@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร เหนือเมฆ 2 มือปราบจอมขมังเวทย์[อวสาน] วันที่ 3 ม.ค. 56

อ่านละคร เหนือเมฆ 2 มือปราบจอมขมังเวทย์[อวสาน] วันที่ 3 ม.ค. 56

“ยังไงคะ... ช่วยอธิบายหน่อยค่ะ”
“ความดี กับ การเกิดแก่เจ็บตายมันเป็นคนละเรื่องกัน เราทุกคนไม่มีใครหนีความตายพ้นหรอกค่ะ"
“แต่มันก็ไม่ได้ตอบคำถามว่า ทำไมความดีต้องพ่ายแพ้”
“ทำไมคะ... คนดีตายไม่ได้เหรอคะ คนดีก็ตายได้นะคะ ประเด็นสำคัญอยู่ที่ความตายของเราหลงเหลืออะไรไว้ให้กับสังคมนี้บ้าง"
“หนังสือเล่มนี้ของ ผบ.นภา... เหมือนจะมีศรัทธาในเรื่องการทำความดีเป็นอย่างมาก"
“แน่นอนค่ะ สังคมจะอยู่ได้ยังไงถ้าเราไม่ปลูกฝังความเชื่อเรื่องนี้ให้กับคนรุ่นใหม่”
“ผบ.นภานิยามคำว่า ศรัทธาในความดี ว่ายังไงคะ”

“สำหรับดิฉัน ศรัทธาในความดี คือความเชื่อที่ว่า การทำความดีไม่มีวันดับสูญ คุณค่าของความดี ส่งผลต่อผู้กระทำเสมอ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ชาติของเราจะอยู่ได้ ไม่ใช่เพราะใครคนใดคนหนึ่ง แต่จะอยู่ได้เพราะศรัทธาในการไม่ยอมแพ้ต่อความเลว ของคนทุกคนในสังคมค่ะ"



“สุดท้ายนี้... ผบ.นภามีอะไรอยากจะฝากไว้กับท่านผู้ชมทางบ้านบ้างมั้ยคะ”
“อำนาจ บารมี ความยิ่งใหญ่ เป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนอยากได้ แต่เราเคยคิดกันบ้างมั้ยว่าไม่มีอะไรเที่ยงแท้จีรังยั่งยืน มันเป็นสัจธรรมที่ว่า..ทุกสรรพสิ่งไม่มีอะไรคงอยู่ได้ตลอดไป ทุกอย่างมี เกิดขึ้น.. ตั้งอยู่ และดับไป สลับหมุนเวียนกันไปไม่มีวันจบ ผู้เรียนรู้และตระหนักความจริงในข้อนี้ นั่นแหละ... คือผู้ยิ่งใหญ่ที่แท้จริงค่ะ"
ผู้คนในห้องส่งต่างปรบมือกันกึกก้อง นภายิ้มให้กับทุกคนอย่างจริงใจ

ผู้สื่อข่าวเดินมาส่งนภาที่โถงสถานีสกายนิวส์เน็ตเวิร์ค และยกมือไหว้แล้วเดินจากออกไป นภาเดินออกมาคนเดียว เธอเดินออกมาแล้วชะงักนิดหนึ่ง รู้สึกได้ว่ามีคนกำลังเฝ้าตามมา เธอหันหลังมามองแต่กลับไม่พบใคร เธอเดินตรงมายังประตูกระจกด้านหนึ่ง แล้วนิ่วหน้าเมื่อมองไปที่เงาสะท้อนในกระจก เมื่อปรากฏภาพเป็นคนๆ หนึ่งที่เหมือนเมฆายืนอยู่ทางด้านหลัง
นภาคิดถึงคำพูดของสมิงที่เคยพูดในวันทำบุญที่วัดให้กับเมฆา..
“ไสยศาสตร์ดำสร้างหุ่นพยนต์เลียนแบบมนุษย์ได้ ใครจะรู้ บางทีร่างของดอกเตอร์เมฆาที่เราเผาไปแล้ว อาจเป็นแค่หุ่นพยนต์ ไม่ใช่ร่างที่แท้จริงก็ได้”
“งั้นดอกเตอร์เมฆาอยู่ไหน” แสงกล้าถาม
นภายิ้มได้..หันขวับกลับมาทันที แต่ไม่เห็นใครยืนอยู่ทางด้านหลัง เธอนึกสงสัยแต่พยายามไม่คิดอะไรมาก เดินออกไปตามลานกว้างอย่างช้าๆ
อีกมุมหนึ่งทางด้านหลัง เมฆา? เดินออกมาจากด้านข้าง ยิ้มขรึมกำลังเดินตามเธออยู่

วันใหม่ จ่าหวานกับดาบแหบเดินมาที่หน้าบ้านสมิงก่อนเคาะประตูเรียก
“ไอ้หมิง...ไอ้หมิง... เปิดประตูหน่อย” ดาบแหบเรียก
จ่าหวานบอก
“จ่าสมิง...มีงานด่วนให้ทำ”
ดาบแหบเปิดประตูเข้าไป ตุ๊กแกตัวเขื่องหล่นแหมะลงตรงที่ข้างหน้าทั้งสองคน ทั้งสองคนตกใจแตกกระเจิง ทั้งสองคนร้อง “เฮ้ย !”
ตุ๊กแกคลานหนีออกไปอย่างรวดเร็ว จ่าหวานถอนหายใจเฮือกใหญ่
“ไอ้ตุ๊กแกเวร... ตกใจหมดเลย”
ดาบแหบมองไปรอบๆ เรียก
“ไอ้หมิง... ไอ้หมิง...”
ดาบแหบหันไปพูดกับจ่าหวาน
“ท่าทางจะไม่อยู่บ้านว่ะ”
จ่าหวานมองไปที่ผนังด้านหนึ่งเห็นมีกระดาษลายมือโบราณของจ่าสมิงแปะอยู่
“ไม่อยู่บ้าน 7 วัน... ได้เวลาชำระล้างจิตใจใฝ่ธรรมะ ขอลาไปปฎิบัติธรรมเพื่อความจำเริญของชีวิต”

วันเดียวกัน ที่ตลาดนัดพระเครื่อง สมิงกำลังส่องพระอยู่อย่างตั้งใจ เจ้าของแผงชี้ชวน
“พระดินของแท้... เพิ่งเปิดกรุเจอเมื่ออาทิตย์ก่อน ได้มาจากกรมศิลป์เลย”
สมิงยังส่องอยู่
“งั้นเลย”
“ฉันปล่อยให้ถูกๆ ในฐานะที่จริตต้องกัน”
“จิงดิ เพิ่งรู้จักกันเนี่ยนะ ต้องกันแล้ว”
“พุทธคุณมีอยู่เต็มๆ อยู่ดีมีความสุข โชคลาภไหลมาเทมา”
“คนเราจะอยู่ดีมีความสุขได้เนี่ย มันน่าจะอยู่ที่ตัวเองนะ ทำดี พูดดี คิดดี ถ้างอมืองอเท้าไม่ทำงานทำการเนี่ย จะมีโชคลาภมั้ย ฉันอยากรู้”
เจ้าของแผงเหล่มองสมิงด้วยแววตาไม่สบอารมณ์ แต่ยังบรรยายสรรพคุณต่อ
“ได้องค์นี้ไปนะ คงกระพันชาตรี... แคล้วคลาดยิงฟันแทงไม่เข้า”
“อ้าว... งั้นถ้าฉันไส้ติ่งอักเสบ หมอจะผ่าตัดยังไงล่ะเฮีย”
เจ้าของหันขวับมามองสมิงด้วยสายตาไม่ค่อยพอใจนัก สมิงส่งพระให้
“แหะๆ ฉันล้อเล่น...สวยดีนะ”
“อ๊ะ.. ของแท้นี่ ก็ต้องสวยสิ”
“ทำได้เนี๊ยนเนียน เอาดินเก่ามาปั้นเหมือนของจริงเป๊ะๆ แต่ขอบมันคมไปหน่อย ท่าทางจะรีบแกะพิมพ์ แล้วรุ่นนี้น่ะ ของจริงโดนเผาไปพร้อมกับเจดีย์อยุธยาแล้ว”
“พูดจาแบบนี้...วอนแล้วไง”
“ไม่ได้วอน แค่พูดความจริง... เฮีย อย่าหากินกับศรัทธาของคนเลย ศาสนาพุทธสั่งสอนให้คนมีสติ เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานในชีวิตประจำวัน รู้จักเจริญสติ เจริญปัญญาเพื่อไปสู่นิพพาน ไม่ได้สั่งสอนให้กราบไหว้บูชาร้องขอจากเทพเจ้าฯ สนับสนุนให้คนเช่าพระเพื่อใช้เป็นตัวแทนความดี รู้จักภาวนาในชีวิตประจำวัน.. เพื่อจิตใจที่สงบดีกว่า”
เจ้าของหันไปหานักเลงด้านหลัง
“เฮ้ย... ช่วยให้ไอ้แก่นี่สงบหน่อยซิ”
นักเลงพระเครื่องหลายคนพุ่งเข้ามาเล่นงานสมิง แต่โดนสมิงถอยฉากออกมาก่อน
“เฮ้ยๆๆ ไม่ได้จะมาท้าตีท้าต่อย แค่จะมาบอกให้ทำพุทธพาณิชย์ให้ถูกต้องอย่ารุมกันสิโว๊ย”
สมิงต่อสู้ นักเลงราบกองกับพื้นสู้สมิงไม่ได้สักคน สมิงชี้หน้าเจ้าของ
“เลิกทำพระปลอมหลอกชาวบ้านได้แล้ว มันเสื่อม”
เจ้าของหงอยยกมือไหว้สมิง
“จ้ะๆ”
ปรอทกรอบนคอสมิง จู่ๆ ก็สั่นรัวเร็ว สมิงชะงักหยิบปรอทกรอขึ้นมาดูด้วยความตกใจ
“เฮ้ย ! สั่นได้ไงเนี่ย”
ปรอทกรอบนคอสมิงยังคงสั่นไม่หยุด สมิงจ้องมอง แล้วเอามือจับสั่นไปมา
“อ้อ..เพราะกูจับสั่นเองนี่หว่า ฮึๆ”
ปรอทกรอที่สมิงไม่ได้จับแล้ว ยังคงสั่นไหวรัวเป็นปริศนาอยู่อย่างนั้น

วันใหม่ แพรไพลินกำลังนั่งพูดโทรศัพท์อยู่ในรถตู้ด้วยสีหน้าไม่ค่อยสบายใจนัก กุ๊บกิ๊บนั่งข้างคนขับชำเลืองมองแพรไพลินอยู่ตลอด
“ระหว่างเราให้มันจบลงไปซะทีเถอะค่ะ ต่างคนต่างทำงานดีกว่า”
แสงกล้ากำลังพูดด้วยสีหน้าเหมือนกำลังคิดแผนทำอะไรบางอย่างอยู่
“จะให้ผมทำงานได้เต็มที่ยังไง...ถ้ายังไม่สบายใจ เราน่าจะคุยกันให้รู้เรื่องซะทีอย่าปล่อยให้คาราคาซังอยู่อย่างนี้เลย"
แพรไพลินพูดโทรศัพท์ด้วยสีหน้าไม่ค่อยสบายใจ
“วันนี้ขอทำงานก่อนนะคะ ฉันไม่ได้อยู่ที่กรุงเทพฯ กำลังจะเข้าไปที่เกิดเหตุฯ เสร็จงานเมื่อไหร่ ฉันสัญญาว่าจะโทรไปหาคุณทันที"
“คุณสัญญาแล้วนะ ถ้าคุณไม่ยอมทำตามสัญญาคราวนี้ผมไม่ยอมคุณแน่ๆ”
“ค่ะ..แล้วฉันจะโทรไป”
แพรไพลินวางหูโทรศัพท์ด้วยสีหน้าไม่ค่อยสบายใจนัก พยายามระงับอารมณ์หันไปถามกุ๊บกิ๊บ
“จวนถึงรึยัง”
“อีกไม่เกินสิบนาทีค่ะ นี่เป็นรายละเอียดของคดีนี้ทั้งหมด พวกเราล่วงหน้ามาเป็นชุดแรก"
กุ๊บกิ๊บส่งไอแพดให้แพรไพลิน
“รายละเอียดของคดีนี้อยู่ในโฟลเดอร์ที่สามค่ะ”
แพรไพลินรับไอแพดมาแล้วพยักหน้ารับรู้ เปิดแฟ้มอ่านอย่างเร็วๆ กุ๊บกิ๊บมองตามพลางยิ้ม สีหน้าเจ้าเล่ห์

รีสอร์ตริมภูเขาสวยงาม รถตู้เนติเทคฯ แล่นเข้ามาภายในรีสอร์ตอย่างรวดเร็ว พญ. แพรไพลิน นวิยากุลเดินเข้ามาตามทางเดินสวยงาม ในมือกำลังเปิดไอแพดอ่านอย่างตั้งใจ กุ๊บกิ๊บเดินตาม
“ผู้ตายเป็นโรคหัวใจอย่างรุนแรง”
“ถูกต้องค่ะ”
แพรไพลินอ่านต่อ
“เสียชีวิตเพราะรับรู้เรื่องกระทบกระเทือนจิตใจจนทนไม่ได้ หัวใจวายตายกะทันหัน"
“แน่นอนค่ะ”
“คดีนี้ไม่น่าจะต้องถึงเนติเทคฯ”
กุ๊บกิ๊บเริ่มอักอัก
“เอ้อ.. สำนักงานสืบฯ เชื่อว่าอาจจะมีอะไรซ่อนเร้นอยู่ค่ะ”
ทั้งสองคนเดินเข้ามาถึงที่หน้าบ้านพักริมเขาบรรยากาศสวยงาม ที่หน้าบ้านมีเทปเหลืองกั้นบริเวณอยู่
“เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานไปไหนกันหมด”
“คงอยู่ทางด้านโน้น เดี๋ยวกุ๊บกิ๊บไปตามให้ค่ะ”
กุ๊บกิ๊บรีบเดินออกไปทันที แพรไพลินมองตามด้วยสีหน้าที่รู้สึกผิดปกติ แพรไพลินตัดสินใจเปิดประตูเดินเข้าไปในบ้านพักรีสอร์ต
แพรไพลินเดินเข้ามาภายในบ้านพัก หยิบเครื่องบันทึกเสียงแบบพกพาขึ้นมาพูดใส่เหมือนกำลังเก็บหลักฐาน พร้อมๆ กับมองไปรอบๆ บ้านไม่มีร่องรอยของการต่อสู้
“ไม่มีร่องรอยการต่อสู้ บ้านพักอยู่ในสภาพปกติ”
แพรไพลินเปิดประตูไปทางหนึ่งเห็นร่างๆ หนึ่งนอนอยู่บนเตียงที่มีผ้าคลุมอยู่ แพรไพลินเปิดไอแพดอ่านข้อความไปด้วย
“ตามรายงาน ผู้ตายเป็นตำรวจ... มุ่งมั่นทำงานหนักเพื่อเอาชนะใจคนรัก แต่ไม่รู้ตัวว่าเป็นโรคหัวใจอย่างรุนแรง"
ขณะที่แพรไพลินกำลังอ่านอยู่ ร่างที่มีผ้าคลุมอยู่เปิดผ้าออกมา แสงกล้าอมยิ้ม แต่แพรไพลินไม่เห็น
“ในที่สุดต้องตายเพราะตรอมใจ... คนรักของผู้ตายเป็นดอกเตอร์ เก่งกล้าสารพัด แต่ไม่รู้ใจตัวเอง...วิ่งหนีความรักอยู่ร่ำไป จนวันหนึ่งเธอพบคนที่ใช่ แต่ก็ยังไม่วายวิ่งหนี"
แพรไพลินเอะใจ วางไอแพดและเครื่องบันทึกเสียงแบบพกพาลง หันหลังไปรูดผ้าม่านในห้อง
ที่ผนังที่ผ้าม่านปิดอยู่มีรูปถ่ายของเธอในอริยาบถต่างๆ ติดอยู่เต็มไปหมด ทั้งจากนิตยสาร, หนังสือพิมพ์ และรูปถ่ายประกอบบทสัมภาษณ์ ข้างๆ กันมีตัวอักษรเขียนเป็นลายมือเด่นชัด
“แสงกล้ารักดอกเตอร์แพรไพลิน”
แพรไพลินมองซ้ายมองขวา
“แสงกล้า.. นี่เป็นแผนคุณใช่มั้ย”
แพรไพลินเดินมาเปิดผ้าที่คลุมร่างบนเตียงออก ไม่พบร่างอยู่บนเตียงแล้ว เธอหันไปรอบๆ มองหาเขา

จู่ๆ โทรทัศน์ที่วางอยู่ภายในบ้านพักริมเขาก็เปิดขึ้น มีอินเตอร์ลูดเลิฟนิวส์เน็ทเวิร์คปรากฏขึ้น “ข่าวด่วน” แพรไพลินยืนกอดอกมองภาพในมอนิเตอร์นั้น
ในจอภาพ น้ำใสยืนอยู่ที่หน้าบ้านพักนี้ กำลังรายงานด้วยท่าทางไม่จริงจัง
“ขอตัดเข้าสู่รายงานด่วนจากเลิฟนิวส์ค่ะ... มีคนไข้เป็นโรคหัวใจอาการปางตายเพราะไม่ได้รับรักอยู่ในบ้านหลังนี้ ในเบื้องต้นได้รับรายงานว่าหัวใจใกล้หยุดเต้น ถ้าคนรักยังไม่ยอมให้โอกาส ต่อไปนี้คือเทปบันทึกความในใจของเค้าที่มีต่อผู้หญิงสาวคนนี้ค่ะ"
บนหน้าจอโทรทัศน์เปลี่ยนไปเป็นใบหน้าแสงกล้าสีหน้าจริงจัง ยืนอยู่ที่ริมระเบียงบ้านพักริมเขา
แสงกล้าถือกระดาษใบหนึ่งอยู่
“ความรักระหว่างผมกับเธอเริ่มต้นที่กระดาษใบนี้...ใบส่งตัวเพื่อตรวจสุขภาพจิต”
กระดาษใบนั้นปรากฏลายเซ็นแพรไพลินที่ให้ผ่านโดยมีเงื่อนไข
เธอชะงัก คิดถึงภาพเหตุการณ์ระหว่างเธอกับแสงกล้าที่เจอกันครั้งแรก เธออมยิ้มเมื่อนึกถึงครั้งแรกที่เจอกัน

“ที่ผมรู้สึกตอนนั้นก็คือ ผู้หญิงอะไรเก่งเกินเหตุ แหวกนิยาม สวยแต่โง่ที่ผมเชื่อมาโดยตลอด เชื่อมั้ยครับ.. ยิ่งคบกัน เธอยิ่งสร้างความแปลกใจและประทับใจให้กับผมมากขึ้นเรื่อยๆ ผู้หญิงคนหนึ่งที่มีทั้งความเข้มแข็งและอ่อนแอในคนๆ เดียวกัน น่ารัก น่าทะนุถนอม แต่ในขณะเดียวกันก็น่าหมั่นไส้”
เธอคิดถึงเหตุการณ์ต่างๆ ทั้งกินแฮมเบอร์เกอร์, เสี่ยงชีวิตด้วยกันและแสงกล้าช่วยเธอไว้
“ระหว่างผมกับเธอ...เกิดเหตุการณ์สำคัญมากมาย ทุกเรื่องราวสร้างความผูกพันระหว่างเรา ทั้งสุข ทั้งทุกข์ ทั้งสมหวังและผิดหวัง จนมาถึงวันนี้ ผมมั่นใจว่าเราสองคนคือส่วนเติมเต็มซึ่งกันและกัน"
เธอยิ้มประทับใจแสงกล้าอยู่ไม่น้อย เธอมองไปรอบๆ ห้องด้วยความสังเกต เห็นว่าด้านหลังของทีวีมีสายลากไปตามพื้น ออกไปทางระเบียงบ้านริมเขา
“แต่แล้วจู่ๆ เธอก็หายไปจากชีวิตผม หายไปโดยไม่มีสาเหตุ ถ้าเป็นคุณ คุณจะแก้ปัญหานี้ยังไง ช่วยแนะนำผมหน่อยได้มั้ย”
เธอเดินไปตามสายสัญญาณที่ลากออกไปที่ระเบียง
“แสงกล้า... คุณอยู่ที่นี่แน่ๆ”
เธอเดินไปถึงที่ริมระเบียง เห็นประตูทางออกปิดอยู่โดยมีสายสัญญาณลอดออกไป เธอตัดสินใจเปิดประตูระเบียงออกไปทันที

ที่ริมระเบียง แสงกล้ายืนอยู่ที่หน้ากล้องถ่ายวิดีโอ เขาชะงักไปทันทีเมื่อเห็นว่าเธอเดินออกมา
“เห็นมั้ย... บอกแล้วว่าผู้หญิงของผมทั้งเก่งทั้งฉลาด ลูกไม้ตื้นๆ หลอกเธอได้ไม่นานหรอก ในที่สุดดอกเตอร์แพรไพลินก็หาผมเจอ"
“คุณกำลังทำอะไร”
“ผมแค่กำลังบอกความรู้สึกของตัวเองกับคนรัก ขอร้องให้เธอยอมรับใจตัวเองซะที”
“ทั้งหมดเป็นแผนการของคุณใช่มั้ย ไม่มีคดี...ไม่มีกองพิสูจน์หลักฐาน นี่กุ๊บกิ๊บก็เป็นไปด้วยเหรอ”
“ถ้าไม่ใช้วิธีนี้... คุณจะยอมออกมาพบผมเหรอ”
“ฉันไม่ยอมเสียเวลากับเรื่องไร้สาระของคุณหรอกหมวด”
แพรไพลินขยับหันหลังจะเดินออกไป พร้อมๆ กับแสงกล้าที่เดินเข้าไปดึงเธอเข้ามาแล้วสวมกอดทางด้านหลังทันที ไม่ยอมปล่อยให้ไป
เธอพยายามดิ้น... แต่ยิ่งดิ้นแสงกล้าก็ยิ่งกอดเธอแน่นมากขึ้นเรื่อยๆ
“ปล่อยฉันเถอะแสงกล้า”
“ผมไม่ยอมให้คุณไปไหนทั้งนั้น จนกว่าเราจะคุยกันรู้เรื่อง”
“ฉันไม่มีอะไรจะคุย ที่ผ่านมาฉันทำผิดต่อคุณมากจนเกินให้อภัย ฉันใช้ประโยชน์จากคุณทั้งๆ ที่คุณรักฉันมากที่สุด ฉันหลอกขโมยวัชระมาจากคุณ...คุณลืมไปแล้วเหรอ”
“สำหรับคุณ... ความทรงจำของผมมีแต่ความสวยงาม มีแต่สิ่งดีๆ ที่คุณทำให้ผมและคนรอบข้าง”
แพรไพลินได้ยินแบบนี้ถึงกับชะงักไป เหลียวไปมองเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยความผูกพันของแสงกล้า
“ความรักคือการเติมเต็ม แต่บางครั้งความรักคือการเสียสละและการแบ่งปันที่ผ่านมาถ้าจะมีคนผิด คนๆ นั้นคงเป็นผม เพราะผมไม่สามารถปกป้องคุณได้”
“แสงกล้า...”
“เห็นมั้ยว่าเราผิดเท่าๆ กัน”
แสงกล้าคลายกอด ค่อยๆ ดันร่างของแพรไพลินมาจ้องหน้าเขา พลางยิ้มให้
“ลืมเรื่องราวเก่าๆ ทั้งหมด เปิดโอกาสให้กับชีวิต...ให้เราสองคนได้ปกป้องดูแลซึ่งกันและกันเถอะนะครับ ดอกเตอร์แพรไพลิน”
“มีคนเคยบอกว่า การชนะใจตัวเองอาจดีและมีค่าที่สุด แต่ในเรื่องความรัก...การชนะใจคนที่เรารักมีค่ากว่านั้น"
แพรไพลินยิ้มให้กับแสงกล้า เขาจ้องหน้าเธอพลางเอามือเชยที่คาง ไล้ไปที่แก้มแล้วจ้องดวงตา
“ทางจิตวิทยา แววตายิ้มและสีหน้าแจ่มใสแบบนี้ ถือว่าผมเอาชนะใจคุณได้แล้วใช่มั้ย"
แพรไพลินยิ้มขินบอก
“รู้มั้ยคะ ทางจิตวิทยาถือว่า การแกล้งไม่รู้แล้วย้อนถามของผู้ชายเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่ดึงดูดใจเพศตรงข้าม"
แสงกล้าสวมกอดแพรไพลินทันที
“ฉันคงไม่ต้องตอบคำถามเมื่อกี้แล้วใช่มั้ย”
แพรไพลินกอดตอบแสงกล้า ดึงตัวเองออกและจ้องหน้ามองเขาอย่างจริงจัง
“ฉันขอโทษที่สร้างเรื่องวุ่นวายทำให้คุณปวดหัวมาตลอด ดีใจนะคะที่คุณยังให้โอกาสผู้หญิงอย่างฉัน"
“พูดแบบนี้แสดงว่าต่อไปจะไม่เป็นแบบเดิมแล้วใช่มั้ย”
“จะพยายาม... แต่ไม่รับรอง ทำใจหน่อยนะคะ ถ้ารักดอกเตอร์แพรไพลินแล้วทุกอย่างจะมาเป็นแพคเกจค่ะ"

“คงเหมือนกับเมื่อรักแสงกล้า ต้องทำใจในความบ้าระห่ำ”
ทั้งสองคนหัวเราะยิ้มแย้มกันอย่างมีความสุข
แสงกล้าจูงมือพาแพรไพลินมาดูพระอาทิตย์ที่กำลังจะพ้นขอบฟ้าในเวลาเย็นใกล้ค่ำ
“ขอบคุณนะแพร... ขอบคุณที่รักกัน”
“ฉันก็ขอบคุณค่ะ...ที่รักฉัน ต่อไปนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราทั้งคู่พร้อมจะฟันผ่าอุปสรรคทุกอย่างไปด้วยกัน"
“ครับ... เราจะก้าวไปด้วยกัน”
แสงกล้าหยิบสร้อยวัชระประจำตัวออกมา ชูขึ้นมาที่หน้าแพรไพลิน
“วัชระ...”
“วัชระติดตัวผมมาตั้งแต่เด็ก สายสร้อยวัชระเส้นนี้เปรียบเหมือนสัญลักษณ์ตัวแทนของความดีที่พ่อมีให้ผม"
แสงกล้าใส่สร้อยวัชระให้กับแพรไพลิน
“ผมให้คุณ... แพรไพลิน คุณคือความดีที่จะอยู่ในหัวใจของผมตลอดไป”
แสงกล้ากอดแพรไพลินด้วยความรัก แล้วจู่ๆ ก็อุ้มเธอขึ้นมาทันที
แพรไพลินตกใจร้อง
“ อุ๊ย”
“วันนี้ผมขออนุญาตไม่ให้คุณก้าวเดินเองสักวันนะครับแพร”
แสงกล้าอุ้มแพรไพลินมายืนมองพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปด้วยกัน เคลื่อนใบหน้าเข้าใกล้เธอทีละน้อยๆ จนเหมือนเกือบจะจุมพิตกัน ท่ามกลางบรรยากาศสวยงามของทิวเขายามพระอาทิตย์ใกล้ตกดิน
อำนาจ บารมี และความยิ่งใหญ่
ที่แท้ คือความสงบ ว่างเปล่า
การรู้จักตัวเอง ดำรงตนระลึกรู้สัจธรรม
ทุกสรรพสิ่ง..ไม่มีอะไรจริงแท้
มีเกิด..มีดับ..สลับกันไป
ผู้เรียนรู้และตระหนักความจริงในข้อนี้..
นั่นแหละ..คือผู้ยิ่งใหญ่ที่แท้จริง...

วันใหม่ หน้าอาคารฯ ออฟฟิศที่ทันสมัย นักข่าวที่มีชื่อเสียงมากกำลังรายงานข่าวอยู่ที่หน้าจอ
“เป็นที่แน่นอนแล้วว่า นายจักร อมตฤทธา อดีตนักการเมืองที่มีชื่อเสียงจะได้รับการปล่อยตัวจากคดีสำคัญ ทั้งนี้เนื่องจากสำนักงานสืบสวนพิเศษต้องการกันตัวไว้เพื่อเป็นพยานในคดีสำคัญอื่นๆ อีกหลายคดี”
ดาหลากับบอดี้การ์ดกันจักรออกมาจากวงล้อมนักข่าวที่กำลังพยายามเข้ามารุมสัมภาษณ์
“บอกแล้วไงว่าผมไม่ได้ทำความผิดอะไร เมื่อไม่ผิด...ก็ต้องถูกปล่อยตัวเป็นเรื่องธรรมดา"
“แล้วเรื่องการเมือง... ท่านจะทำยังไงต่อไป”
“ผมกำลังตัดสินใจ... จะให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินอีกครั้ง”
นักข่าวสาวถาม
“หมายความว่าท่านจะเล่นการเมืองต่อไป”
“ยังไม่ตัดสินใจ แค่อาจจะ ... เอาละ วันนี้พอแค่นี้ก่อน ผมเหนื่อยมามากแล้ว แหม...การเป็นคนดีที่ถูกกลั่นแกล้งเนี่ย มันน่าเหนื่อยใจจริงๆ นะครับน้องๆ”
ดาหลากันจักรออกมาที่รถด้านหนึ่ง และกำลังก้าวขึ้นรถไป
นักข่าวที่มีชื่อเสียงหันมากล่าวสรุปกับกล้อง
“สังคมคงต้องตั้งคำถามกันต่อไป ... เมื่อไหร่คนที่ทำร้ายสังคมจะได้รับการตัดสินรับกรรมในการกระทำของตัวเอง"
จักรสีหน้าหยิ่งยะโสมากนั่งอยู่ที่เบาะหลังรถ ขณะที่ดาหลาเป็นคนขับรถออกรถไป
ดาหลาบิดกุญแจสตาร์ทรถ ฉับพลัน … รถยนต์ของจักรก็เกิดระเบิดเสียงดังสนั่น เปลวเพลิงลุกโชติช่วง....
ผู้คนและนักข่าวที่อยู่ตรงนั้นต่างตกใจโกลาหลกันเป็นการใหญ่

จอภาพยักษ์เหนืออาคารสูงตรงนั้น ดับวูบลง...พร้อมๆ กับตัวหนังสือขึ้นเต็มจอ
“ตาต่อตา ฟันต่อฟัน นี่คือการลงทัณฑ์คนชั่ว
ด้วยศรัทธาแห่งความดี ! จาก.... จันทราปาฎิหาริย์”

*****อวสาน*****

อ่านละคร เหนือเมฆ 2 มือปราบจอมขมังเวทย์[อวสาน] วันที่ 3 ม.ค. 56

เหนือเมฆ2 : มือปราบจอมขมังเวทย์
เหนือเมฆ2 บทประพันธ์ - บทโทรทัศน์ : คฑาหัสถ์ บุษปะเกศ
เหนือเมฆ2 กำกับการแสดง : นนทรีย์ นิมิบุตร
เหนือเมฆ2 ผลิตโดย : บริษัท เมตตามหานิยม จำกัด โดยผู้จัด ฉัตรชัย เปล่งพานิช
เหนือเมฆ2 แนวละคร : ดราม่า แอ็คชั่น แฟนตาซี
เหนือเมฆ2 ออกอากาศทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
เหนือเมฆ2 เริ่มออกอากาศตอนแรกวันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2555
ที่มา manage