@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร แรงปรารถนา ตอนที่ 13/6 วันที่ 27 ม.ค. 56

อ่านละคร แรงปรารถนา ตอนที่ 13/6 วันที่ 27 ม.ค. 56

“แม้กระทั่งแม่ของแกก็ยังไม่ต้องการตัวแก ถึงได้รีบตายจากแกไป หรือแม้กระทั่งพ่อแท้ๆ ก็ยังไม่ยอมรับ แกมันเกิดมาพร้อมกับปัญหา แกมันเป็นไอ้ตัวซวย!”
พิทยาโมโห ภาสันต์ผงะ
จันทร์จำนงโมโหมากเผลอตบหน้าภูวดล เพี๊ยะ!! ทุกคนตกใจ พิทยาชะงัก ภูวดลอึ้งหันมามองจันทร์จำนงน้ำตาคลอ จันทร์จำนงรู้สึกผิดที่เผลอตบหน้าหลาน
“พ่อดล”

ภูวดลน้ำตาไหล...หันไปมองพิทยาแววตาเกลียดชัง
“ฉันไม่ยอมให้เรื่องมันจบแค่นี้แน่!”
ภูวดลชี้หน้าพิทยาแล้วก็เดินออกไป ภาสันต์กับศรีพิไลมองจันทร์จำนงอย่างไม่พอใจ แล้วก็ตามภูวดลออกไป รมณีกับณรงค์มองหน้ากันอย่างไม่รู้จะทำยังไงกับสถานการณ์ตึงเครียด



บวรเดินนำรวีพรรณเข้ามายังเซฟเฮ้าส์แห่งหนึ่ง
“ที่นี่มีทุกอย่างครบ คุณพักได้ตามสบาย จนกว่าจะหาที่ทางใหม่ได้”
บวรยื่นกระดาษโน้ตเล็กๆให้รวีพรรรณ
“นี่เป็นเบอร์ของแม่บ้าน ขาดเหลืออะไร เค้าจะช่วยจัดการให้”
รวีพรรณเอื้อมมือไปรับเบอร์มา
“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัว”
“เดี๋ยวค่ะ … แล้วพิทล่ะคะ พิทอยู่ไหน ทำไมเค้าไม่มาช่วยฉัน แล้วทำไมถึงกลายเป็นคุณ”
บวรสุดทนบอก
“คุณเลิกยุ่งกับพิทได้แล้ว! เพราะคุณ...ทำให้ทุกอย่างมันวุ่นวายไปหมด คุณควรจะรู้ตัวได้แล้วว่า คุณทำให้พิทลำบากใจ”
“ไม่จริง”
บวรสวนกลับทันที
“จริง...! ถ้าพิทเค้าอยากช่วยคุณ เค้าต้องมาช่วยด้วยตัวเองแล้ว แต่นี่เค้ามาขอให้ผมช่วย เพราะเค้าแคร์น้องสาวผม”
รวีพรรณอึ้ง บวรพูดต่อ
“เค้าไม่อยากให้แตเข้าใจผิด คุณควรจะยอมรับความจริงได้แล้วว่า เรื่องระหว่างคุณกับพิทมันจบลงแล้ว ถ้าคุณเห็นแก่เค้าก็ควรจะตัดใจ และเลิกเอาเค้ามาข้องเกี่ยวกับปัญหาส่วนตัวของคุณซักที ปล่อยพิทไปซะ”
บวรทิ้งท้ายไว้ก่อนจะไป ทำเอารวีพรรณพูดอะไรไม่ออก ได้แต่สะเทือนใจอยู่ลึกๆ

ภายในบ้าน เวลากลางคืน เสียงภาสันต์พูดขึ้น
“กับอีแค่ผู้หญิงคนเดียวก็จัดการไม่ได้”
ภาสันต์โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง ! แล้วพูดต่อ
“บรรลัยป่นปี้หมด ! ไหนแกคุยนักคุยหนาว่าเอาที่ดินมาให้ฉันได้ แล้วทีนี้เป็นยังไง”
“พ่อก็เห็นอยู่ว่าเรื่องทั้งหมดมันเป็นเพราะไอ้พิทยา เพราะมันคนเดียวที่ทำให้งานวันนี้พัง”
“ไม่ต้องไปโทษคนอื่นเพราะตัวแกเองไม่มีปัญญารั้งคู่หมั้นเอาไว้ อ่อน ! ไม่มีน้ำยา ! ฉันไม่อยากจะเชื่อจริงๆ ว่าแกเป็นลูกในไส้ของฉัน”
ภูวดลผงะกับคำพูดภาสันต์

“หยุดซะทีเถอะ แค่นี้มันก็วุ่นวายมากพออยู่แล้ว มาหาทางแก้กันดีกว่า เราบอกแขกไปว่าหนูรวีไม่สบาย แล้วทีนี้จะทำยังไงกันต่อไป” ศรีพิไลว่า
ภาสันต์ระชากคอเสื้อภูวดล
“ทำยังไงน่ะเหรอ! ไปตามตัวเจ้าสาวแกกลับมา ฉันไม่สนว่ามันจะไปกับใคร แต่ฉันต้องได้ที่ดิน และแขกเหรื่อต้องเข้าใจว่าเจ้าสาวแกป่วย ไม่ได้หนีตามไอ้ผู้ชายหน้าไหนไป”
ศรีพิไลเข้ามาจับแขนภาสันต์ด้วยความเป็นห่วงภูวดล
“พอได้แล้ว”
“ถ้าแกทำไม่ได้ ก็ไสหัวออกไปจากที่นี่ซะ!”
ภาสันต์ปล่อยมือจากคอเสื้อภูวดลอย่างแรงจนเซไป ภาสันต์ปึงปังออกไป ศรีพิไลรีบตามสามี
“โธ่เว๊ย” ภูวดลโวยด้วยความแค้น
ภูวดลเตะถีบข้าวของบริเวณนั้นไปทั่วเพื่อระบายอารมณ์! เพิ่มความโกรธแค้นในตัวพิทยามากยิ่งขึ้นเป็นทวีคูณ
“ไอ้พิทยา!”

เช้าวันถัดมา สุอาภาตื่น ลืมตาขึ้นมา ลุกขึ้นนั่งด้วยความรู้สึกเหงามาก ไม่นานเสียงเคาะประตูดังขึ้น เธอหันไปมองด้วยความแปลกใจ ประตูถูกเปิดออก พิทยาที่เดินถือถาดวางชามอาหารเข้ามา สุอาภาตกใจมาก
“พิท!”
พิทยายิ้มอย่างอารมณ์ดี เขามานั่งข้างเตียงสุอาภาพร้อมกับวางถาดอาหาร
“อาหารเช้าครับคุณแต”
พิทยายกชามอาหารขึ้นมาตักอาหารขึ้นมาเป่า สุอาภามองพิทยาด้วยแววตาตื้นตันดีใจ พิทยาเงยหน้ามองสุอาภา พร้อมยื่นช้อนไปตรงหน้าแล้วยิ้มให้
“ทานสิครับ กำลังร้อนๆเลย”
สุอาภารู้สึกดีสุดๆ กำลังจะกินอาหารที่พิทยาป้อน แล้วภาพของพิทยาก็เลือนหายไป...

สุอาภาสะดุ้งตื่น..และรู้ว่าเป็นแค่ภาพฝัน สุอาภาถอนหายใจเฮือกใหญ่...ลุกขึ้นนั่ง คิดถึงคำพูดของนพ
“ป๋าอยากให้แตเปิดโอกาสให้พิทอีกครั้ง คนเราถ้าไม่พูดกัน มันจะเข้าใจกันได้ยังไง บางครั้งสิ่งที่เราเห็น สิ่งที่เราเข้าใจ มันก็ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องเสมอไป ป๋าไม่อยากเห็นลูกของป๋าจมอยู่กับความทุกข์ไปจนชั่วชีวิต ลองเอาที่ป๋าพูดไปคิดดูนะ”
สุอาภาหยิบมือถือขึ้นมากดเปิดดูรูปที่เธอกับพิทยาไปเที่ยวกัน แล้วก็เงยหน้าขึ้นมาอย่างตัดสินใจได้

บนโต๊ะอาหาร ทุกคนกำลังทานอาหารเช้า วรรณวดีนึกขึ้นมาได้
“เมื่อคืนใช่วันที่นายภูวดลกับรวีแต่งงานกันรึเปล่าคะ”
บวรฟังแล้วก็สำลักน้ำทันที ทำเอานพกับวรรณวดีแปลกใจ บวรรีบเช็ดปาก แล้วยิ้มแหย
“ระวังหน่อยสิเจ้าใหญ่”
บวรรีบเปลี่ยนเรื่อง
“ผมว่าเราอย่าคุยเรื่องครอบครัวนี้กันแต่เช้าเลยนะครับ ฟังแล้ว กินอะไรไม่ลง”
บวรหงุดหงิดเวอร์จนนพกับวรรณวดีแปลกใจ ไม่นานสุอาภาเดินออกมา ทุกคนหันไปมอง สุอาภาเดินมาตรงหน้านพ
“ป๋าคะ เรื่องที่ป๋าบอกให้แตลองคิด แตตัดสินใจได้แล้วค่ะ”

พิทยาคุยโทรศัพท์สีหน้าประหลาดใจ
“คุณแตอยากคุยกับผม”
บวรยิ้ม
“ใช่”
แต่พิทยากลับสีหน้าไม่สู้ดี บวรเห็นพิทยาเงียบ เลยรีบพูดต่อ
“สิ่งที่แตพูดไปวันนั้น พูดไปเพราะกำลังโกรธ พิทอย่าใส่ใจ ถ้ายังไงวันนี้พิทมาคุยกับแตอีกซักครั้งเถอะ ฉันเชื่อว่าคำตอบของแตวันนั้น กับวันนี้ มันเป็นคนละคำตอบกัน”
พิทยาฟังแล้วก็คิดหนัก เครียดและกังวลใจ

บวรเดินกลับมาที่ห้องรับแขกหานพกับวรรณวดีที่มีสีหน้าอยากรู้อยากเห็น
“พิทว่ายังไง”
“พิทบอกว่าจะมาครับป๋า”
นพยิ้มพอใจ ทั้งบวร วรรณวดีพลอยสบายใจไปด้วย

ภูวดลสีหน้าเครียดอยู่ตรงหน้า รมณีที่ดวงตาช้ำเนื่องจากผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก ณรงค์ยืนอยู่ด้วย
“ยังติดต่อไม่ได้เลยเหรอครับ”
“พวกน้าพยายามหาเบาะแสทุกอย่าง ทั้งจากเพื่อน และคนรู้จักทุกคนของยัยรวี แต่ไม่มีวี่แวว”
ภูวดลบ่นกับตัวเอง
“มันก็ต้องแน่อยู่แล้ว”
“พ่อดลว่าอะไรนะ” รมณีถาม
“เปล่าครับ คุณน้าไม่ต้องห่วง ต่อให้ต้องพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินหา ผมก็ต้องตามคุณรวีกลับมาให้ได้”
ภูวดลพูดจบก็จ้ำเดินออกไปทันที

ภูวดลเดินแววตากร้าวออกมา พลางคิดถึงที่คุยกับภาสันต์
“พ่อก็เห็นอยู่ว่าเรื่องทั้งหมดมันเป็นเพราะไอ้พิทยา เพราะมันคนเดียวที่ทำให้งานวันนี้พัง”
“ไม่ต้องไปโทษคนอื่น เพราะตัวแกเองไม่มีปัญญารั้งคู่หมั้นเอาไว้ อ่อน ! ไม่มีน้ำยา ! ฉันไม่อยากจะเชื่อจริงๆ ว่าแกเป็นลูกในไส้ของฉัน ! ถ้าแกทำไม่ได้ ก็ไสหัวออกไปจากที่นี่ซะ”
ภูวดลแค้นสุดๆ คิดหนักว่าจะทำยังไงดี? ฉับพลันก็มีแววสว่างวาบขึ้นในแววตาอย่างนึกอะไรออก แล้วก็รีบเดินทันที

ภายในห้องนอน สุอาภานั่งที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง มองแหวนแต่งงานในมือ แล้วก็ตัดสินใจใส่ที่นิ้วนางข้างซ้ายอีกครั้ง
นพคุยกับณีที่กำลังตั้งสำรับอาหาร
“มีแต่ของที่พิทชอบทั้งนั้น”
“ณีจัดหนักจัดแน่น เอาใจคุณพิทสุดฤทธิ์เลยล่ะค่ะ”
นพสีหน้ามีความสุข หันมายิ้มให้วรรณวดีกับบวร ระหว่างนั้นคนใช้เดินเข้ามา ทุกคนหันไปมอง
“พิทมาแล้วใช่มั้ย”
นพถามอย่างกระตือรือร้น คนอื่นๆยิ้มรับทันที

มุมหนึ่งในบ้าน ภูวดลสีหน้าเอาเรื่องหันมา บวรเดินเครียดออกมารับหน้า พอเห็นท่าทางภูวดลก็รู้ว่าต้องมาเพราะเรื่องรวีพรรณแน่ๆ บวรถึงกับกังวลใจ
“มีธุระอะไรที่นี่ไม่ทราบ”
“ฉันมาหาไอ้พิทยา ขอโทษ... มันเคยปาก พอดีไปที่บ้านมาแล้วไม่เจอตัวพิทยาอยู่นี่ใช่มั้ย”
บวรคิดและตัดสินใจ
“ไม่อยู่ และมันไม่เหมาะสมด้วยที่คุณจะมาตามหาเค้าที่นี่ มันเป็นเวลาของครอบครัว ถ้าคุณมีธุระอะไร เอาไว้วันหลังจะดีกว่า เชิญคุณกลับได้แล้ว”
“ฉันไม่เชื่อ!”
ภูวดลขยับจะเข้าไป บวรรีบขวาง
“นี่เป็นบ้านของพวกเรา คุณไม่มีสิทธิ์จะมาทำตัวเป็นนักเลงที่นี่”
สุอาภาเดินลงบันไดมาได้ยิน
“มีอะไรกันเหรอคะ”
สุอาภาเดินเข้ามา นพ วรรณวดี ณีเดินออกมาสมทบ ทุกคนมองภูวดลกับสุอาภาเริ่มใจคอไม่ดี
“คุณสุอาภา เจอหน้าก็ดีแล้ว! เมื่อวานที่งานแต่งผม สามีคุณลักพาตัวเมีย เอ๊ย เจ้าสาวของผมไป! ให้เค้าปล่อยตัวรวีคืนมาเดี๋ยวนี้”
ทุกคนชะงักกันไปหมด โดยเฉพาะบวรหน้าซีดมากแทบจะไม่กล้าสบตาผู้คน สุอาภาอึ้ง และงงงวยมากที่สุดถึงกับพูดอะไรไม่ออก
“ไม่จริง พิทไม่มีทางทำอะไรแบบนั้น”
“พวกคุณกล้ารับรองรึเปล่าว่ามันไม่ได้ทำ!”
บวรรู้แก่ใจ อึดอัด แต่จะยอมรับก็ไม่ได้ ภูวดลหันไปทางสุอาภา
“คุณช่วยกรุณาจัดการให้สามีคุณคืนภรรยาชาวบ้านมาได้แล้ว ลักพาตัวผู้หญิงของคนอื่นไปแบบนี้ มันโจรชัดๆ”
สุอาภายังนิ่งอึ้งเพราะช็อกอยู่
“หยุดว่าพิทแบบนั้น!” บวรพูด
ภูวดลตะโกนลั่นบ้าน
“ทำไมฉันจะว่าไม่ได้ ไอ้พิทยา โผล่หัวออกมาสิวะ! มัวแต่หดหัวอยู่ทำไม อยู่ไหนวะไอ้พิทยา”
นพทนไม่ไหว
“หยุดนะ! หยุดใส่ความพิทได้แล้ว”
ภูวดลแค่นยิ้ม
“ใส่ความ ฮึ...กำพืดต่ำๆแบบนี้มีหรือจะไม่ทำระยำ แม่ของมันก็เคยทำให้คุณเจ็บช้ำมาแล้ว นังแพศยาคนนั้น จำไม่ได้เหรอไง”
นพชะงัก โกรธเลือดขึ้นหน้า
“ถ้ายังพูดจาดูถูกพิทกับแม่ของพิทอีกคำเดียว ฉันจะเรียกตำรจมาจับคุณเดี๋ยวนี้!”
“ตำรวจมาก็ดี ผมจะได้แจ้งความจับไอ้พิทยาข้อหาลักพาตัว”
“ถ้าอยากแจ้งความ ก็เชิญ แต่ตำรวจจะเชื่อรึเปล่านั่นอีกเรื่อง เพราะว่าคุณไม่มีหลักฐาน”

ภูวดลนิ่ง หน้าถอดสี นพพูดต่อ
“คนที่จะถูกจับคือคุณต่างหาก ข้อหาบุกรุกบ้านของผม!”
ภูวดลกำมือแน่น
“จนขนาดนี้ก็ยังจะปกป้องมันอีก ทั้งๆที่มันซ่อนผู้หญิงคนอื่นไว้ลับหลังลูกสาวคุณ”
ภูวดลหันไปทางสุอาภาแล้วพูดต่อ
“ทำตัวเป็นเมียหลวงใจพระ มีเมตตา ปล่อยให้ผัวไปมีความสุขกับผู้หญิงคนอื่น พวกคุณนี่มันโง่กันทั้งครอบครัว โง่กันทั้งตระกูล”
บวรโมโหจนสุดจะทนได้อีก พุ่งเข้ามาหาไปกระชากตัวภูวดล
“ไอ้!”
“อย่าครับคุณใหญ่ !”

อ่านละคร แรงปรารถนา ตอนที่ 13/6 วันที่ 27 ม.ค. 56

ละครแรงปรารถนา บทประพันธ์โดย อาริตา
ละครแรงปรารถนา บทโทรทัศน์ : ปณธี
ละครแรงปรารถนา กำกับการแสดง : ยุทธนา ลอพันธ์ไพบูลย์
ละครแรงปรารถนา แนวละคร : โรแมนติก - ดราม่า
ละครแรงปรารถนาดำเนินงานสร้าง : บริษัทละครไท จำกัด โดย หทัยรัตน์ อมตวณิชย์
ละครแรงปรารถนา ออกอากาศ : ทุกวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 20.30 น. ช่อง 3
ที่มา manager