ภายในโรงพยาบาล หมอเดโชนั่งลงตรงข้ามนพสีหน้าไม่สู้ดี จนนพรู้สึกได้
“ผมเป็นอะไรหมอ”
“คุณเป็นโรคหัวใจครับ”
นพเครียด

เวลาต่อมา นพเดินกลับเข้ามาในห้องทำงาน ภายในบ้าน รู้สึกโหวงๆตัวลอยๆ นั่งลงที่โต๊ะทำงาน
นพหยิบรูปครอบครัวขึ้นมาดู เสียงหมอดังขึ้น
“คุณต้องงดออกกำลังกายหนักๆ หรือการทำอะไรที่ต้องใช้แรงมากๆ แล้วก็ต้องดูแลตัวเองอย่าให้เครียด ไม่อย่างนั้นอาจจะทำให้หัวใจของคุณหยุดเต้นกะทันหัน”
นพถอนหายใจสีหน้าหนักใจมาก... มองไปที่รูปสุอาภา เพราะเป็นห่วงลูกสาวคนเล็กคนนี้มากที่สุด ก่อนจะเลื่อนสายตาไปดูรูปพิทยาแล้วก็ครุ่นคิดบางอย่าง

วันถัดมา ภายในห้องนั่งเล่น บ้านสุอาภา วรรณวดีกับบวรมองหน้าน้องสาว แล้วพูดขึ้นพร้อมกัน

“จัดงานวันเกิดให้ป๋า”
“ปีนี้ป๋า 60 แตเลยอยากทำอะไรให้ป๋าบ้าง”
“แต่ป๋าเป็นคนไม่ชอบจัดงาน” วรรณวดีบอก
“เราไม่ได้จัดงานใหญ่ซักหน่อยพี่ต่าย มีแต่คนในครอบครัวเราเท่านั้น”
“จะว่าไปความคิดไอ้แตมันก็ไม่เลว ถ้างั้น..เรามาเซอร์ไพรส์ป๋ากันดีมั๊ย”
สุอาภากับวรรณวดีพยักหน้าอย่างเห็นด้วย

หลายวันต่อมา ในเวลากลางคืน สุอาภาจับมือพานพที่มีผ้าปิดตาเดินมาตามทาง
“จะพาป๋าไปไหนเนี่ย”
“เดี๋ยวก็รู้แล้วค่ะ”
สุอาภาพานพมาถึงห้องทานอาหาร วรรณวดี กับบวรยืนอยู่พร้อมกับเค้กก้อนโตกลางโต๊ะ
“ป๋าพร้อมมั๊ยคะ” สุอาภาถาม
“พร้อมตั้งนานแล้ว”
สุอาภาแกะผ้าที่ปิดตานพออก วรรณวดีกับบวรดึงพลุกระดาษ นพตกใจ สุอาภามายืนข้างๆ
สามพี่น้องบอก
“แฮปปี้เบิร์ดเดย์ค่ะ/ครับ....เฮ!”
นพยิ้มกว้างอย่างมีความสุข ระหว่างนั้นพิทยารีบเดินเข้ามาพร้อมกับของขวัญในมือ ทุกคนหันไปมอง สุอาภาเป็นคนเดียวที่ไม่พอใจ
“ขอโทษครับที่ผมมาช้า”
“ใครเชิญมาไม่ทราบ” สุอาภาถาม
“พี่โทรบอกให้พิทมาเอง” บวรบอก
“พี่ใหญ่บอกเค้าทำไม”
“เอ้า..พิทเค้าก็เป็นคนในครอบครัวของเราเหมือนกัน แล้วก็ถือเป็นน้องพี่คนหนึ่ง”
สุอาภาเซ็ง พิทยาเดินมาเอาของขวัญยื่นให้นพ
“สุขสันต์วันเกิดครับคุณอา”
นพรับของขวัญมา
“มาถึงก็เอาหน้าเลยนะ”
ทุกคนหันไปมองสุอาภา เธอพูดต่อ
“มีอย่างที่ไหนให้ของขวัญก่อนลูกแท้ๆ”
“แต!” นพปราม

สุอาภาเหล่มองพิทยาอย่างไม่พอใจ พิทยาได้แต่ถอนหายใจเฮือก
ภายในห้องรับแขก นพรับของขวัญมาจากวรรณวดีกับบวร

“ขอบใจ”
สุอาภาก็เอาของขวัญมาให้นพ
“เบิร์ธเดย์ค่ะป๋า”
นพรับของขวัญมาจากลูกสาวคนเล็ก สุอาภาเข้ามากอดนพแล้วก็ผละออกห่าง
“ป๋าแกะเลยสิคะ”
“ถ้างั้นป๋าแกะของทุกคนเลยก็แล้วกัน ไล่ตามอายุ”
ทุกคนยิ้ม นพแกะของขวัญบวรเป็นปากกา
“ถูกใจป๋า”
นพเหน็บในกระเป๋าเสื้อ บวรยิ้มดีใจแล้วนพก็แกะของขวัญของวรรณวดีเป็นเสื้อวอร์ม
“โดน”
วรรณวดีหัวเราะ นพใส่เสื้อวอร์มทันที แล้วก็แกะของขวัญของพิทยาเป็นผ้าพันคอ สุอาภาชะงักกึก
“ทำไมเหมือนของฉัน!”
ทุกคนหันไปมองสุอาภา นพเลยแกะของขวัญของสุอาภาเป็นผ้าพันคอเหมือนกับของพิทยาเปี๊ยบ บวรบอก
“สองคนนี้นี่ใจตรงกันตลอด จำได้มั๊ยตอนเด็กๆ แกสองคนชอบเล่นอะไรเหมือนกัน กินอะไรก็เหมือนกัน”
“แถมแตยังชอบเดินตามพิทต้อยๆ จนคนเค้านึกว่าแตกับพิทเป็นเป็นพี่น้องกันจริงๆ”
“จำไม่ได้” สุอาภารีบพูด

อ่านละคร แรงปรารถนา ตอนที่ 1/3 วันที่ 5 ม.ค. 56

ละครแรงปรารถนา บทประพันธ์โดย อาริตา
ละครแรงปรารถนา บทโทรทัศน์ : ปณธี
ละครแรงปรารถนา กำกับการแสดง : ยุทธนา ลอพันธ์ไพบูลย์
ละครแรงปรารถนา แนวละคร : โรแมนติก - ดราม่า
ละครแรงปรารถนาดำเนินงานสร้าง : บริษัทละครไท จำกัด โดย หทัยรัตน์ อมตวณิชย์
ละครแรงปรารถนา ออกอากาศ : ทุกวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 20.30 น. ช่อง 3 (ต่อจากเหนือเมฆ)
ที่มา manager