@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร แรงปรารถนา ตอนที่ 3 วันที่ 7 ม.ค. 56

อ่านละคร แรงปรารถนา ตอนที่ 3 วันที่ 7 ม.ค. 56

“ก็ได้ ถ้างั้นพรุ่งนี้เจอกันนะครับ แล้วผมจะโทรมานัดอีกที”
“ค่ะ”
พิทยาวางสาย มองรวีพรรณไม่วางตาแล้วก็ขึ้นรถขับออกไป รวีพรรณปิดหน้าต่างด้วยความรู้สึกสับสน
ด้านภูวดลเพิ่งอาบน้ำเสร็จ นุ่งผ้าขนหนูผืนเดียวยืนอยู่หน้ากระจกที่เต็มไปด้วยไอน้ำ เขายกมือปาดไอน้ำออก ก่อนจะมองรอยช้ำที่มุมปากด้วยแววตาโกรธแค้น

“ไอ้พิทยา!”
วันถัดมา ภายในสวนสาธารณะ พิทยายืนรอรวีพรรณด้วยใจที่จดจ่อ ไม่นานเธอเดินเข้ามา เขายิ้ม แต่รวีพรรณหน้าตาหมองมากเพราะไม่ได้นอน เธอเดินมายืนตรงข้ามเขา

รวีพรรณเห็นรอยช้ำที่มุมปาก
“เจ็บมากมั้ยคะ”
พิทยาส่ายหัวบอก
“ไม่ครับ ไม่เจ็บเลย ผมอยากอธิบายที่รวีเห็นผมกับคุณแตเมื่อวาน ผมไม่นึกว่าคุณแตจะกล้าทำแบบนั้น”
“ความจริงพิทก็รู้จักกับเค้ามานาน พิทน่าจะรู้ว่าเค้าเป็นยังไง”
พิทยาผงะ



“รวี...”
รวีพรรณหันหลังให้เขา
“บางครั้งรวีก็อดคิดไม่ได้ว่าพิทกับคุณสุอาภามีบางอย่างต่อกัน”
พิทยารีบพูด
“ผมบอกรวีแล้วไงว่าผมกับเค้า..ไม่ได้มี...”
เธอหันมาพูดต่อทันที
“รวีไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้น คนที่ควรจะเป็นฝ่ายพูดเพื่อช่วยพิทควรจะเป็นรวี ไม่ใช่เค้า!! แต่รวีกลับไม่กล้า...ไม่กล้าแม้แต่จะสบตาพิทตอนที่คุณแม่ดูถูกพิท ด้วยซ้ำ”
พิทยารีบจับมือรวีพรรณ
“ผมไม่เคยคิดถึงประเด็นนี้เลยนะรวี ผมรู้ว่าคุณเองก็ตกอยู่ในสภาวะที่ลำบากใจ กับเรื่องของเรา เรื่องแม่คุณแล้วไหนจะเรื่องผู้ชายคนนั้นอีก”
รวีพรรณดึงมือออก ทำให้พิทยาใจเสีย
“รวีไม่รู้จะทนกับเรื่องนี้ไปได้อีกนานแค่ไหน และรวีก็รู้ว่าพิทไม่มีทางที่จะตัดขาดกับครอบครัวของคุณสุอาภาได้ เพราะคุณนพมีบุญคุณกับพิทมาก”
พิทยานิ่งเงียบครุ่นคิด
“เพื่อความสบายใจของรวี...ผมจะลาออกจากบริษัทคุณอา”
รวีพรรณมองพิทยาอย่างอึ้งๆ

ภายในออฟฟิศ นพอ่านจดหมายลาออกของพิทยาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ก่อนจะเงยหน้ามองพิทยาที่นั่งอยู่ตรงข้าม
“เพราะยัยแตใช่มั้ย”
พิทยานิ่งไปซักพักแล้วบอก
“ผมกับคุณแตเข้ากันไม่ได้ ผมเลยพิจารณาตัวเองเพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย”
“เลิกเรียกยัยแตว่าคุณทีเถอะ เคยเรียกยังไงก็เรียกแบบนั้น ไปยกย่องทำไมนักหนา ทั้งๆที่ก็อายุน้อยกว่าเรา”
“ไม่ดีมั้งครับ ให้ผมเรียกแบบนั้นไว้ให้ติดปากดีกว่า”
นพถอนใจลุกขึ้นยืนเดินมาข้างพิทยา
“นี่แปลว่าถือสายัยแต ทำอย่างนั้นเหนื่อยเปล่า เพราะยัยแตนิสัยไม่ดีหลายอย่าง ขนาดฉันยังปวดหัว”
พิทยาลุกขึ้นยืนพลางบอก

“แต่ผมตัดสินใจแล้ว”
พิทยามองนพด้วยสีหน้าจริงจัง นพดันจดหมายคืนให้พิทยา เขาชะงัก

“ฉันไม่อนุมัติ นี่เป็นคำสั่ง...!”
พิทยาอึ้ง
“แต่ผม...”
“หรือต้องให้ฉันขอร้องมากกว่านี้”
“ไม่ใช่ครับ ไม่ใช่”
“ฉันเป็นเจ้าของบริษัท ไม่ใช่ยัยแต ยัยแตไม่มีอำนาจจะบีบให้เธอต้องลาออก กลับไปทำงานต่อ งานที่นี่ยังต้องการเธออีกมาก”
พิทยาถึงกับพูดไม่ออก เพราะน้ำเสียงที่เฉียบขาดของนพ

ภายในห้องนั่งเล่น เวลากลางคืน สุอาภา บวร วรรณวดีหันไปมองนพด้วยสีหน้าตื่นตะลึง โดยเฉพาะสุอาภาอึ้งมากกว่าเพื่อน ไม่นึกว่าพิทยาจะใช้วิธีนี้
“ลาออก!” ทุกคนโพล่งขึ้นพร้อมใจ
บวรและวรรณวดีหันไปมองน้องสาวด้วยสายตาตำหนิ สุอาภาชะงัก
“ทุกคนมองแตด้วยสายตาแบบนั้นทำไม”
“เหตุผลเดียวที่พิทคิดจะลาออกก็คือเรานั่นแหละยายแต!” บวรบอก
“ใส่ร้าย!”
“ใส่ร้ายที่ไหน แกน่ะชอบไปแกล้งเค้า แกล้งแต่ละครั้งก็รุนแรงมากขึ้น นับว่าพิทยังมีความอดทนสูง เพราะถ้าเป็นพี่ แกเจอซัดไปนานแล้ว”
สุอาภาโมโหลุกพรวดขึ้นมายืน
“ใช่สิ แตมันนิสัยไม่ดี นายนั่นดีที่สุดอยู่คนเดียว”
สุอาภาพูดจบก็จ้ำเดินออกไป วรรณวดีจะตามไป นพรีบห้าม
“ปล่อยให้อยู่คนเดียวซักพักเถอะ เผื่อว่าจะคิดอะไรเองได้”
ทุกคนได้แต่ทอดถอนใจ

สุอาภาเข้ามาในห้องนอน สีหน้าหงุดหงิดหัวเสียมาก
“ทำมาเป็นลาออก ฉันรู้หรอกว่านายทำเพื่อเรียกร้องความสนใจ ชิ”
สุอาภานิ่งไปสักพัก แล้วก็นึกอะไรบางอย่างออก หรี่ตาร้ายกาจ ก่อนจะยิ้มมุมปากออกมา

วัน – เวลาเดียวกัน ภายในห้องนอน รวีพรรณกำลังเก็บเอกสารใส่กระเป๋าไปคุยโทรศัพท์ไป
“รวีเกริ่นกับรุ่นพี่ที่เปิดบริษัทสถาปนิกให้พิทแล้ว เค้ากำลังต้องการสถาปนิกพอดี พิทโทรไปหาเค้าตอนนี้ได้เลย”
พิทยาสีหน้าลำบากใจมาก
“คุณอาไม่อนุมัติให้ผมลาออก”
รวีพรรณอึ้ง พิทยารู้สึกแย่มาก
“แต่รวีไม่ต้องกังวลนะ ผมจะไม่ให้คุณแตไปรบกวนรวีอีก และผมสัญญาว่าผมจะอยู่ห่างจากเค้าให้มากที่สุด”
รวีพรรณเซ็งมากที่พิทยาไม่สามารถหลุดพ้นจากครอบครัวนี้ได้เลย

เช้าวันถัดมา บนโต๊ะอาหารเช้า
ทุกคนสำลักข้าวพร้อมกัน แม้แต่ณีก็ยังยืนตาค้าง สุอาภามองทุกคนอย่างแปลกใจ
“เป็นอะไรกันไปหมดคะ แตแค่บอกว่าจะขอไปฝึกงานที่บริษัทป๋า”
บวรเอื้อมมือไปจับหน้าผากน้องสาว
“ตัวไม่ร้อน”
สุอาภาปัดมือบวรออก
“แตไม่ได้เป็นอะไรซักหน่อย”
“แล้วนึกยังไงถึงจะไปฝึกงาน นี่ไม่ใช่นิสัยแตซักนิด” วรรณวดีถาม
สุอาภาแกล้งทำสำนึกผิดบอก
“แตนั่งคิด นอนคิดทั้งคืน แตทำกับพิทเกินไปอย่างที่พี่ใหญ่ว่าจริงๆ แตอยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง อยากพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าแตโตแล้ว”
บวรชะงัก
“แกเชื่อที่ฉันพูด”
สุอาภาทำหน้าซื่อพยักหน้าบอก
“แถมยังคิดได้เอง”
ทุกคนร้อง “เหรอ” ขึ้นพร้อมกัน
ทุกคนมองสุอาภาแบบไม่เชื่อ สุอาภาผงะ
“ทุกคนไม่เชื่อแต”
ทุกคนพยักหน้าพร้อมกัน สุอาภาอึ้ง แล้วก็หันไปทางนพ...แกล้งทำเป็นน้อยใจ
“ใครไม่เชื่อแตก็ไม่เป็นไร แต่ป๋าต้องเชื่อแตนะคะ ป๋าไม่รักแตแล้วเหรอ ทำไมชีวิตแตถึงได้เกิดมาอาภัพนัก จะเป็นคนดีกับเค้าทั้งที ยังไม่มีใครสนับสนุน”
ทุกคนยังนิ่ง สุอาภาเห็นท่าไม่ดีเลยใช้ไม้สุดท้าย ทำดราม่าใส่
“ในเมื่อเป็นคนดีไม่ได้ แตก็จะเป็นคนเลวเหมือนเดิม”
สุอาภาจะลุกเดินออกไป เธอลุ้นว่าจะมีใครง้อเธอมั้ย แต่ไม่มี เธอเซ็งมาก
สุอาภาบ่นเสียงเบา
“ทำไมไม่มีใครเรียกเราเลย”
สุอาภาหัวเสียแล้วก็แกล้งร้องไห้โฮเสียงดังวิ่งขึ้นห้องไป ทุกคนมองอย่างรู้ทัน
“ดูยังไง๊ยังไง มันก็แกล้ง อย่าเชื่อมันเชียวนะป๋า” บวรบอก
“คุณท่านคะ แต่ป้าว่าบางทีคุณหนูอาจจะสำนึกแล้วจริงๆก็ได้” ณีบอก
“ไม่มีทาง!” บวรว่า
“คุณใหญ่ให้โอกาสคุณหนูบ้างสิคะ”
“หยุด...ไม่ต้องเถียง”
บวรกับณีเงียบไปทันที วรรณวดีถาม
“แล้วป๋าจะเอาไงคะ”

นพมีสีหน้าครุ่นคิด
ภายในห้องทำงานของพิทยายามนั้น เขากำลังมองนพด้วยสีหน้าประหลาดใจ

“ฉันอยากฝากยัยแตให้มาฝึกงานกับเธอ”
พิทยาอึ้งมาก
“ฝึกงาน เออ ผมว่าให้คุณแตไปฝึกงานแผนกอื่นดีกว่า เพราะว่าแผนกผมเป็นงานออกแบบ คุณแตคงไม่ถนัด”
“ฉันไม่ไว้ใจให้ลูกสาวฉันไปแผนกอื่น เธอก็รู้ฤทธิ์เดชของยัยแตดี มีเธอคนเดียวที่รับมือได้”
พิทยาสีหน้าลำบากใจมาก
“แต่ผมกลัวว่าคุณแตจะไม่ได้อะไร ถ้าฝึกงานกับผม”
“ฉันก็ไม่ได้หวังจะให้มันได้อะไรมากมาย แค่มันคิดจะทำอะไรดีๆบ้าง คนเป็นพ่ออย่างฉันก็ชื่นใจจะแย่”
“ผมพูดตรงๆนะครับคุณอา ผมไม่สบายใจที่ต้องอยู่ใกล้คุณแต”
“พิท...ฉันรู้ว่าเธอลำบากใจ เพราะยัยแตทำกับเธอไว้หลายอย่าง แต่ฉันมองไม่เห็นคนอื่นที่พอจะพึ่งได้เลยจริงๆ ยัยแตยังเด็กมาก เวลาทำอะไรถึงไม่ค่อยคิด เธอให้โอกาสลูกสาวฉันอีกซักครั้งเถอะ ถ้ามีเธอคอยสั่งสอนอยู่ข้างๆ บางทียัยแตอาจจะกลับตัวได้จริงๆ ถือว่าทำเพื่อฉันนะ ฉันขอร้อง”
พิทยากลืนไม่เข้า คายไม่ออก เหมือนคนน้ำท่วมปากที่ปฏิเสธออกมาไม่ได้

ที่มุมหนึ่งในออฟิศ นพอาคิเทค พิทยาหันไปมองสุอาภาด้วยสายตาไม่ไว้ใจอย่างแรง สุอาภาทำเป็นยิ้มหน้าใสซื่อ นพยืนอยู่ตรงกลางระหว่างสองคน
“ฉันอนุญาตให้เธอใช้งานยัยแตได้เต็มที่ ถ้ายัยแตทำอะไรไม่ถูกต้อง สั่งสอนได้เลยโดยไม่ต้องนึกว่าเป็นลูกฉัน”
“ป๋าอ่ะ พูดแบบนี้ เดี๋ยวพิทก็ได้ใจ ใช้งานแตไม่หยุดหรอกค่ะ”
นพหัวเราะชอบใจบอก
“ป๋าไปทำงานก่อน ฝากน้องด้วยนะพิท”
พิทยามีสีหน้ากล้ำกลืนมาก
“ครับ...”
นพหันมากอดกับลูกสาวคนเล็ก สุอาภาหอมแก้ม นพเดินออกไป เธอหันมายิ้มซื่อกับพิทยา
“ไม่คิดจะยิ้มให้ฉันบ้างเหรอ”
พิทยาหรี่ตามอง
“จะมาไม้ไหน”
“ไม่มาไม้ไหนล่ะ วันนี้ฉันมาแบบจริงใจที่สุด ไม่มีการซ้อนแผนอะไรทั้งนั้น ฉันอยากสมานฉันท์ ที่ผ่านมาฉันทำผิดกับนายไว้มากโดยเฉพาะเรื่องคุณรวีพรรณ ที่ฉันเคยพูดว่าฉันจะทำให้นายกับเค้าเลิกกัน ฉันพูดไปเพราะฉันโกรธ แต่ตอนนี้ฉันคิดได้แล้ว เรามาเริ่มต้นใหม่กันใหม่นะ”
พิทยามองไม่เชื่อ แล้วสุอาภาก็ยื่นนิ้วก้อยมาตรงหน้า พิทยามองเธออย่างลังเล
“จะไม่เกี่ยวก้อยซักหน่อยเหรอ”
“20 ปีที่ผ่านมากับคำพูดแค่นี้ มันไม่ช่วยให้ผมรู้สึกดีกับคุณขึ้นมาหรอก”
สุอาภาอึ้ง พิทยาหันหลังเดินออกไป เธอเบ้หน้าด้วยความหมั่นไส้
“ได้ทีล่ะทำเป็นข่ม..ชิ ได้ใจไปก่อนเหอะนายพิทยา”
สุอาภาหน้าร้ายกาจมาก

ที่ออฟฟิศ กรองทิพย์ยืนอยู่กับสุอาภา
“คุณแตมีอะไรเรียกพี่ได้ตลอดเลยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นปวดหัว ปวดท้อง ปวดตับ”
สุอาภายิ้มบอก
“ขอบคุณค่ะพี่ทิพย์”
“ไม่มีปัญหาค่ะ”
บวรเดินเข้ามา สุอาภากับกรองทิพย์หันไป
“สวัสดีค่ะคุณผู้จัดการ” กรองทิพย์ทักทาย
“บอกกี่ครั้งแล้วว่าให้เรียกชื่อ ไม่ต้องระบุตำแหน่ง”
“แหม...ก็มันชินนี่คะคุณใหญ่ พี่ขอตัวไปทำงานนะคะ”
บวรยิ้มๆ แล้วกรองทิพย์ก็เดินออกไป บวรหันมาทางน้องสาว
“พี่มาเยี่ยมไ
สุอาภาทำกวนบอก
“แตไม่ได้ป่วย ทำไมต้องมาเยี่ยม”
“ไอ้นี่”
บวรขยี้หัวสุอาภา
“โอ๊ย! พี่ใหญ่ ผมเสียทรงหมดแล้ว”
“มาทำงาน ไม่ได้มาทำสวย ตั้งใจทำงาน อย่าให้เสียชื่อป๋า เสียชื่อพี่ เข้าใจ๊”
บวรขยี้หัวสุอาภาอีกครั้ง
“ไปได้แล้ว!”
บวรหัวเราะชอบใจแล้วเดินออกไป สุอาภาถอนหายใจ รีบเซ็ทผม

ในห้องชงกาแฟ ปวีณาเดินมายืนข้างๆกรองทิพย์ที่กำลังชงกาแฟด้วยสีหน้าไม่พอใจอย่างแรง
“แป๋วว่าเค้าต้องมีแผนอะไรแน่ๆ ถึงเข้ามาฝึกงาน”
“ไอ้มีแผน หรือไม่มีแผน พี่ไม่รู้ พี่รู้อย่างเดียวว่า ตอนนี้พี่สงสารคุณพิทมาก ก็อย่างว่าแหละ บุญคุณคุณนพท่วมหัวขนาดนี้ คุณพิทคงไม่กล้าปฏิเสธ เฮ้อ...มันคงเป็นเวรเป็นกรรมที่ทำร่วมกันมาแต่ชาติปางก่อน”
ปวีณาฟังกรองทิพย์จบแล้วก็เป็นห่วงพิทยาขึ้นมาเหมือนกัน
สุอาภากำลังคุยโทรศัพท์หัวเราะคิกคักอยู่ที่โต๊ะทำงาน พิทยาเดินมาทางด้านหลัง
“คุณแต...”
สุอาภาไม่ได้ยิน เอาแต่เมาท์ เขาดึงมือถือออกมา เธอผงะหันไปมอง แล้วพิทยาก็กดปิด สุอาภาไม่พอใจอย่างแรง
“นี่เวลาทำงาน ไม่ใช่เวลาคุยโทรศัพท์”
สุอาภายื่นมืออกไป
“เอาคืนมา”
“ผมจะคืนให้ ก็ต่อเมื่อคุณทำงานให้ผมเสร็จแล้ว”
พิทยาวางเอกสารบนโต๊ะบอก
“ซีร๊อกซ์เอกสารแปดชุด สำหรับการประชุมสิบเอ็ดโมงเช้านี้”
พิทยาพูดจบก็เดินออกไป สุอาภาหัวเสีย หันไปเห็นพนักงานคนหนึ่งเดินมาพอดี ฌธอยื่นเอกสารให้
“นี่...เอาไปซีร็อกซ์ 8 ชุด”
พนักงานหน้าเหวอ

พิทยาเดินมากดน้ำ เห็นพนักงานกำลังถ่ายเอกสารที่เค้าสั่งสุอาภทำก็ผงะ ไม่พอใจขึ้นมาทันที

สุอาภาเอาเอกสารมาให้พิทยาที่ยืนอยู่หน้าห้อง พร้อมกับยื่นมือออกไป
“งานเสร็จแล้ว ขอมือถือคืน”
พิทยาไม่พูดอะไร หยิบเอกสารขึ้นมาฉีกและทิ้งลงขยะ สุอาภาตกใจ
“นายฉีกทำไม”
“ผมสั่งคุณ ไม่ใช่ให้คุณไปสั่งคนอื่น”
สุอาภาหน้าถอดสี
“เห็นด้วยเหรอ”
พิทยาหันไปทางพนักงานคนอื่น
“ทุกคนฟังทางนี้ ต่อไปอย่าให้ผมเห็นใครช่วยงานคุณสุอาภาอีก”
สุอาภาไม่พอใจจะด่า แต่พิทยาหันมาพูดเสียงดัง
“ฟังผม! ผมไม่รู้หรอกนะว่าที่คุณเข้ามาขอฝึกงาน คุณมีเหตุผลอะไร ผมมั่นใจว่ามันไม่ใช่เรื่องดี แต่ช่วยกรุณาทำตัวเป็นลูกที่ดี ให้คุณพ่อคุณชื่นใจซักครั้งเถอะ”

พิทยายื่นเอกสารต้นฉบับให้อีก สุอาภาพูดไม่ออกอับอายมาก พิทยาเดินกลับเข้าไปในห้อง
สุอาภายืนอยู่ที่เครื่องถ่ายเอกสารด้วยความโมโหที่แพ้พิทยา

“ทำมาเป็นสั่งสอนฉัน..ชิ!”
สุอาภามองเครื่องถ่ายเอกสารแล้วก็นิ่งไปเพราะความงงที่เห็นมีปุ่มหลายปุ่ม
“ทำไมปุ่มเยอะแบบนี้”

พิทยาดูเวลาเห็นเวลาใกล้จะสิบเอ็ดโมงแล้ว ผู้ร่วมประชุมทยอยกันเข้ามาในห้อง พิทยาเริ่มเป็นกังวล

สุอาภายืนเอ๋อ หน้าเสียอยู่เพราะกระดาษที่ถ่ายเอกสารออกมาหลายสิบแผ่น
“เฮ้ย”
พิทยาเดินออกมาเห็นเหตุการณ์ก็ตกใจ รีบเข้ามา
“ทำอะไรของคุณ”
“ฉันไม่รู้”
พิทยามองหน้าจอเครื่องถ่ายเอกสาร
“คุณกดไป 100 แผ่น”
สุอาภาตกใจ พิทยารีบดึงปลั๊กออก ปวีณาเดินผ่านมาเห็นพอดีเลยหยุดดูว่าเกิดอะไรขึ้น
“ถ้าทำไม่เป็นก็บอกสิ อย่าทำอวดฉลาด” พิทยาบอก
ปวีณาลอบยิ้มสะใจ ก่อนรีบเดินมาเสนอตัวช่วย
“ให้แป๋วช่วยมั้ยค่ะคุณพิท”
“ฝากด้วย”
พิทยามองสุอาภาอย่างเอือมๆ สุอาภาเกลียดแววตาของเขามาก แล้วก็หันไปเห็นปวีณายืนมอง
“มองอะไร”
“กรุณาหลีกทางหน่อยค่ะ คุณบังเครื่องถ่ายเอกสารอยู่” ปวีณาบอก
สุอาภาผงะแล้วก็เดินออกไป ปวีณายิ้มเยาะ ชายตามองแล้วก็หันมายิ้มให้พิทยา
“คุณพิทมีอะไรให้แป๋วช่วย บอกมาได้เลยนะคะ”
“ขอบใจแป๋ว”
สุอาภาจ้ำเดินออกไป แป๋วยิ้มอย่างมีความสุข

สุอาภากลับมาที่โต๊ะ พิทยาตามมาคืนมือถือให้ เธอรับมือถือมาแล้วก็เอากระเป๋าขึ้นมาสะพาย
“จะไปไหน”
“ไปกินข้าว”
“นี่ยังไม่ถึงเวลาพัก คุณต้องเข้าไปจดรายงานการประชุมให้ผม ถ้าแค่นี้ยังทำไม่ได้ ก็ไม่ต้องไปทำมาหากินอะไรแล้ว”
พิทยาพูดจบเดินออกไป เสียงพิทยาทำให้พนักงานแถวนั้นได้ยิน หันมามองสุอาภาเป็นตาเดียวแล้วพากันซุบซิบ เธอหันขวับไปมอง พวกพนักงานวงแตก!! รีบแยกกันเดินออกไป สุอาภาเจ็บใจสุดๆ

ภายในห้องประชุม พิทยากำลังประชุมกับพนักงาน สุอาภานั่งตรงมุมห้องพยายามจด แต่จดไม่ทัน สุอาภาหน้าแย่มาก

ในเวลาต่อมา ในห้องทำงานของพิทยา เขาอ่านรายงานการประชุมที่สุอาภาจดสีหน้างงงวย
“ก.ป.ป ? ส.ป.น ? ค.ก.ส.ล.? อะไรของคุณ!! มีแต่ตัวย่อ”
“ก.ป.ป. การเปลี่ยนแปลง ส.ป.น สถาปนิก ค.ก.ส.ล. คอนกรีตเสริมเหล็ก ฉันจดไม่ทันเลยต้องใช้ตัวย่อ”
“พิมพ์มาให้ผม ไม่เอาอักษรย่อ และต้องเสร็จภายในบ่ายโมงวันนี้”
สุอาภาชะงักกึกบอก
“แต่นี่มันเที่ยงแล้ว ฉันต้องไปทานข้าวก่อน”
พิทยาเสียงเข้มบอก
“เสร็จก่อน แล้วค่อยไปทาน”
สุอาภาตั้งท่าจะเถียง พิทยาพูดต่อ
“อย่ามาตีโพยตีพาย คุณเลือกที่จะเข้ามาฝึกงานเองอย่าลืม และในเมื่อคุณอาฝากคุณให้ผมดูแล ผมก็ต้องทำหน้าที่ของผมให้ดีที่สุด ผมทานข้าวเสร็จกลับมา มันต้องอยู่บนโต๊ะ ออกไปได้แล้ว”
สุอาภาพูดไม่ออก คว้ารายงานการประชุมที่ตัวเองจดแล้วเดินกระแทกส้นออกไป พิทยาลอบยิ้มพอใจ

ผ่านเวลามา สุอาภานั่งกินแซนวิชอยู่ที่โต๊ะ
“แซววิชพี่ใหญ่อร่อยที่สุด”
“ไม่ใช่แซนวิชพี่..แซนวิชร้านกาแฟข้างล่าง แต..เราอย่าวืดวือให้มันมากนักนะ”
“พี่ใหญ่...แตกำลัง fail อยู่นะคะ ให้กำลังใจกันบ้าง”
“แล้วที่เอาแซนวิชมาให้เนี่ย ไม่ได้เรียกว่าให้กำลังใจอีกเหรอ”
สุอาภายิ้มแล้วก็เริ่มอ้อน
“พี่ใหญ่...พี่ใหญ่ช่วยแตพิมพ์รายงานการประชุมหน่อยนะ นะคะพี่ใหญ่คนดี”
บวรรีบผละออกห่าง
“อ๊ะๆ ไม่ต้องเลย ฉันไม่หลงกลแกหรอกไอ้แต ไปกินเป็ดปักกิ่งดีกว่า”
บวรหัวเราะเย้ยๆแล้วก็เดินออกไป สุอาภาหัวเสียมากมาย

รมณี ศรีพิไล ภูวดลนั่งทานอาหารกลางวันด้วยกันในร้านอาหารแห่งหนึ่ง
“น้าดีใจจริงๆที่พ่อดลเข้าใจยัยรวีของน้า รวมทั้งเธอด้วยนะศรี” รมณีว่า
“ฟังจากเธอเล่า ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าผู้ชายคนนั้นจะร้ายกาจมากขนาดนี้ หวังจะเกาะหนูรวีเพื่ออัพฐานะให้ตัวเอง แล้วหนูรวีก็ซื่อแสนซื่อ ไปหลงเชื่อมันได้ยังไง”

อ่านละคร แรงปรารถนา ตอนที่ 3 วันที่ 7 ม.ค. 56

ละครแรงปรารถนา บทประพันธ์โดย อาริตา
ละครแรงปรารถนา บทโทรทัศน์ : ปณธี
ละครแรงปรารถนา กำกับการแสดง : ยุทธนา ลอพันธ์ไพบูลย์
ละครแรงปรารถนา แนวละคร : โรแมนติก - ดราม่า
ละครแรงปรารถนาดำเนินงานสร้าง : บริษัทละครไท จำกัด โดย หทัยรัตน์ อมตวณิชย์
ละครแรงปรารถนา ออกอากาศ : ทุกวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 20.30 น. ช่อง 3 (ต่อจากเหนือเมฆ)
ที่มา manager