@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร ตะวันฉายในม่านเมฆ ตอนอวสาน วันที่ 18 ม.ค. 56

อ่านละคร ตะวันฉายในม่านเมฆ ตอนอวสาน วันที่ 18 ม.ค. 56

พออ่านถึงตรงนี้เมฆก็ชะงักไป
ท้องฟ้าเริ่มสางแล้ว แต่เมฆก็ยังนั่งอ่านจนถึงหน้าสุดท้าย
“และแล้วความรักที่ตะวันฉายวิ่งตามมาตลอดก็หยุดที่ผู้ชายที่อาจจะไม่สมบูรณ์แบบทั้งหมด แต่เป็นผู้ชายที่เธอรักและรักเธออย่างจริงใจเหมือนที่เธอฝันไว้ทุกประการ จบบริบูรณ์”
เมฆปิดหนังสือลงแล้วยิ้มเยาะ
“ฮึ....จบที่เรารักกันเหรอ”
เมฆปิดหนังสือลงอย่างอารมณ์เสีย
“จะหลอกลวงอะไรอีก ทำไมไม่พูดความจริงว่าเราจะไม่รักกัน”

เมฆลุกขึ้นด้วยความโมโหแล้วเหลือบเห็นด้านหลังปกมีข้อความ เมฆหยิบหนังสือมาอ่าน
“หนังสือตะวันฉายเป็นหนังสือเล่มที่สองของผู้เขียน ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากชีวิตจริง ชีวิตที่ผู้เขียนได้มีโอกาสพบผู้ชายที่ดีคนนั้น แม้ในชีวิตจริงความรักของผู้เขียนกับผู้ชายคนนั้นจะไม่ได้สมหวังอย่างใน นิยาย แต่ผู้เขียนก็จะรักเขาคนเดียวตลอดไป ขอบคุณนะคะคุณเมฆ”
เมฆนั่งจ้องปกหลังของหนังสือนิยายไม่วางตา



ตะวันฉายถือกระเป๋าใส่เสื้อผ้าเดินออกมาจากบ้านสวน นิคกับเอวาลงจากรถที่เพิ่งมาจอดพอดี
“จะไปไหนแต่เช้าซัน” นิคถาม “เดี๋ยวนี้จะไปเที่ยวไม่เรียกเพื่อนนะ”
“บ้าเหรอ ฉันเอ่อ...ฉันจะกลับรีสอร์ท” ตะวันฉายบอก
เอวางง “อะไร จะกลับไม่เห็นบอกเลย นี่ถ้าพวกฉันมาช้ากว่านี้ก็ไม่เจอแล้วสิ”
ตะวันฉายยิ้มเจื่อน “แหม...ก็ฉันเกรงใจนี่ เรียกแท็กซี่ไปสถานีรถเองก็ได้”
“ไม่ต้องเกรงใจเลย เอวามันขับ ไม่ใช่ฉัน แกไม่ต้องเกรงใจ”
“ขอบใจมากคุณเพื่อน” เอวาพูดกับตะวันฉาย “ไม่รู้ล่ะฉันจะไปส่งแก แต่ก่อนอื่นต้องแวะเลี้ยงข้าวเช้ากันก่อน เพราะฉันอุตส่าห์ตื่นเช้าหวังจะมากินที่นี่”
ตะวันฉายพูดอะไรไม่ออกเพราะโดนบังคับ

อิงฟ้าป้อนอาหารหมอกที่อยู่ในชุดอยู่บ้าน โดยมีเก่งช่วยดูแล
“เก่ง ไปตามคุณเมฆหน่อยสิสายแล้ว”
เก่งจะเดินไปแต่เมฆวิ่งติดกระดุมเสื้อลงมาอย่างรีบเร่ง
“ฟ้า ผมฝากส่งหมอกด้วยนะ”
“เมฆมีงานเหรอ แต่มันเช้าอยู่นะ” อิงฟ้าถาม
“ผมจะไปตามซัน”
อิงฟ้าดีใจ “จริงเหรอ ทำไมไม่โทรไปล่ะ”
“ผมอยากเซอร์ไพรส์เขา”
“ งั้นฟ้าไปด้วย”
“หมอกไปด้วย”
“เก่งไปด้วยครับ”
“ได้ไง หมอกต้องไปเรียน” เมฆว่า
“วันนี้วันเสาร์ครับพ่อ”
เมฆหน้าแตกดังเพล้ง
“ได้งั้นไปกันหมดนี่แหล่ะ” เมฆบอก
ทุกคนรีบวิ่งออกไปทันที
ตะวันฉายกับนิคและเอวายืนอยู่ด้วยกัน
“ฉันไม่เข้าใจทำไมแกต้องไปรถโดยสารอ่ะ ไม่ให้รถที่ออฟฟิศกรุงเทพไปส่ง” เอวาถาม
ตะวันฉายตอบ “ฉันเกรงใจ”
“เกรงใจใครวะ เกรงใจลูกน้องของแกเหรอ” นิคถาม
“น่า ฉันไปเองได้ พวกแกกลับเถอะ ฉันไปนะ”
ตะวันฉายทำฟอร์มเดินไป นิคกับเอวามองด้วยความสงสัย
“มันดูแปลกๆเนอะ” เอวาว่า
“ไอ้ซันมันก็แปลกตลอดแหล่ะ” นิคบอก
เอวากับนิคหันหลังจะเดินกลับ ทันใดนั้นโทรศัพท์เอวาก็ดังขึ้น
“คะพี่เมฆ....”เอวาตกใจ “ว๊าย...พี่เมฆไปหาซันที่คอนโดเหรอ เอ่อ...คือซัน...เอางี้คะ เดี๋ยวเอวากับนิคจะตามซันให้นะ”
เอวากดวางสาย
“พี่เมฆบอกอยากคุยกับซัน ไปตามกันเถอะ”
นิคกับเอวารีบวิ่งไป
ตะวันฉายออกมาจากที่ซ่อนแล้วรีบเรียกแท็กซี่ก่อนจะขึ้นรถไป

เอวากดวางสายโทรศัพท์แล้วหันมาบอกทุกคนที่รอฟัง
“พ่อกับแม่ซันบอกว่าไม่ได้ไปเกาะแน่ๆ เพราะไม่มีจองเรือไปรับ นี่ท่านก็เป็นห่วงนะคะถ้าเย็นนี้ไม่ได้เรื่องจะขึ้นมากรุงเทพฯ”
“ลุงนันต์ที่เฝ้าบ้านสวนก็บอกว่าซันคืนกุญแจให้แล้วคงไม่ได้กลับไปแน่นอน” ยุทธการบอก
นิคเดินเข้ามารวมกลุ่ม “ซันปิดเครื่องครับ โทรไปหลายครั้งก็ไม่ติด”
หมอกพูดกับเมฆ “พ่อครับ หมอกจะได้เจอพี่ซันอีกไหมครับ”
ทุกคนมองหน้ากัน เมฆเริ่มรู้สึกไม่ดี
“ลองคิดดูให้ดีสิคะว่าคุณซันจะไปอยู่ที่ไหนได้อีก ถ้าไม่ใช่ที่เกาะที่คอนโดแล้วก็บ้านสวน” อิงฟ้าถาม
“ตั้งแต่ผมรู้จักมาครอบครัวซันก็มีบ้านแค่สามแห่งนี่ละครับ” นิคบอก
“ไม่ต้องห่วงนะครับคุณเมฆ ผมจะตามหาซันมาให้คุณให้ได้”
เมฆยิ้มรับเศร้าๆ

เมฆกับอิงฟ้าพาหมอกเข้านอน
“พ่อครับ ยังไม่รู้อีกเหรอครับว่าพี่ซันอยู่ไหน” หมอกถาม
“บางทีพี่ซันอาจจะไม่อยากเจอพ่อก็ได้ครับ” เมฆเศร้า
หมอกลุกขึ้นมานั่งแล้วกอดเมฆ
“ถ้าหมอกเจอพี่ซัน หมอกจะบอกว่าพ่อคิดถึงพี่ซันนะครับ”
“ขอบคุณครับหมอก”
เมฆกับหมอกกอดกัน อิงฟ้าที่นั่งดูอยู่ถอนใจด้วยความเครียด

เมฆนั่งเซ็งอยู่หน้าบ้านโดยในมือของเขาถือหนังสือนิยายของตะวันฉาย อิงฟ้าเดินออกมาเห็น
เมฆถามขึ้น “ผมแย่มากใช่ไหมฟ้า”
“ทำไมล่ะเมฆ” อิงฟ้าถามกลับ
เมฆส่งหนังสือโดยหันปกหลังให้อิงฟ้า อิงฟ้ารับไปอ่าน
“ผมคิดมาเสมอว่าผมเป็นแค่ตัวสำรองของพี่ธีร์ คนที่เขารักมากที่สุดคือพี่ธีร์ไม่ใช่ผม”
“เพราะเมฆเจ็บจากเรื่องของฟ้าใช่ไหม” อิงฟ้าถาม
เมฆพยักหน้ารับ
“ฟ้าเข้าใจเมฆนะ แต่อย่าลืมว่าฟ้ากับคุณซันคือคนละคนกันนะ แม้เราสองคนจะรักพี่ธีร์ แต่คุณซันเธอเข้ามาที่นี่เพื่อพิสูจน์ความรักของเธอที่มีต่อพี่ธีร์ และเธอก็รู้ว่าคนที่เธอรักคือเมฆ”
“ทำไมฟ้าถึงรู้ความคิดของซัน”
“ฟ้าก็ดูจากการกระทำของเธอน่ะสิ”
“ขอบคุณนะฟ้า ถ้าตอนนี้ผมได้เจอซันผมจะบอกเขาทุกอย่าง แต่ ไม่รู้ว่าจะได้เจอเขาอีกหรือเปล่า”
“นี่ละน้า เมฆนะเมฆ ตอนที่รักกับเขาก็ไม่รู้จักพาไปที่ๆเป็นความทรงจำของเมฆกับเขา ไม่งั้นก็ตามได้แล้ว”
“ที่ๆเป็นความทรงจำงั้นเหรอ”
“ใช่สิ คู่รักปกติเขาก็ต้องมีที่ๆประทับกันทั้งสองคนทั้งนั้น มีแต่คู่เมฆนี่ล่ะที่ประหลาดงอนกันไปกันมาจนไม่เหมือนคู่อื่น” อิงฟ้าว่า

เมฆล้มตัวลงนอนบนเตียงแล้วคิดหนัก เขาหยิบโทรศัพท์มาเปิดเสียงตะวันฉายที่เขาเคยแอบอัดเอาไว้ตอนที่เธอร้องเพลง เมฆเปิดรูปตะวันฉายในโทรศัพท์ดูไปด้วย
เมฆถอนใจ “ที่ๆประทับของคุณกับผมเหรอซัน เกาะก็ไม่ไป หรือจะเป็นที่ผับก็ไม่น่าใช่ สวนสนุก....แล้วจะไปอยู่ไงทั้งวันทั้งคืน”
เมฆเอาโทรศัพท์วางไว้บนอกแล้วนอนลืมตาคิด
เช้าวันใหม่ เมฆสะดุ้งตื่นแล้วลุกพรวดขึ้นมา
“เฮ้ย...หรือว่า”
พอคิดได้เมฆก็รีบลุกจากเตียงแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำทันที

ตะวันฉายนั่งดื่มกาแฟแล้วพิมพ์งานอยู่ตรงบริเวณที่เคยนั่งคุยกับเมฆที่โรงแรมเดิมในชานเมือง ตะวันฉายเปิดเพลงที่เคยแต่งกับเมฆคลอไปด้วยขณะพิมพ์งาน สักพักเธอก็ได้ยินเสียงร้องของตัวเองแทรกมา ตะวันฉายสงสัยจึงเอาหูแนบวิทยุ สักพักเมฆก็ยื่นโทรศัพท์มาแนบหูอีกข้างของตะวันฉาย ตะวันฉายหันไปมองแล้วสะดุ้ง
“คุณเมฆ”
“กลับบ้านกันนะ ลูกเรารออยู่”
“อะไรของคุณน่ะ”
เมฆเอาหนังสือนิยายวางตรงหน้าตะวันฉาย
“ผมอ่านคำสารภาพรักของคุณแล้ว”
“แล้วไง”
“ผมก็รู้น่ะสิว่าคุณรักผม”
“เข้าใจผิดแล้วค่ะ”
“ห๊า...”
“ที่ฉันเขียนน่ะเพื่อสร้างดราม่าเพิ่มยอดขาย”
ตะวันฉายจะเดินหนีแต่เมฆดึงเธอมากอดไว้
“นี่คุณเมฆ”
เมฆล้อเลียน “คุณจะทำอะไรฉัน ประโยคในนิยายชัดๆ”
ตะวันฉายดิ้น “ปล่อยนะ”
“ซัน...ผมขอโทษที่เคยงี่เง่า เพราะผมกลัวว่าจะเสียคุณไป ผมเลยคิดว่าถ้าผมไม่หวังผมก็จะไม่ผิดหวัง แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าคุณรักผมแค่ไหน”
“จากปกหลังนิยายเนี่ยนะคะ” ตะวันฉายถาม
“จากการกระทำของคุณ ผมนอนคิดทั้งคืนว่าคุณจะไปอยู่ไหน ในที่สุดผมก็รู้ว่ามีที่ๆเป็นที่ประทับใจของเราสองคนก็คือที่นี่ ถ้าคุณไม่รักผมคุณจะกลับมาที่นี่ทำไม”
“เอ่อ...ฉัน...ฉันก็เห็นมันไม่ไกลเลยกลับมา”
“เราเคยสัญญาว่าจะไม่หลอกกันอีกแล้วไง”
ตะวันฉายดิ้น “ปล่อย”
ตะวันฉายดิ้น เมฆกระชับกอดแล้วหอมแก้มตะวันฉาย ตะวันฉายตกใจ
“ผมจะไม่ปล่อยคุณไปไหนอีกแล้ว ผมจะอยู่กับคุณ...ดูแลคุณ....แก่ไปกับคุณ...ให้โอกาสผมนะซัน ถ้าคุณรักผมเหมือนที่ผมรักคุณ”
ตะวันฉายมองหน้าเมฆนิ่ง
“ฉันต่างหากที่ต้องขอโอกาสจากคุณ....นะคะ”
ตะวันฉายกับเมฆกอดกันอย่างมีความสุข

เวลาผ่านไป เมฆจูงตะวันฉายเดินออกมาที่ริมสระน้ำหน้าบ้าน ยุทธการ อิงฟ้า นิค เอวา หมอก และเก่งปรบมือกันใหญ่
“ในที่สุดก็แฮ้ปปี้เอ็นดิ้งจนได้” นิคบอก
“ยินดีด้วยนะซัน คุณเมฆด้วยครับ” ยุทธการพูด
“แล้วเด็กๆพี่ยุทธล่ะคะ” ตะวันฉายย้อนถาม
ยุทธการเขินจนหน้าแดง เอวาเลยเข้ามาแซว
“เด็กเดิกอะไร โน่นต้องถามนิคมันเจ้าพ่อเป็นแนะนำพี่ยุทธไป”
“เฮ้ย...ฉันไม่ได้เที่ยวแค่เคยไปเล่นดนตรี” นิคแก้ตัว
เมฆกับตะวันฉายมองหน้ากันอย่างงงๆ

“นี่พูดเรื่องอะไรกันครับ ผมงงไปหมดแล้ว” เมฆถาม
“คืองี้ค่ะพี่เมฆ แผนเด็กเที่ยวกับแผนแต่งงานน่ะฝีมือพี่ยุทธเขา เขาอยากให้พี่เมฆกับซันได้ปรับความเข้าใจ” เอวาอธิบาย
“แต่ก็ไม่เป็นผล” ยุทธการบอก
ทุกคนหัวเราะสนุก
“ทำไมจะไม่เป็นผลครับ อย่างน้อยเราสองคนก็มีที่ๆประทับใจอย่างคู่รักคนอื่นๆเขาใช่ไหมฟ้า”
เมฆหันไปมองอิงฟ้าแล้วขยิบตาให้
“โอ๊ยยยย...หวานขนาดนี้แต่งเลยดีกว่า เดี๋ยวผมไปเมืองนอกจะไม่ได้อยู่เป็นสักขีพยาน” นิคบอก
“ซัน...คุณอยากแต่งเมื่อไหร่” เมฆถาม
“แล้วแต่คุณสิคะ แต่แต่งแน่นะห้ามเบี้ยว” ตะวันฉายถามขำๆ
ทุกคนหัวเราะสนุกสนาน

อิงฟ้าพยามต่อโทรศัพท์อยู่ในบ้าน ยุทธการเดินเข้ามาหา
“คุณฟ้าไม่ไปทานข้าวเหรอครับ” ยุทธการถาม
“ฟ้าพยามโทรหาพ่อน่ะค่ะ ทำไมไม่รับสายไม่รู้” อิงฟ้าบอก
“ผมก็ชวนแกให้มาด้วยกันตั้งแต่เมื่อวาน แต่แกบอกว่าไม่อยากรบกวน”
อิงฟ้าอึ้ง “พ่อบอกอย่างนั้นเหรอคะ”
“ครับ...ผมรู้ว่าจ่าสมรักคุณฟ้ากับหมอกมาก แต่....”
“แกยังกลัวฟ้ารังเกียจที่พ่อเป็นตำรวจจนๆ”
ยุทธการพยักหน้ารับ อิงฟ้าถอนใจด้วยความเครียด

จ่าสมนั่งมองเด็กๆวิ่งเล่นกันโดยมีพ่อแม่คอยดูแลอยู่ในสวนสาธารณะ ทันใดนั้นหมอกก็ยื่นมือมาปิดตาจ่าสม
“อ้าว...มือใครละเนี่ย”
หมอกปล่อยมือ จ่าสมหันไปเห็นก็แปลกใจ
“หมอก มาได้ไง”
หมอกกระโดดหอมแก้มจ่าสม “มากับแม่ครับ”
หมอกชี้ไปทางอิงฟ้าที่กำลังเดินเข้ามาหา
“ไม่อยู่สังสรรค์กับเพื่อนเหรอ” จ่าสมถาม
“ฟ้าอยากอยู่กับครอบครัว” อิงฟ้าบอก
“ฟ้า”
อิงฟ้าก้มลงกราบที่เท้าจ่าสม
“คืนนี้ฟ้ากับหมอกขอนอนที่แฟลตตำรวจกับพ่อนะคะ”
“จะดีเหรอ แอร์ก็ไม่มี ห้องก็เล็ก”
“แต่มันเป็นบ้านหลังเดียวที่เป็นของฟ้า ฟ้าอยากอยู่กับพ่อ”
จ่าสมน้ำตาไหลแล้วดึงอิงฟ้าเข้ามากอด สองพ่อลูกมองไปเห็นหมอกกำลังเอาหมวกตำรวจของจ่าสมมาใส่แล้ววิ่งไปเล่นกับเด็กๆแถวนั้น
“หยุดนะนี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ” หมอกตะโกนลั่น
จ่าสมกับอิงฟ้ามองภาพนี้แล้วยิ้มอย่างมีความสุข

หลายวันผ่านไป สนามหน้าบ้านเมฆจัดงานเลี้ยงเล็กๆ เกริกไกรกับสายรุ้งเดินมาแสดงความยินดีกับเมฆและตะวันฉาย
“คุณเมฆ ฝากดูลูกสาวจอมแก่นของผมด้วยนะ” เกริกไกรบอก
“ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมสัญญาจะดูแลซันให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้เลย”
“ได้ยินแบบนี้แม่ก็หายห่วง” สายรุ้งบอก
หมอกวิ่งมาหาเกริกไกรกับสายรุ้ง
“หวัดดีครับคุณตาคุณยาย”
“แน่...ดูสิ เรียกยายแล้วเหรอ มาขอหอมหน่อย”
สายรุ้งหอมแก้มหมอก
“หมอกครับ ต้องไปหายายที่รีสอร์ทบ่อยๆนะ ยายจะพาเที่ยว” สายรุ้งบอก
“ได้ครับ”
เกริกไกรกับสายรุ้งมองอย่างเอ็นดูหมอก หมอกพาเดินไปนั่งที่โต๊ะ เมฆกับตะวันฉายมองตาม
“คุณไม่ว่าอะไรใช่ไหมที่หมอกเรียกพ่อกับแม่ของคุณว่าคุณตาคุณยาย” เมฆถาม
“ก็เขาเป็นลูกคุณอีกหน่อยก็เหมือนลูกฉัน” ตะวันฉายบอก
“แต่วันหนึ่งผมก็ต้องบอกหมอกว่าเขาเป็นลูกของพี่ธีร์”
“เอาเถอะค่ะ โดยสายเลือดแกจะเป็นลูกใครเราอย่าไปนับให้วุ่นวายเลย ยังไงแกก็เหมือนลูกฉันกับคุณ”
เมฆยิ้ม “ผมรักคุณนะซัน”
“ค่ะ”
ทั้งสองยิ้มให้กัน
เวลาผ่านไป ตะวันฉายหยิบไมโครโฟนมา
“เนื่องในโอกาสพิเศษวันนี้ เรามีดนตรีเพราะๆสำหรับทุกท่าน ซึ่งการเล่นครั้งนี้เราได้รับเกียรติจากแขกพิเศษมาร่วมวงด้วย เชิญพี่เก่งค่ะ”
ทุกคนปรบมือ แล้วเก่งก็เดินขึ้นเวทีมาเล่นดนตรีกับเมฆ ตะวันฉาย นิค เอวา และจอมสยาม โดยเมฆกับตะวันฉายร้องเพลงร่วมกันอย่างสนุกสนานและมีความสุขเอยยยยยยย

*********อวสาน**********

อ่านละคร ตะวันฉายในม่านเมฆ ตอนอวสาน วันที่ 18 ม.ค. 56

ตะวันฉายในม่านเมฆ บทประพันธ์โดย ภาวิน
ตะวันฉายในม่านเมฆ บทโทรทัศน์โดย
กฤษณ์ มงคลเกษม,พิมพ์พชา รุ่งประพันธ์,วิวัฒน์ กฤษณาเวศน์
ตะวันฉายในม่านเมฆ กำกับการแสดงโดย ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติ
ตะวันฉายในม่านเมฆ ดำเนินการผลิต ณัฐพงศ์ เหมือนประสิทธิ์เวช
ตะวันฉายในม่านเมฆ ผลิตโดย บริษัท เมคเกอร์ กรุ๊ป จำกัด
ที่มา manager