@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร บ่วงบาป ตอนที่ 2/3 วันที่ 2 ก.พ. 56

อ่านละคร บ่วงบาป ตอนที่ 2/3 วันที่ 2 ก.พ. 56

“ถ้าเอ็งยืนยันแบบนั้น! ข้าจะไปเรียนคุณหญิง”
ชุ่มดึงสมไว้
“อย่าเลยพี่สม คุณหญิงมีเรื่องทุกข์ใจมากพอแล้ว อีกอย่างทาสอย่างเราพูดไปจะมีใครเชื่อ ช่างมันเถอะพี่ เจ็บแค่นี้ ชั้นทนได้”
สมจะไม่ยอม แต่ชุ่มดึงมือสมไว้ สมกอดน้องด้วยความสงสาร

คุณหญิงมณีเดินลงมา มองการสั่งการของแจ่มในการเตรียมน้ำสำหรับน้ำขึ้นไปรับแขก
“เร่งมือกันหน่อย”



“คุณหญิง ต้องลงมาเองหรือเจ้าคะ” แจ่มถาม
“น้ำสำหรับรับรองแขกพร่องแล้ว พวกเอ็งมัวแต่ต้วมเตี้ยมกันจนข้าทนไม่ไหว”
“บ่าวจะรีบจัดการนำขึ้นไปเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ”
คุณหญิงมณีจะกลับขึ้นเรือน แต่ชะงักที่เห็นขุนพิทักษ์ไมตรีกับรำพึงเดินเคียงคู่กันเข้ามา
“คุณหญิงคะ มีสิ่งใดให้รำพึงช่วยแบ่งเบาไหมคะ”
“น้องรำพึงอย่าเรียกคุณแม่พี่ด้วยคำเหินห่างแบบนั้นสิจ๊ะ เรียกท่านว่าคุณแม่จะดีกว่านะ”
ทุกคนมองอึ้ง
“พ่อพิทักษ์...”
ขุนพิทักษ์ สั่งบ่าว
“อ้ายอีทั้งหลายจงฟังไว้ อีกไม่นานน้องรำพึงจะต้องมาเป็นนายหญิงของที่นี่ พวกเอ็งจงเชื่อฟังและปฏิบัติต่อน้องรำพึงดังเช่นเจ้าเรือนคนหนึ่ง”
รำพึงยิ้มหน้าเชิดนิด ๆ อย่างทระนง
ขณะที่คุณหญิงช้ำใจที่ลูกชายสนใจแต่เรื่องความรักในขณะที่พ่อเพิ่งตายไป
“พระกำลังจะเริ่มสวดแล้ว แม่ว่าเราขึ้นไปข้างบนจะดีกว่านะ”
“ค่ะ...คุณแม่”
คุณหญิงมณีสีหน้าเครียด ขุนพิทักษ์พารำพึงเดินตามหลังไป

ผ่องตบเข่าฉาด!
“นั่นไง ข้าว่าแล้วต้องเป็นแบบนี้”
“ท่านพระยายังไม่ทันจะได้เผา นี่ท่านขุนจะรู้สึกโศกเศร้ากับการจากไปของท่านพระยาบ้างไหม” ผาดว่า
แจ่มตบปากผาด
“พูดมาก เรื่องของเจ้านายพวกเอ็งไม่เกี่ยว รีบทำงานไป ไม่งั้นข้าจะฟ้องให้ท่านขุนสั่งโบยพวกเอ็งให้หลังลายเชียว”
ทาสสะดุ้งก้มหน้าก้มตาทำงาน แจ่มมองตามรู้ สึกสังหรณ์ใจว่าจะมีเรื่องยุ่ง

บนเรือน ขุนไวพิชิตพลเดินขึ้นเรือนมาขณะที่พระกำลังสวดใกล้จบ ขุนไวเห็นรำพึงนั่งฟังพระอยู่กับพระยาเทวราช ซึ่งถัดไปเป็นขุนพิทักษ์ ขุนไวจึงเดินไปนั่งข้างๆรำพึงอีกด้านหนึ่ง ทำให้รำพึงอยู่ตรงกลางระหว่าง ขุนพิทักษ์กับขุนไว ทั้งสองจ้องหน้ากันอย่างไม่ละสายตา
“คุณรำพึงหายไปไหนนานเชียวครับ”
“ก็ไปดูอาหารเลี้ยงผู้คนสิคะ ท่านขุนฯคิดว่ารำพึงจะไปไหนได้”
“ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ดี”

เวลาต่อมา ผ่องกับผาดนั่งอยู่ที่พื้น กลางเรือนทาส
“เอ็งสองคนบอกข้ามาเดี๋ยวนี้ว่าใครทำนังชุ่ม” แจ่มว่า
“ข้าไม่รู้จริงๆนะป้าแจ่ม ข้าเอาข้าวมาให้มันแล้วพวกข้าก็ไป” ผ่องบอก
“เอ็งอย่ามาโกหก หรือจะต้องให้เรื่องถึงคุณหญิง”
“อย่านะป้าแจ่ม พวกข้าไม่รู้จริงๆ” ผาดบอก
สมพยุงชุ่มออกมา
“อย่าไปเอาความพี่ผ่องกับพี่ผาดเลยจ้ะป้า”
ผ่องกับผาดมองหน้าชุ่ม แจ่มถาม
“ใครทำเอ็ง ทำไมเอ็งไม่บอกข้าวะ จะได้ให้คุณหญิงท่านจัดการ”
“ฉันไม่อยากให้คุณหญิงท่านไม่สบายใจ”
แจ่มมองชุ่มอย่างสงสาร แล้วพึมพำ
“ใครน่ะ...นังชุ่ม...ใครมันใจร้ายใจดำทำกับเอ็งอย่างนี้”
ชุ่มมีสีหน้าชอกช้ำ

เวลายามเช้า รำพึงอยู่ในห้องนอน นั่งยิ้มมองกระจกอย่างมีความสุข เห็นภาพในกระจกเป็นเรื่องราวตอนที่ขุนพิทักษ์อิงแอบแนบชิดกับตัวเอง
“เชื่อพี่เถอะ...หัวใจพี่มีน้องเพียงคนเดียว”
ขุนพิทักษ์พูดแล้วก็หอมไปที่แก้มนวลของรำพึง รำพึงใจสั่นสะท้าน
“คุณพี่กล้าเอาชีวิตเป็นเดิมพันรึคะ”
รำพึงผละตัวออก ขุนพิทักษ์ รั้งตัวรำพึงไว้
“พี่เอาชีวิตเป็นเดิมพันว่าพี่จะรักและยกย่องน้องรำพึงเพียงคนเดียว”
คำพูดขุนพิทักษ์ที่ประกาศต่อหน้าบ่าวไพร่ดังก้อง
“อ้ายอีทั้งหลายจงฟังไว้ อีกไม่นานน้องรำพึงจะต้องมาเป็นนายหญิงของที่นี่ พวกเอ็งจงเชื่อฟังและปฏิบัติต่อน้องรำพึงดังเช่นเจ้าเรือนคนหนึ่ง”

รำพึงดึงตัวเองกลับมา ยิ้มหน้าเชิดนิดๆ อย่างทระนง
ภาพในกระจกกลับเป็นใบหน้าของรำพึงที่กำลังยิ้มร้าย พูดกับตัวเองอย่างหมายมั่น

“นับต่อแต่นี้ชีวิตคุณพี่จะเป็นของน้อง!”
จวงเปิดประตูห้องเข้ามา เห็นรำพึงนั่งอยู่หน้ากระจก

“งามเหลือเกินเจ้าค่ะ คุณรำพึงของบ่าว”
รำพึงยิ้มมองตัวเองอย่างมั่นใจในความสวย
“ดอกไม้ที่ข้าให้เตรียม เรียบร้อยมั้ยนังจวง”
“บ่าวให้คนเตรียมใส่เรือไว้เรียบร้อยแล้ว คุณรำพึงจะเอาดอกไม้เยอะแยะ ไปทำอะไรเจ้าคะ”
“ข้าจะเอาไปให้ที่เรือนคุณหญิงมณี ใช้จัดในงานคืนนี้”
“แหม...คุณรำพึงของบ่าวทั้งงามทั้งดีขนาดนี้ ถ้าคุณหญิงได้คุณรำพึงไปเป็นสะใภ้ คงเชิดหน้าชูตาน่าดู”
รำพึงหันมายิ้มมองในกระจก
“อีกไม่นานหรอก”
ริมฝีปากแดงชาดของรำพึง ยิ้มอย่างผู้มีชัย

เช้าวันเดียวกัน ขุนพิทักษ์ไมตรีเอนกายอยู่บนเตียง นึกถึงคำที่รำพึงพูดไว้กับตน
“อย่ามาปากหวานเลยเจ้าค่ะ เมื่อกลางวันยังไปนอนกกนางทาสอยู่เลย”
“นางทาสที่ไหนจะมาสู้น้องรำพึงของพี่”

แล้วก็นึกถึงคำพูดของคุณหญิงมณี
“น้องรำพึงมาหรือขอรับ…อยู่ที่ไหนล่ะขอรับคุณแม่”
“เขากลับไปแล้วล่ะ หลังจากที่เห็นลูกนอนอยู่กับนังชุ่ม”
“นังชุ่ม”

บนเตียง ขุนพิทักษ์ รำพึงชื่อออกมา
“นังชุ่ม?!”

บนเรือน ขุนพิทักษ์ไมตรีเปิดประตูออกมาก็เห็นภาพที่บ่าวไพร่กำลังเตรียมข้าวของเพื่องานสวดศพอีกคืน บ้างก็จัดดอกไม้ บ้างก็เช็ดถูเรือน
“นังผ่อง” ขุนพิทักษ์เรียก
“เจ้าคะท่านขุนฯ”
“นังชุ่มอยู่บนเรือนรึเปล่า”
“ท่านขุนฯมีอะไรกับนังชุ่มรึเจ้าคะ”
“ไม่ใช่กงการอะไรของเอ็ง”
ผ่องหงอไป กลัวขุนพิทักษ์จะเอาเรื่อง
“นังชุ่มไม่ได้อยู่บนเรือนเจ้าค่ะ”
“แล้วมันอยู่ไหน”

บริเวณบคงบัวในสวน ชุ่มที่ยังมียังมีรอยช้ำบนใบหน้า กำลังแกะเชือกเรือเพื่อจะไปเก็บบัว บริเวณนั้นมีเด็กๆเล่นอยู่ริมตลิ่งใกล้ๆ ชุ่มค่อยๆลอยเรือออกไปเก็บบัว
ขุนพิทักษ์ไมตรีเดินตรงมาที่บึงบัว
จังหวะนั้นไอ้ดำที่ว่ายน้ำออกไปไกล กำลังจะจมน้ำ
“ไอ้ดำ! พี่ชุ่ม ไอ้ดำจมน้ำ! ช่วยด้วย พี่ชุ่ม ช่วยด้วย” ไอ้แดงบอก
ชุ่มที่เก็บบัวหันไปตามเสียง เห็นเด็กกำลังดำผุดดำว่ายใกล้จมน้ำ

ทางฝั่งขุนพิทักษ์ ที่เดินมาในระยะใกล้ได้ยินเสียงเด็กเรียกชุ่มให้ช่วย
“ข้าว่ายน้ำไม่เป็น! ไอ้แดง รีบวิ่งไปตามคนมาเร็ว”
ไอ้แดงรีบวิ่งไป ชุ่มมองที่ไอ้ดำที่กำลังจะจมน้ำก็ลังเล ชุ่มพยายามจะเอาไม้พายยื่นไปแต่มันก็ไกลเกิน
“โธ่เอ๊ย!”
แค่เสี้ยววินาที ชุ่มตัดสินใจกระโดดลงน้ำไปช่วยเด็ก ขุนพิทักษ์ เห็นชุ่มกระโดดลงไปช่วยเด็ก
ชุ่มว่ายน้ำสะเปะสะปะจนไปถึงไอ้ดำ เด็กเกาะชุ่มแน่น ชุ่มพยายามสุดชีวิตว่ายพาเด็กไปใกล้เรือที่สุด ชุ่มเหวี่ยงเด็กจนเด็กเปะปะไปจับที่ขอบเรือจนสำเร็จ
ขุนพิทักษ์มองชุ่มที่ช่วยเด็กอยู่อย่างรู้สึกถูกใจในความกล้า
เด็กปล่อยมือจากชุ่ม เด็กใช้สองมือเกาะขอบเรือแน่น ชุ่มตั้งสติได้ก็พุ่งตัวขึ้นมาแล้วพยายามจะว่ายเข้าไปที่เรือ ชุ่มพยายามจะใช้มือจับเรือ แต่กลับเป็นการผลักเรือให้ออกไป ชุ่มพยายามจะคว้าแต่เรือไปไกล ชุ่มหมดแรงไม่ไหวกำลังจะจมน้ำ
ขุนพิทักษ์ เห็นท่าไม่ดีรีบกระโดดลงน้ำไปช่วย
ชุ่มหมดแรง สำลักน้ำ ร่างกำลังจมลง ขุนพิทักษ์ ว่ายเข้ามาใกล้ๆ และตวัดร่างชุ่มเข้าแนบตัว และพาชุ่มลอยเหนือน้ำ

ในเวลาต่อมา รำพึงก้าวขึ้นเรือนคุณหญิงมณี ผ่องกับผาดเห็นก็ให้สะดุ้งแอบหวาดกลัว บ่าวต่างๆเห็นแล้วต่างหมอบคลาน จวงพูดขึ้น
“คุณรำพึงเอาดอกไม้มาช่วยงาน พวกเอ็งไปเอาที่เรือหน่อย”
บ่าว ๒- ๓ คนเดินลงเรือนไป...
ผ่องกับผาดแอบซุบซิบกัน
“คุณหญิงยังไม่วางท่าขนาดนี้” ผ่องว่า
“จะพูดทำไม เดี๋ยวก็โดนหวายหรอก”
“ก็มันจริงนี่หว่า”
รำพึงตวัดตาไปเห็น จวงรีบจัดการแทนรำพึง
“เอ็งสองคนมีปัญหาอะไร”
ผ่องผาดมองหน้ารำพึงที่ยิ้มสวยแต่ดูน่ากลัวมากกว่าใจดี
ทั้งคู่พูดขึ้น
“เปล่า”
จวงอ้าปากจะด่าต่อ แต่รำพึงจับจวงไว้
รำพึงแสร้งทำใจดี หันไปถามผ่องผาด
“คุณหญิงไม่อยู่รึ”
“คุณหญิงไปวัดเจ้าค่ะ”
“แล้วท่านขุนล่ะ”
ผ่องกับผาดตาโตดูมีพิรุธ รำพึงจับสังเกตได้
“เอ่อ...คือ...” ผ่องอึกอัก
“พวกเอ็งมีอะไรปิดบังคุณรำพึง อยากโดนหวายหรือไง” จวงว่า
ผ่องกับผาดอึกอัก รำพึงที่ดูอ่อนโยน แต่น้ำเสียงฟังแล้วชวนขนหัวลุกมาก
“คุณพี่อยู่ที่ไหน”
“อยู่...อยู่ที่บึงบัวเจ้าค่า”

รำพึงสงสัยว่า ขุนพิทักษ์ไปทำอะไรที่นั่น!
ขุนพิทักษ์ไมตรีวางชุ่มลงที่พื้นบนฝั่ง ชุ่มสำลักน้ำออกมา แต่ยังสลบอยู่ ใบหน้าของชุ่มมีรอยฟกช้ำเล็กน้อยและเปียกไปด้วยหยดน้ำ แต่สวยเป็นธรรมชาติ ขุนพิทักษ์ พินิจมองหน้านั้นอยู่นาน

ขุนพิทักษ์ก้มลงไปฟังเสียงหายใจ เป็นจังหวะที่ชุ่มรู้สึกตัวฟื้นขึ้นมาก็ตกใจ! เมื่อพบว่าขุนพิทักษ์ซบอยู่ที่อก ชุ่มผลักขุนพิทักษ์ออกไป
“ท่านขุนฯจะทำอะไรข้า”
“สภาพแบบนี้ข้าจะทำอะไรเอ็งได้”
ชุ่มหันไปดูที่เรือ
“ไอ้ดำ”
ชุ่มจะเข้าวิ่งลงไปหาเรือ ขุนพิทักษ์ดึงมือชุ่มไว้
“จะทำอะไร”
“ข้าจะไปช่วยไอ้ดำ”
“ป่านนี้มันวิ่งปร๋อไปแล้ว เอ็งต่างหากที่จะเอาตัวไม่รอด ว่ายน้ำไม่เป็นยังจะทำเก่งลงไปช่วยมันอีก”
“ถ้าข้าไม่ช่วย ไอ้ดำต้องตายแน่ๆ”
“เอ็งยอมเสี่ยงตายเพื่อมันงั้นรึ”
“ท่านทนเห็นคนตายไปต่อหน้าโดยที่ท่านไม่คิดจะทำอะไรเลยได้หรือเจ้าคะ”
ขุนพิทักษ์ มองชุ่มที่กล้าพูดกับเขาไม่เหมือนคนอื่น ดวงตาใสๆของชุ่มที่เขาไม่อยากละสายตา
“เจ้านี่มันปากดี ไม่รู้รึว่าข้าเป็นใคร อยากหลังลายรึไง”
“ข้ารู้ว่าท่านเป็นใคร แต่ข้าไม่ได้ทำอะไรผิด ท่านจะมาโบยข้าได้ยังไง”
“ปากแบบนี้ไง หน้าถึงได้เขียวช้ำ คงหาเรื่องเขาไปทั่วสิท่า”
ชุ่มนึกถึงภาพที่ถูกคลุมหน้าตบทำร้ายไม่นับ
ชุ่มน้ำตาคลอ ขุนพิทักษ์เห็น
“ใช่ ข้ามันชอบหาเรื่องใส่ตัว”
ชุ่มรีบลุกขึ้นแต่ด้วยความเร็ว ชุ่มหน้ามืดล้มลง ขุนพิทักษ์ รับชุ่มไว้ในอ้อมแขน
รำพึงและจวงยืนเฝ้าดูเหตุการณ์ตั้งแต่ต้น! รำพึงกำหมัดแน่น
“ร้ายนักนังชุ่ม! สำออยเพื่อจะได้แนบชิดคุณพี่”
“แบบนี้มันต้องตบล้างน้ำเจ้าค่ะ จวงจัดการเอง”
จวงจะเข้าไปจัดการ แต่รำพึงจับไว้
“ไม่ใช่ตอนนี้”
รำพึงมองภาพตรงหน้าอย่างเคียดแค้น ขุนพิทักษ์ ยังไม่ปล่อยชุ่ม ทั้งสองประสานสายตากัน แววตาที่แฝงความกลัวของชุ่ม ทำให้ขุนพิทักษ์เอ็นดู
“ข้าช่วยเอ็ง ๒ ครั้งแล้วนะ เอ็งคงต้องตอบแทนข้าบ้าง”
ขุนพิทักษ์ โน้มหน้าเข้าไปใกล้หมายจะหอม แต่ชุ่มรีบผละตัวออกมา
“ถ้าจะให้ข้าตอบแทน ท่านขุนฯเอาชีวิตข้าไปยังดีกว่า ที่ท่านจะมาทำกับข้าแบบนี้”
ชุ่มน้ำตาไหลเอ่อวิ่งออกไป ขุนพิทักษ์ มองตามด้วยความสนใจในตัวชุ่มที่ไม่สนใจเขาแม้แต่นิดเดียว
รำพึงแววตาคมกริบ มองตามชุ่มด้วยความเคียดแค้น

ในเวลาต่อมา คุณหญิงมณีขึ้นเรือนมา ตามมาด้วยแจ่ม
“ให้คนไปตัดดอกบัวมานะแจ่ม ฉันจะถวายพระ”
“บ่าวสั่งให้นังชุ่มไปเก็บบัวมาตั้งแต่เมื่อเช้าแล้วเจ้าค่ะ” แจ่มบอก
“เออ แล้วนังชุ่มมันเป็นยังไงบ้างแจ่ม ข้ายังไม่ได้ถามไถ่มันเลย มันคงจะขวัญเสีย”
ผ่องที่ถือพานดอกไม้เข้ามา ก็ตกใจจนทำพานหล่น แจ่มมองหน้าผ่อง กับผาด ทั้ง ๒ คนแอบหลบตา แจ่มไม่กล้าบอกเรื่องที่มีคนบุกทำร้ายชุ่ม
“ก็...ก็อยู่ดีเจ้าค่ะ ไม่ได้เกิดอะไรขึ้นกับนังชุ่มเลย”
คุณหญิงมณีจับสังเกตแจ่ม
“เอ็งมีอะไรปิดข้า”
“ปะ..เปล่าเจ้าค่ะ ไม่มีอะไรจริงๆ”

อ่านละคร บ่วงบาป ตอนที่ 2/3 วันที่ 2 ก.พ. 56

ละครเรื่อง บ่วงบาป บทประพันธ์ : อัจฉรียา
ละครเรื่อง บ่วงบาป บทโทรทัศน์ : พอวาสน์-นันทพร
ละครเรื่อง บ่วงบาป กำกับการแสดง : กฤษฎา เตชะนิโลบล
ละครเรื่อง บ่วงบาป แนวละคร : ดราม่า
ละครเรื่อง บ่วงบาป ผลิต : บ้านละคอนโดย อรพรรณ วัชรพล
ละครเรื่อง บ่วงบาป ออกอากาศทุกวันพุธและพฤหัสบดี เวลา 20.15 น.
ระยะเวลาออกอากาศ : เริ่ม กุมภาพันธ์ ทางไทยทีวีสีช่อง3 (ต่อจาก ตะวันฉาย ในม่ายเมฆ)
ที่มา manager