@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร แรงปรารถนา ตอนที่ 1/4 วันที่ 5 ม.ค. 56

อ่านละคร แรงปรารถนา ตอนที่ 1/4 วันที่ 5 ม.ค. 56

“แถมแตยังชอบเดินตามพิทต้อยๆ จนคนเค้านึกว่าแตกับพิทเป็นเป็นพี่น้องกันจริงๆ”
“จำไม่ได้” สุอาภารีบพูด
ทุกคนกร่อยไปทันที บวรรีบพูดแก้ไขสถานการณ์
“เรามาถ่ายรูปกันดีกว่า”
บวรกำลังตั้งกล้องถ่ายรูปกับขาตั้งกล้อง เมื่อตั้งระบบกล้องเสร็จ ก็รีบวิ่งเข้าไปสมทบกับกลุ่มใหญ่ที่เตรียมแอ็กท่ารออยู่
“เอ้า ! พร้อมนะทุกคน .. 8 แอคชั่นนะครับ พร้อม !”
กล้องเริ่มถ่ายภาพไปตามระบบที่ตั้งไว้ ทุกคนยิ้มแฉ่ง แอ็กท่าต่างๆนานากันอย่างสนุกสนานครื้นเครง

ผ่านเวลา ภายในห้องทานอาหาร ทุกคนร้องเพลง Happy Birthday ให้นพ บนโต๊ะ... แสงเทียนบนเค้กวันเกิดสวยงาม เพลงจบ นพหลับตาอธิษฐานแล้วเป่าเทียนวันเกิด ทุกคนปรบมือยินดี ..... เย้ๆๆ
“มาครับ เดี๋ยวผมช่วยเอาเค้กไปตัดแบ่งให้เอง” พิทยาบอก



สุอาภารีบกันท่าทันที
“ไม่ต้อง ฉันทำเอง”
สุอาภารีบลุกมาตัดหน้าแย่งพิทยาตัดเค้กแบ่งใส่จาน พิทยาผงะ บวรมองน้องสาวด้วยความหมั่นไส้ ขณะที่สุอาภาตั้งใจตักเค้ก บวรเลยเดินมาเอานิ้วปาดครีมแต่งหน้าเค้กแล้วป้ายปากน้องสาวจนเธอชะงัก
“พี่ใหญ่”
บวรหัวเราะชอบใจ สุอาภาเอานิ้วปาดครีมจะเอาคืนพี่ชาย แต่บวรวิ่งหนี วรรณวดี พิทยา และนพยิ้มชอบใจ บวรรีบวิ่งมาหลบหลังพิทยา
“ไอ้พิท...ช่วยฉันด้วย”
สุอาภาป้ายครีมลงบนจมูกพิทยาพอดี เธอผงะ พิทยานิ่งไป แล้วก็คว้าจานเค้กที่ตัดแบ่งแล้ว เอานิ้วปาดครีมไล่ป้ายหน้าเธอบ้าง สุอาภาร้องลั่น
“นี่! อย่านะ”
พิทยากำลังจะป้าย สุอาภาหลบหลังนพ พิทยาป้ายโดนหน้านพพอดี พิทยาตกใจ รีบวางจานเค้กแล้วยกมือไหว้
“ขอโทษครับ”
นพยิ้มแล้วลุกขึ้นยืนบอก
“ไม่เป็นไร”
ว่าแล้วนพก็เอาจานเค้กจะปาเข้าหน้าพิทยา แต่พิทยาเบี่ยงตัวหลบ เค้กเลยปะหน้าบวรเต็มๆ ทุกคนหัวเราะมีความสุข นพหันไปเห็นวรรณวดียังไม่โดน เลยเอานิ้วปาดครีม
วรรณวดีเหวอบอก
“ป๋าอย่านะ”
วรรณวดีหนีไม่ทัน เจอนพเข้ามากอดแล้วเอาครีมป้ายหน้า สุอาภาหัวเราะ พิทยาเอาเค้กยัดใส่ปากเธอ
สุอาภาแทบสำลักหันไปมองพิทยาที่หัวเราะสะใจ ก็โมโห เอาเค้กอีกชิ้นยัดปาก พิทยาผงะ เธอขำ แล้วทั้งเขาและเธอต่างหัวเราะออกมาพร้อมกัน บรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุกสนานมากๆ

ภายหลังจากทุกคนล้างหน้าล้างตากันหมดแล้ว ก็เดินออกมายังห้องรับแขกพร้อมกัน ทุกคนหยุดเดินหันไปทางนพ
“ขอบใจลูกๆทุกคนมาก วันเกิดปีนี้ของป๋าเป็นวันเกิดที่ป๋ามีความสุขมากที่สุด แล้วก็เป็นวันเกิดที่เลอะเทอะมากที่สุดอีกด้วย”
ทุกคนหัวเราะ นพนิ่งไปซักพัก
“ความจริงแล้วป๋ามีบางอย่างที่อยากจะขอในวันเกิดปีนี้”
ทุกคนมองหน้านพด้วยความสงสัย นพหันไปมองสุอาภากับพิทยาแล้วก็จับมือทั้งคู่พร้อมกัน ทั้งคู่มองนพอย่างแปลกใจ
“พิท ฉันอยากฝากให้เธอดูแลแต”
พิทยากับสุอาภาอึ้ง วรรณวดีกับบวรมองหน้ากัน สุอาภาถาม
“ป๋าจะให้เค้าดูแลแตทำไม แตมีพี่ต่ายกับพี่ใหญ่ที่คอยดูแลแตอยู่แล้ว”
“ป๋าหมายความว่าป๋าจะยกแตให้พิท” นพบอก
สุอาภา พิทยา วรรณวดีและบวรชะงัก
“ฉันอยากให้เธอกับลูกสาวฉันแต่งงานกัน”
ทุกคนช็อก ! พิทยากับสุอาภาหันมามองหน้ากัน แล้วเขาก็รีบพูดออกมาเป็นคนแรก
“ผมแต่งงานกับคุณแตไม่ได้! เพราะผมมีคนรักอยู่แล้ว”
สุอาภาอึ้ง...กำมือแน่นด้วยความโกรธและเสียใจอย่างที่สุด นพ บวร และวรรณวดีเงียบ สุอาภาพยายามสงบสติบอกพิทยา
“เข้าไปคุยกับฉันในห้อง”
สุอาภาลุกเดินออกไปก่อน พิทยาลุกขึ้นเดินตามไป ที่เหลืออยู่มีหน้าเครียดหันไปมองตามด้วยความกังวลใจ
“ป๋าพูดอะไรออกมารู้ตัวรึเปล่า”
นพกับบวรหันมา วรรณวดีพูดต่อ
“คนอย่างพิทรักศักดิ์ศรียิ่งกว่าอะไร ถ้าเค้าต้องแต่งงานกับแต คนก็จะพูดกันว่าเค้าหวังรวยทางลัด ป๋าเลี้ยงพิทมาตั้งแต่เด็ก ป๋าไม่รู้จักนิสัยเค้าเหรอคะ”
“ป๋ารู้ดีว่าพิทเป็นคนยังไง ก็เพราะความหยิ่งในศักดิ์ศรีของมันเนี่ยแหละ ถึงเป็นเกราะป้องกันชั้นดีในการที่จะดูแลน้องของพวกแก ถ้าเกิดป๋าหรือพวกแกเป็นอะไรขึ้นมา”
วรรณวดีกับบวรอึ้ง คิดตามแล้วก็เห็นจริง นพได้แต่ถอนหายใจด้วยความกลุ้ม

ภายในห้องๆหนึ่ง ทันทีที่เข้ามาสุอาภาก็ระเบิดอารมณ์ที่กดเก็บเอาไว้ หันไปตบหน้าพิทยาดังเพี๊ยะ!!
พิทยาหน้าหัน...นิ่งงันไปอึดใจ แล้วก็หันหน้ามามองสุอาภา
“นายนึกว่าตัวเองเป็นใคร!มีสิทธิ์อะไรมาปฏิเสธว่าจะไม่แต่งงานกับฉัน”
“ผมรู้ว่าคุณเองก็ไม่ได้อยากแต่งงานกับผม แล้วคุณมาโกรธผมทำไม”
“เพราะไม่เคยมีใครกล้าปฏิเสธฉันมาก่อน!”
“งั้นก็เคยซะจะได้รู้ว่ามันเป็นยังไง”
“นายพิทยา! นายจะจองหองมากเกินไปแล้ว ไม่รู้ป๋าไปหลงเสน่ห์คนนิสัยแย่อย่างนายตรงไหน หลงจนไม่ลืมหูลืมตาดูความเหมาะสม ป๋าคงลืมว่ากากับหงส์มันคนละพันธุ์”
“มันก็สัตว์เหมือนๆกัน จะพันธุ์ไหนๆ มันก็ไม่ได้วิเศษวิโสมาจากไหน ตัวเป็นหงส์ ใจเหมือนอีกาก็ถมไป คุณทะนงว่าตัวเองเป็นหงส์ แล้วเหยียดผมเป็นแค่กา แต่คุณลองกลับไปค้นหาตัวเองใหม่อีกที ก็คงจะพบล่ะมั๊งว่าคุณเป็นหงส์แค่เปลือกนอก”
สุอาภาโมโหมาก
“นายพิทยา!”
สุอาภาจะตบอีก แต่คราวนี้พิทยาจับแขนเอาไว้ได้ทัน
“คุณชอบข่มผม ชอบเอาอำนาจมาฟาดหัวผม ทำให้ผมต้องศิโรราบให้กับคุณ จำไว้นะสุอาภา ผมไม่เคยคิดจะรักผู้หญิงอย่างคุณ”
สุอาภานิ่งงงงัน..ใจหวิววับกับคำว่า “ไม่เคยคิดจะรักผู้หญิงอย่างคุณ”

พิทยาพูดจบก็เดินออกไป ทิ้งให้สุอาภายืนน้ำตาร่วงด้วยความเจ็บปวดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
พิทยาเดินออกมาเจอนพยืนรออยู่ก็ชะงัก นพมองหน้า พิทยาเดินมาแล้วคุกเข่าตรงหน้านพก้มลงกราบเท้านพด้วยความรู้สึกผิดเต็มหัวใจ นพอึ้ง รีบดึงเขาให้ลุกขึ้น

“พิท...”
พิทยาสีหน้าเสียใจมาก ไม่ลุก
“ให้ผมได้กราบคุณอาเถอะครับ บุญคุณคุณอาท่วมหัว ผมไม่มีวันลืม แต่ครั้งนี้ในสิ่งที่คุณอาขอ ผมไม่สามารถให้ได้จริงๆ ผมไม่อยากให้ใครๆตราหน้าว่าผมเป็นแมงดาเกาะผู้หญิงกิน ผมขอโทษ..ขอโทษครับ”
พิทยาก้มหน้า น้ำตาหยดแหมะลงบนพื้น นพจับไหล่แล้วดึงเขาให้ลุกขึ้นยืน
“ฉันต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายขอโทษ...ที่ทำอะไรลงไป โดยไม่ถามความสมัครใจจากเธอ”
“คุณอาผิดหวังในตัวผมรึเปล่าครับ”
“ตั้งแต่วันแรกจนถึงเวลานี้ ฉันไม่เคยนึกเสียใจที่ได้เลี้ยงดูเธอมา เธอเหมือนแม่ของเธอมากนะพิท เธอทำให้ฉันภูมิใจในทุกๆเรื่อง ฉันคิดแต่ว่าฉันอายุมากขึ้น สังขารก็ร่วงโรยรางลงไปทุกวัน คนที่ฉันเป็นห่วงมากที่สุดคือแต คนที่ฉันไว้ใจมากที่สุดคือเธอ ฉันถึงอยากจะฝากคนที่ฉันห่วงมากที่สุดให้กับคนที่ฉันไว้ใจมากที่สุด” นพว่า
พิทยาอึ้ง นิ่งฟังน้ำตารื้นด้วยความซาบซึ้ง นพตบบ่าเขา
“แต่ฉันคงไม่มีวาสนาที่จะได้เธอมาเป็นลูกเขย”
“ผมต่างหากที่ไม่มีวาสนา...ถึงไม่ได้เกิดมาเป็นลูกแท้ๆของคุณอา”
นพชะงัก แทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความตื้นตันใจ แล้วก็ดึงพิทยามากอดเอาไว้ด้วยความรักอย่างพ่อคนหนึ่งที่ให้กับลูก...ที่มุมหนึ่งเห็นบวรกับวรรณวดียืนมองภาพของทั้งคู่ด้วยความซาบซึ้ง

สุอาภาผลุนผลันเข้ามาในห้องนอนด้วยความเสียใจ พยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหล
“เค้าไม่ได้มีค่าพอให้เธอต้องร้องไห้” สุอาภาพูดกับตัวเอง
แต่น้ำตาเจ้ากรรมดันไหลออกมาอย่างหยุดไม่ได้ เธอนั่งลงที่เตียง หันไปดูรูปที่เธอถ่ายกับพิทยาตอนเด็กๆที่วางบนชั้นข้างเตียงขึ้นมาดู เห็นแววตาเธอ บ่งบอกว่าจริงๆแล้วเธอรักพิทยา เธอร้องไห้ รีบยกมือปิดปากกลัวคนได้ยินเสียง แล้วก็ร้องไห้ออกมาอย่างหนัก

วันถัดมา ภายในห้องรับแขกบ้านสุอาภา นาฬิกาบอกเวลาแปดโมงเช้า เสียงเข็มวินาทีเดินตึ่ก.ตึ่ก..ตึ่ก...
นพ บวร วรรณวดี ณีต่างหันไปมองที่ว่า เมื่อไหร่สุอาภาจะออกมา
นพถือหนังสือพิมพ์กลับหัว วรรณวดีตักน้ำตาลใส่กาแฟไม่หยุด บวรเอามือจับแก้วกาแฟ
ณีกำลังรินกาแฟ แต่เพราะไม่ได้มองเลยทำกาแฟหกใส่มือจนบวรร้องลั่น
“อ๊าก!”
ทุกคนตื่นจากภวังค์หันไปมองบวรที่หน้าตื่น ณีตกใจ
บวรสะบัดมือเพราะร้อน
“ป้าจะฆ่าผมเหรอครับ”
“ป้าขอโทษค่ะ ป้าไม่ได้ตั้งใจ”
ณีรีบเอากระดาษให้บวรเช็ดมือ
“ป้าไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรแล้วล่ะคะ จนป่านนี้คุณหนูยังไม่ลงมาจากห้องเลย ไม่รู้จะเป็นอะไรรึเปล่า”
ทุกคนเริ่มเครียด
“จะว่าไป...ตั้งแต่เกิดเรื่องเมื่อคืน ยัยแตก็เอาแต่เก็บตัวเงียบอยู่ในห้องจนถึงป่านนี้”
“น่าแปลกนะคะ ปกติยัยแตต้องอาละวาด หรือไม่ก็ออกไปชอปปิ้งเวลาไม่ได้ดั่งใจ”
นพชักเป็นกังวล
“ป๋าว่าเราต้องส่งใครซักคนเข้าไปดู”
“แล้วจะเป็นใครล่ะคะ” ป้าณีถาม
บวร นพ วรรณวดีหันมามองหน้าณีพร้อมกัน เธอชะงักหันไปมองด้านหลังไม่มีใคร!! ณีชี้หน้าตัวเองบวร นพ วรรณวดีพยักหน้าพร้อมกัน

ในเวลาต่อมา ณีเข้ามาในห้องที่มืดมิดเพราะยังไม่ได้เปิดม่าน พร้อมกับถาดอาหารเช้า มองไปที่เตียงเหมือนมีคนนอนคลุมโปงอยู่
“อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณหนู”
ณีวางถาดบนโต๊ะแล้วเดินไปเปิดม่าน ก่อนจะหันไปมองที่เตียงอีกครั้ง
“ตื่นได้แล้วค่ะคนดีของป้า”
นิ่ง ไม่มีเสียงตอบรับ ณีตัดสินใจเดินมาใกล้เตียง แล้วเปิดผ้าห่มออกพบ แต่หมอนข้าง
“คุณหนู อ้าว...”

ภายในห้องรับแขก นพ บวร วรรณวดีร้องขึ้นพร้อมกัน
“ไม่อยู่ในห้อง!”
ทุกคนแปลกใจมาก และมองหน้าณีด้วยสีหน้ากังวลใจ
“เพราะป๋าคนเดียว” วรรณวดีว่า
นพหน้าเหวอ
“จำไว้เป็นบทเรียนนะคะ คราวหน้าคราวหลังถ้าจะทำอะไร กรุณาปรึกษากันก่อน”
นพสะกิดบวร
“เฮ้ยไอ้ใหญ่...ช่วยป๋าด้วยดิ”
“งานนี้ตัวใครตัวมันครับป๋า”
บวรขยับไปอยู่ฝั่งเดียวกับต่ายบอก
“ผมเห็นด้วยกับต่าย”
นพหันไปทางณีเพื่อขอความเห็นใจ แต่เธอส่ายหัวแล้วขยับไปยืนข้างวรรณวดีอีกคน ทั้งสามคนมองนพด้วยสายตาตำหนิ นพได้แต่ถอนหายใจ

เวลาเช้า ในฟิตเนสแห่งหนึ่ง สุอาภากำลังต่อยมวยอย่างบ้าคลั่งกับเทรนเนอร์ ทั้งต่อย ทั้งเตะไม่หยุดเป็นการระบายอารมณ์ พราวพิไลอยู่ข้างๆมองเพื่อนด้วยความเป็นห่วง เธอยิ่งต่อยก็ยิ่งโมโห
“คนบ้า!”
เทรนเนอร์ตกใจนึกว่าถูกด่า!
“สารเลว!”
เทรนเนอร์สะดุ้ง!!
สุอาภารัวหมัดไม่ยั้ง
“ฉันเกลียดนาย เกลียดนาย เกลียดๆๆ...”
คำว่า”เกลียด” คำสุดท้าย เธอปล่อยหมัดแรงมาก เทรนเนอร์ถึงกับเซล้มไปบนพื้น พราวพิไลตกใจรีบเข้ามาหาเทรนเนอร์ สุอาภายืนหอบ
“ขอโทษนะคะ เพื่อนฉันมันเลือดจะไปลมจะมาก็เลยอารมณ์แปรปรวน”
เทรนเนอร์หน้าเหวอมาก สุอาภาถอดนวมปาไปบนพื้นก่อนจะเดินออกไป พราวพิไลหันไปมองตาม
“อ้าวเฮ้ยแต...รอฉันด้วย”

พราวพิไลหันไปยิ้มให้เทรนเนอร์อีกครั้ง แล้วรีบตามสุอาภาออกไป
มุมหนึ่งในฟิตเนส สุอาภาดื่มน้ำอักๆๆ พราวพิไลเดินตามมานั่งข้างๆ

“แกเป็นอะไรของแก! ลากตัวฉันมาที่นี่แต่เช้า ไม่พูดไม่จา แถมยังทำร้ายคนอื่นอีก”
“ฉันไม่อยากพูดถึง”
“อ้าว...แล้วฉันจะรู้มั๊ยเนี่ยว่าแกเป็นอะไร”
พลันเสียงมือถือสุอาภาดังขึ้น เธอหยิบออกมาเห็นชื่อนพ พราวพิไลชะโงกหน้าเข้ามาดูด้วย สุอาภากดปิดเครื่องจนเพื่อนแปลกใจ
“ทำไมแกไม่รับโทรศัพท์ป๋า”
สุอาภาไม่ตอบ เสียงมือถือพราวพิไลดังขึ้น เธอหยิบขึ้นมาดู เห็นชื่อหน้าจอ... แล้วหันไปทางสุอาภา
“ป๋าแก!”
สุอาภาเอามือถือพราวพิไลมาแล้วกดปิด พราวพิไลเหวอ
“แกปิดมือถือฉันทำไม”
สุอาภายังเงียบ พราวพิไลจับไหล่สุอาภาให้หันมาจ้องหน้า
“ไอ้แต...แกต้องเล่ามาให้ฉันฟังได้แล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น”
สุอาภามองพราวพิไล

ในเวลาเดียวกัน พิทยากำลังคุยโทรศัพท์
“คุณแตไม่ได้มาหาผม ถ้าไงผมจะลองโทรให้นะครับคุณอา แต่ไม่รู้ว่าเค้าจะรับโทรศัพท์ผมรึเปล่า”
พิทยาวางสาย แล้วกดโทรหาสุอาภา...เข้าฝากข้อความ
เขาวางสายแล้ว เดินกระวนกระวาย กังวลใจเพราะเป็นห่วงเธอ คิดว่าจะทำอย่างไรดี ทันใดนั้นมีโทรศัพท์เข้ามา เขาดีใจ คิดว่าเป็นสุอาภาโทรเข้ามา รีบกดรับสาย
“รวี...ผมกำลังจะออกจากบ้าน เจอกันที่ร้านนะครับ”
พิทยาพูดจบก็วางสาย แล้วเดินออกไป

บริเวณโชว์รูม รถนำเข้าแห่งหนึ่ง มีรถยนต์นำเข้า 2 คัน โชว์อยู่ พร้อมพริตตี้สาว 2 คน กำลังเต้นตามจังหวะเพลงอยู่ข้างรถ บรรยากาศในงานมีมุมคอกเทลเล็กๆ นักข่าวกำลังถ่ายรูป บรรดาไฮโซ เซเลบนั่งบ้าง ยืนบ้าง คุยกันบ้าง พนักงานเสิร์ฟไวน์ ไม่นานพริตตี้ก็เต้นจบเพลงก่อนจะเดินไปยืนข้างๆ พิธีกรเดินออกมา ทุกคนปรบมือ
“ขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่งานประมูลรถเพื่อนำรายได้เข้าสู่องค์กรการกุศลห้าสิบองค์กร ผมขอเปิดการประมูลรถคันแรก Porsche Panamera ราคาเริ่มต้นที่ 15 ล้าน”
ผู้คนแข่งกันยกมือกับการประมูลที่ดุเดือด
“สิบห้าล้านหนึ่งแสน”
พิธีกรชี้ไปที่อีกคน
“ขยับขึ้นมาเป็นสิบหกล้านแล้วครับ”
ขณะนั้นมีคนยกมือ พิธีกรหันไป
“สิบหกล้านห้าแสน”
มีคนยกมือเพิ่มราคาประมูลอีก
“สิบเจ็ดล้าน”
พิธีกรหันไปเห็นคนแรกยกมืออีก
“สิบเจ็ดล้านห้า มีใครให้มากกว่านี้มั๊ยครับ สิบเจ็ดล้านห้าครั้งที่1 สิบเจ็ดล้านห้าครั้งที่ 2”
ทันใดนั้นเสียงภูวดล เตชิตก็ดังขึ้น
“18 ล้าน!”
ทุกคนหันไปหาที่มาของเสียง ภูวดลเดินเข้ามาอย่างหล่อจนทุกคนฮือฮา
“18 ล้านมีใครจะสู้มั๊ยครับ ถ้าไม่มี รถ Porsche Panamera เป็นของคุณภูวดล”
ทุกคนปรบมือ ภูวดลหันไปยิ้ม แล้วก็หันมาสบตากับพริตตี้คนหนึ่ง ทั้งสองคนจ้องกันราวกับจะกลืนกินกันตรงนั้น

ภูวดลขับรถPorsche Panamera คันที่ประมูลได้เข้ามาจอดด้านหน้า แล้วก็ลงจากรถพร้อมกับน้องพริตตี้ทั้งสองคนที่โอบกอดกันเดินเข้าไป
“อยากทานอะไรจ๊ะ” ภูวดลถาม
พริตตี้หันไปทางภูวดลพร้อมส่งสายตา
“อยากทานคุณดลได้ป่ะคะ”
ภูวดลขำอย่างถูกใจ
“ผมน่ะเป็นของหวาน ไว้หลังอาหารจานหลักดีกว่า”
ภูวดลกับพริตตี้ยิ้มกรุ่มกริ่มให้กัน แล้วพากันเดินออกไป
สุอาภากับพราวพิไลหิ้วถุงของมากมายเดินมาจากอีกทาง
“ฉันรู้ว่าแกเครียดกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่พอเหอะ ฉันเดินต่อไม่ไหวแล้ว อีกอย่างฉันหิวจนไส้จะขาดแล้วด้วย หาไรกินก่อนเหอะ”
“ก็ได้...” สุอาภาบอก
สุอาภากับพราวพิไลเดินไปตามทางที่ภูวดลกับพริตตี้เดินออกไป

สุอาภากับพราวพิไลเดินมาหน้าห้องน้ำ
“แต...ฉันขอเข้าห้องน้ำแป๊บนะ”
พราวพิไลส่งถุงให้สุอาภาถือแล้วก็รีบเข้าห้องน้ำ สุอาภาแทบจะหิ้วไม่ไหว เดินไปรอตรงมุมหนึ่ง แล้วก็มีเด็กวิ่งเล่นมาตามทางชนกับเธอเข้าอย่างจังจนเธอเซเกือบจะล้ม แต่ข้าวของร่วงเต็มพื้น
“ว๊าย!”
ทันใดนั้นมีมือเข้ามาประคองรับสุอาภาไว้ในอ้อมกอด เธอหันไปเห็นเป็นภูวดล
ทันทีที่ภูวดลเห็นสุอาภาก็ปิ๊งอย่างแรง แล้วเขาก็พยุงเธอให้ลุกขึ้นยืนด้วยความสุภาพ
“เจ็บตรงไหนมั๊ยครับ”
สุอาภาไม่ไว้ใจเขาเพราะสายตาที่มองมา เธอไม่ตอบรีบผละออกห่างแล้วเก็บของบนพื้น เขาช่วยเก็บของที่พื้น แต่มือไปโดนอีก สุอาภารีบดึงมือหลบ ภูวดลยิ้มแล้วก็ส่งของให้สุอาภา พราวพิไลเดินออกมา เห็นทั้งคู่ก็ชะงัก สุอาภารีบเข้ามาจับแขนพราวพิไลพาเดินออกไปทันที พราวพิไลกระซิบถาม
“ใครอ่ะ หล่อโคตร”
“ไม่รู้”
พราวพิไลหันไปมองภูวดลอย่างไม่วางตา แล้วก็เห็นพริตตี้เดินออกมาเกาะแขนภูวดล
“ขอโทษนะคะที่ช้า”
“ไม่เป็นไรครับ ผมรอได้”

พริตตี้ควงแขนภูวดลแล้วพากันเดินออกไป แต่ภูวดลยังคงมองตามหลังสุอาภาอย่างถูกใจ
ยินเสียงสุอาภาแหวขึ้นมาอย่างไม่พอใจ

“โต๊ะเต็ม!! เต็มที่ไหน ฉันเห็นยังมีที่ว่าง”
สุอาภายืนหน้าเอาเรื่องตรงหน้าพนักงาน มีพราวพิไลยืนหน้าเสียอยู่ข้างๆ
“มีคนจองไว้ค่ะ”
“ถ้างั้นคุณก็ต้องหาโต๊ะให้ฉันให้ได้”
พนักงานสีหน้าลำบากใจ
“คงต้องรอซักครู่นะคะ”
“ฉันไม่รอ ฉันต้องการโต๊ะเดี๋ยวนี้!”
พราวพิไลสะกิดสุอาภา
“แต...เราไปร้านอื่นก็ได้”
สุอาภาหันมาทางพราวพิไล แต่สายตาเหลือบไปเห็นพิทยากับรวีพรรณกำลังทานข้าวด้วยกันอยู่ในร้านก็ยิ่งแค้นจัด แล้วก็นึกอะไรออก ยิ้มเจ้าเล่ห์
“ฉันมีโต๊ะแล้ว”
สุอาภาเดินฉับๆเข้าไปทันที พราวพิไลรีบตาม พนักงานเหวอ สุอาภาเดินมาที่โต๊ะพิทยากับรวีพรรณ
พราวพิไลตามมาติดๆเห็นพิทยาก็ผงะ
“บังเอิญจังเลย “
พิทยากับรวีพรรณหันไปเห็นสุอาภาก็ตกใจ สุอาภาโผเข้ากอดพิทยาที่นั่งอยู่...เอาแก้มแตะแก้มแบบพวกไฮโซทันที พราวพิไลกับรวีพรรณตกใจมาก พิทยาเองก็ถึงกับอึ้งทำอะไรไม่ถูก
“คิดถึงพิทจัง ทั้งๆที่เราเพิ่งเจอกันเมื่อวาน”
รวีพรรณผงะ พยายามอดทน พิทยางงมากว่าสุอาภาจะทำอะไร? แล้วเธอก็หันไปทางรวีพรรณทำเป็นเพิ่งเห็น
“อ้าวคุณรวีพรรณ นี่นั่งอยู่ด้วยเหรอคะ ซอรี่นะคะ ไม่เห็น”
รวีพรรณทำหน้าไม่ถูก พูดไม่ออก
สุอาภาหันไปทางพิทยา
“นั่งด้วยคนนะ”
สุอาภานั่งลงข้างๆเขา แต่พราวพิไลไม่กล้า ทั้งพิทยากับรวีพรรณต่างผงะ สุอาภานั่งข้างพิทยา พราวพิไลนั่งข้างรวีพรรณ พิทยามีสีหน้าไม่พอใจ
“เท่าที่ผมจำได้ ผมไม่ได้เชิญคุณให้นั่งร่วมโต๊ะด้วย”
“ฉันเชิญตัวเองได้ แหม...วันนี้โชคดีจัง ได้เจอกับคุณรวีซะที คุณรวีทั้งสวยทั้งน่ารักอย่างนี้นี่เอง พิทเค้าถึงได้รักม๊ากมาก จนปฏิเสธไม่ยอมแต่งงานกับฉัน”
พิทยาชะงักหน้าถอดสี พราวพิไลและรวีพรรณตะลึงอึ้ง ที่ได้ยินสุอาภาพูดออกมา สุอาภาทำเป็นตกใจ “อ้าว... นี่นายไม่ได้เล่าให้แฟนนายฟังเหรอว่าป๋ายกฉันให้นาย?!”
ตึง! รวีพรรณมองพิทยาหน้าชาไปทั้งแทบ สุอาภาลอบมองรวีพรรณกับพิทยาแล้วฉายแววตาสะใจ พราวพิไลอยากจะบ้าตายอยู่ตรงนั้น รีบคว้าแก้วน้ำที่วางตรงหน้าพิทยามาดื่มอักๆ
“จริงเหรอพิท”
พิทยานิ่งไปสักพักบอก “เออ..จริง”
รวีพรรณอึ้งมากถาม
“ยังมีอะไรที่รวีไม่รู้อีกมั๊ย”
พิทยารีบพูด
“ไม่มี”
บรรยากาศมาคุมากๆ สุอาภาหันไปสั่งบริกรที่เดินมาพอดี
“ขอสลัดทูน่า 2 ที่..น้ำเปล่า พอดีช่วงนี้กำลังควบคุมน้ำหนักน่ะค่ะ”
สุอาภาทำท่านึกขึ้นได้
“อ้อพิท...วันก่อนแตลืมต่างหูไว้ที่บ้านพิท น่าจะถอดไว้ที่โต๊ะหัวเตียงนะ พิทช่วยเอามาคืนด้วยนะ คู่นั่นน่ะป๋าซื้อให้”
พิทยาหันไปถลึงตาใส่สุอาภา รวีพรรณหันไปมองหน้าเขาด้วยความเสียใจมาก พิทยาพูดไม่ออก พราวพิไลรินน้ำดื่มอีกด้วยความเครียด
“คุณรวีอย่าเข้าใจผิดนะคะ พอดีมีแอคซิเดนนิดหน่อย แตเลยต้องค้างบ้านพิท”
รวีพรรณหึงมากและตกใจจนน้ำตาคลอ สุอาภาสังเกตเห็นทำทีตกใจ
“อ๊ะ...นี่คุณรวีก็ไม่รู้เรื่องนี้อีกแล้วเหรอคะ”
พิทยาสุดทนบอก
“ไปคุยกับผมข้างนอก”
“ฉันหิว ยังไม่อยากคุย”
พิทยาพูดเสียงดัง
“ต้องคุย!”
พิทยาจับแขนสุอาภาแล้วลากออกไปทันที พราวพิไลหันไปทางรวีพรรณ
“นะน้ำ..มั๊ยคะ”
รวีพรรณหันไปมองพราวพิไลด้วยสายตาดุดัน พราวพิไลเลยดื่มน้ำเอง
ภูวดลมองเหตุการณ์ทุกอย่างด้วยสีหน้าครุ่นคิด

พิทยาลากสุอาภาออกมาที่นอกร้านในมุมหนึ่ง หยุดเดิน ปล่อยแขน แล้วหันไป
“คุณพูดแบบนั้นเพื่ออะไร”
สุอาภาสีหน้ากวนบอก
“นี่ฉันกำลังช่วยนายอยู่นะ นายเองก็เหมือนพี่ชายฉันคนหนึ่ง ฉันก็ต้องสแกนคนที่จะมาเป็นพี่สะใภ้ฉัน ว่าเค้ารักนายจริงรึเปล่า แต่เท่าที่ฉันดูเมื่อกี้ ท่าทางแฟนนายจะขี้หึงมาก ไม่มีความหนักแน่นเอาซะเลย”
“ไม่ต้องมาแสดงความหวังดีกับผม ผมรู้ว่าคุณจงใจมาป่วน เพราะคุณโกรธที่ผมไม่ยอมแต่งงานด้วย!”
เสียงพิทยาทำให้คนแถวนั้นหันมามองสุอาภา รวมทั้งภูวดลกับพริตตี้ที่เดินมาพอดี ภูวดลมองอย่างสนใจ แต่ถูกพริตตี้ดึงเข้าไปในร้าน สุอาภาอายมาก
สุอาภาน้ำเสียงโมโหบอก
“ต่อให้เหลือนายเป็นผู้ชายคนสุดท้ายในโลก ฉันก็ไม่มีวันแต่งงานด้วย”
“ก็ดี...ขอให้ชาตินี้เป็นชาติเดียวที่ผมจะได้เกิดมาร่วมโลกกับคุณ”
สุอาภาจุกจนพูดไม่ออก
“นายพิทบูล!”
“คุณรู้มั๊ยว่าสิ่งที่ผมอยากได้มากที่สุดตอนนี้คืออะไร ผมอยากย้อนเวลากลับไป เพื่อที่ผมจะได้ไม่ต้องรู้จักคุณ”
สุอาภาโกรธมาก
“ฉันก็เหมือนกัน!”
“เราเข้าใจตรงกันก็ดีแล้ว เพราะฉะนั้นพาเพื่อนคุณออกไป”
“ไม่...ฉันอิ่มเมื่อไหร่ ฉันถึงจะไป”
“พอเถอะสุอาภา...ผมรู้จักนิสัยคุณดี คุณมันจอมวางแผน เจ้าเล่ห์อย่างร้ายกาจ ชอบควบคุมคนอื่น และต้องได้ทุกอย่าง ผมไม่เชื่อหรอกว่าคุณแค่มาทานข้าว”
สุอาภาอึ้งที่โดนด่าเต็มๆ ถึงกับไปไม่ถูก พิทยาตัดบททันที
“ถ้าคุณไม่ไป ผมไปเอง”

พิทยาเดินออกไป สุอาภาโมโหกำมือแน่น หันหลังไปมองพิทยาด้วยแววตาเต็มไปด้วยความเสียใจ
ส่วนภายในร้าน ภูวดลเลื่อนเก้าอี้ให้พริตตี้ แล้วตัวเองก็นั่งลงฝั่งตรงข้าม พนักงานยื่นเมนูให้ ภูวดลหันไปเห็นสุอาภาจ้ำเดินตามพิทยาเข้ามาในร้าน เขาจ้องเขม็งอย่างอยากรู้สองคนว่ามีเรื่องอะไรกัน

พิทยามาถึงที่โต๊ะเห็นอาหารที่สุอาภาสั่งมาแล้ว
“รวี...ไปกันเถอะ” พิทยาบอก
รวีพรรณเงยหน้ามองพิทยาอย่างงงๆ ทุกอย่างอยู่ในสายตาของภูวดล
ภูวดลหันไปมองรวีพรรณและสุอาภา และมองพิทยาที่อยู่ตรงกลางระหว่างสองสาว พิทยาหยิบกระเป๋าสตางค์เอาเงินออกมาวางบนโต๊ะ พิทยาหันไปมองสุอาภา
“ค่าอาหารที่ผมสั่งไว้”

อ่านละคร แรงปรารถนา ตอนที่ 1/4 วันที่ 5 ม.ค. 56

ละครแรงปรารถนา บทประพันธ์โดย อาริตา
ละครแรงปรารถนา บทโทรทัศน์ : ปณธี
ละครแรงปรารถนา กำกับการแสดง : ยุทธนา ลอพันธ์ไพบูลย์
ละครแรงปรารถนา แนวละคร : โรแมนติก - ดราม่า
ละครแรงปรารถนาดำเนินงานสร้าง : บริษัทละครไท จำกัด โดย หทัยรัตน์ อมตวณิชย์
ละครแรงปรารถนา ออกอากาศ : ทุกวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 20.30 น. ช่อง 3 (ต่อจากเหนือเมฆ)
ที่มา manager