@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร แรงปรารถนา ตอนที่ 4/3 วันที่ 8 ม.ค. 56

อ่านละคร แรงปรารถนา ตอนที่ 4/3 วันที่ 8 ม.ค. 56

“ฉันต้องขอบคุณเธอมากนะพิท ที่ทำให้บริษัทเราคว้ารางวัลนี้มาได้สำเร็จ เพราะฉะนั้นรางวัลนี้..เธอสมควรจะเก็บเอาไว้”
พิทยารับรางวัลเอาไว้มองด้วยความภาคภูมิใจ
“รางวัลนี้ไม่ใช่ของผมคนเดียวครับ แต่เป็นของคุณแตด้วย”
สุอาภาอึ้ง ทุกคนหันไปมองสุอาภา
“ถ้าไม่ได้คุณแตพาผมไปดูชุมชนที่โดนน้ำท่วม ผมคงคิดงานชิ้นนี้ไม่ออก ขอบคุณนะครับคุณแต”
สุอาภายิ้มให้กับพิทยาด้วยความดีใจ สองคนมองหน้าและยิ้มให้กันนิ่งนาน จนทำให้คนที่เหลือรู้สึกแปลกๆ แล้วสุอาภาก็หันมาเย้ยใส่พ่อ พี่ชายและพี่สาว

“เห็นแล้วนะคะทุกคนว่า แตตั้งใจทำงานมากขนาดไหน แล้วแตก็ทำสำเร็จ ใครอยากขอโทษแตเป็นคนแรกก็เชิญเลยค่ะ”
บวรเขกหัว สุอาภาเจ็บ



“โอ๊ย! ใครสอนพี่ใหญ่ให้ขอโทษแบบนี้”
“ไม่ได้ขอโทษ แต่หมั่นไส้เว๊ย แหม..ช่วยแค่นี้ ทำยืด ถุย!”
สุอาภาหัวเสียอ้อน
“ป๋า”
“เดี๋ยวป๋าเอาคืนให้เอง ถุยถุยถุย...”
บวรรีบหลบหลังวรรณวดีที่พลอยโดนไปด้วย
“หยุดเลยค่ะ! น้ำลายลงอาหารหมดแล้ว เล่นอะไรกันก็ไม่รู้ทั้งป๋าทั้งพี่ใหญ่..สกปรก!”
“เอ้าพวกเรา...เจ้าแม่ประทับร่างแล้ว”
สุอาภา พิทยา นพ บวร แกล้งหันไปไหว้ วรรณวดียิ่งหัวเสีย
“รวมหัวกันแกล้งต่ายเหรอ”
ทุกคนหัวเราะชอบใจ แล้วสุอาภากับพิทยาก็หัวเราะก่อนจะหันมามองหน้ากัน สองคนค่อยๆหยุดหัวเราะและยิ้มอย่างรู้สึกดีให้กัน

นั่นทำให้นพ บวร และวรรณวดีเริ่มเอะใจ
บนโต๊ะอาหาร รวีพรรณนั่งหน้าเศร้าเขี่ยข้าวในจานไปมา ณรงค์เห็นรวีพรรณก็ถอนใจ

“เขี่ยข้าวไปมาแบบนี้ มันจะอิ่มมั้ยลูก”
รวีพรรณเงยหน้าบอก
“รวีไม่หิวค่ะ”
“ไม่หิวก็ต้องทาน ลูกพ่อซูบลงมาก ไม่สดใสเหมือนเก่า พ่ออยากได้ลูกคนเดิมกลับมา ฟังพ่อนะรวี พ่อรู้ว่าสิ่งที่พ่อพูด ลูกอาจจะไม่อยากฟัง แต่พ่อก็ต้องพูด อย่าให้ผู้ชายคนเดียวทำลายชีวิตครอบครัวที่เคยอบอุ่นของเรา ไม่มีพ่อแม่คนไหนที่ไม่หวังดีกับลูก อย่าตีค่าความหวังดีของแม่เค้าผิด”
รวีพรรณยังเงียบ แล้วรมณีก็เดินออกมาพร้อมกับแก้วน้ำส้ม รวีพรรณกับณรงค์หันไปมอง รมณีเอาแก้วน้ำส้มมาวางตรงหน้ารวีพรรณ
“ถ้าไม่อยากทานข้าว...ดื่มน้ำส้มให้หมดก็ยังดี แม่คั้นเองกับมือเลยนะ”
รวีพรรณมองรมณีรู้สึกผิดมากแล้วน้ำตาก็รื้นขึ้นมา รวีพรรณลุกขึ้นยืน ยกมือกราบแทบอกรมณี
“แม่คะ รวีขอโทษ...”
รมณีดีใจดึงรวีพรรณมากอด เธอกอดแม่แน่นแล้วก็ร้องไห้อย่างสุดอัดอั้น ณรงค์มองภาพตรงหน้าแล้วก็ยิ้มออกมา
“แม่ไม่โกรธลูกเลย เราเป็นครอบครัวเดียวกัน อย่าให้คนนอกมาทำให้เราต้องแตกคอกันเลยนะลูกนะ”
รมมณีพูดพลางลูบหัวลูกสาว รวีพรรณปล่อยโฮออกมาอย่างหนักเพราะกำลังเสียใจเรื่องพิทยาอยู่ รมณีกันไปยิ้มกับณรงค์ด้วยความสบายใจ

วันถัดมา ที่ร้านอาหาร รวีพรรณไหว้ศรีพิไลที่ยืนอยู่กับภูวดล
“ร้านตกแต่งได้น่ารักมากเลยจ๊ะหนูรวี”
“แถมอาหารยังอร่อยทุกอย่างเลยนะครับคุณแม่”
“พูดแบบนี้แสดงว่ามาทานบ่อย”
ภูวดลหันไปส่งยิ้มหวานให้รวีพรรณ จนเธอทำหน้าไม่ถูก รีบหันไปทางศรีพิไล
“เชิญที่โต๊ะดีกว่าค่ะ รวีให้เด็กจัดที่นั่งไว้ให้แล้ว”
รวีพรรณกำลังจะเดินนำศรีพิไลกับภูวดลไปทีโต๊ะ แต่พิทยากลับเข้ามาในร้าน รวีพรรณ ภูวดล ศรีพิไลผงะ ศรีพิไลจำพิทยาได้ พิทยาเห็นภูวดลกับศรีพิไลก็อึ้ง แต่ก็ยกมือไหว้ ศรีพิไลเชิดใส่ไม่สนใจ พิทยาเก้อ หันไปทางรวีพรรณ
“ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณ”
“รอเดี๋ยวนะคะ”
พิทยาพยักหน้า รวีพรรณพาภูวดลกับศรีพิไลไปนั่ง ภูวดลมองพิทยาไม่วางตา

ที่หลังร้าน รวีพรรณเดินมาหาพิทยาที่ยืนรออยู่
“พิทมาทำไม”
“ผมโทรหารวี แต่รวีไม่รับสาย ผมก็เลยต้องมาหารวีด้วยตัวเอง เมื่อวานผมเห็นรวีไปนะ”
รวีพรรณนิ่งเงียบ สีหน้าบึ้งตึง
“พิทเห็น”
“ครับ แต่ว่าตอนนั้นมันวุ่นๆ ผมก็เลยเรียกรวีไม่ทัน”
รวีพรรณสุดทน
“เลิกโกหกรวีซักที!”
พิทยาตกใจที่รวีพรรณเสียงดัง
“รวีเห็นพิทกับผู้หญิงคนนั้น...”
“มันไม่ใช่อย่างที่รวีเข้าใจ คุณแตแค่กอดแสดงความยินดีกับผม”
“แล้วพิทก็กอดเค้าตอบ”
พิทยาถึงกับจุกที่คอหอยพูดไม่ออก เธอพูดต่อ
“ถ้ารวีกอดแสดงความยินดีกับผู้ชายคนอื่นบ้าง พิทจะรู้สึกยังไง”
“ผมบอกรวีไปแล้วไงว่าผมกับคุณแตไม่มีอะไรกัน...ทำไมรวีไม่เชื่อ”
รวีพรรณสวนกลับทันทีจนพิทยาชะงัก
“รวีเคยเชื่อพิท! แต่ความเชื่อใจที่รวีมีให้พิท มันกลับทำร้ายรวีเอง อย่าให้รวีต้องเสียความรู้สึกกับพิทไปมากกว่านี้เลยนะคะ”
รวีพรรณโมโหจนน้ำตารื้น
“บางที...เราอาจจะต้องอยู่กับตัวเองกันซักพัก”
พิทยาใจหายวาบ
“ไม่นะรวี...!”
พิทยาจับแขนรวีพรรณทั้งสองแขน
“ผมขอร้องล่ะรวี อย่าทำแบบนี้ เราค่อยๆคุยกันสิครับ”
“ปล่อยค่ะ”
“ผมไม่ปล่อย!”
รวีพรรณพยายามแกะมือพิทยาออก แต่พิทยากลับดึงรวีพรรณที่น้ำตาไหลพรากมากอด
“ปล่อยนะพิท!”
ทันใดนั้นภูวดลเดินออกมา กระชากไหล่พิทยาให้ออกห่างจากรวีพรรณแล้วผลักเขาอย่างแรงจนเซ
“คุณรวีบอกให้ปล่อย ฟังไม่รู้เรื่องเหรอ”
รวีพรรณตกใจ พิทยาโมโหมาก
“นี่เป็นเรื่องระหว่างผมกับแฟนผม คุณไม่เกี่ยว”
“ยังมีหน้ามาพูดอีกว่าคุณรวีเป็นแฟนคุณ ที่ผ่านมาผมเห็นคุณใช้เวลาอยู่กับผู้หญิงคนนั้นมากกว่าคุณรวีซะอีก ทำไมคุณถึงทำกับคุณรวีแบบนี้ ทั้งๆที่คุณรวีรักคุณ คุณทำได้ยังไงห๊ะ !หรือว่าสุอาภาให้คุณได้ถึงใจกว่า”
พิทยากำมือแน่นเงื้อหมัดชกภูวดลเปรี้ยง!! รวีพรรณตกใจมาก ภูวดลหน้าหันเลือดซึมมุมปาก รวีพรรณหันไปตวาดพิทยาดังลั่น
“ออกไปจากร้านรวีได้แล้ว”
พิทยาอึ้ง หันไปมองรวีพรรณแววตาเสียใจและเจ็บปวด เธอจ้องหน้าเขาอย่างเอาจริง เขาเลยเดินออกไป รวีพรรณหันไปมองภูวดลด้วยสีหน้ารู้สึกผิด รีบเข้ามาดู
“เจ็บมากมั้ยคะ”
“ผมไม่เป็นไรครับ”
รวีพรรณมองภูวดลเป็นห่วง ภูวดลหันไปลอบยิ้มสะใจ

ภูวดลที่มีรอยช้ำที่มุมปาก เดินตามศรีพิไลที่กำลังโมโหเข้ามาในบ้าน
“ไอ้หมอนั่นชกลูกสองครั้งแล้วนะ ครั้งนี้แม่จะเอาเรื่องมัน”
“ไม่ต้องหรอกครับคุณแม่ เพราะว่างานนี้คนที่ชนะคือผม”
ศรีพิไลมองภูวดลอย่างแปลกใจ ภูวดลยิ้มอย่างมีความสุข

มุมหนึ่งในบ้านสุอาภา บวรมองพิทยาด้วยความตกใจ
“รวีขอแยกทางกับแกชั่วคราว!”
พิทยาพยักหน้า บวรถึงกับอึ้งไปเลย สุอาภาเดินผ่านมาเห็นและได้ยินเข้าพอดีก็หาที่แอบฟัง บวรพยายามให้กำลังใจพิทยา
“แค่แยกชั่วคราว แสดงว่ารวียังมีใจให้แกอยู่ อย่าเพิ่งคิดมาก”
“ไม่คิดมากไม่ได้หรอกพี่ใหญ่ ที่ผ่านมารวีเข้าใจผมมาตลอด แต่คราวนี้เค้าไม่เชื่อผม”
“แล้วเค้าไม่เชื่อแกเรื่องอะไร”
พิทยานิ่งไปซักพักบอก
“รวีคิดว่าผมกับคุณแต..มีอะไรกัน”

บวรตกใจ อึ้ง สุอาภายิ้มด้วยความดีใจมาก
ภายในร้านกาแฟยามบ่าย สุอาภาสีหน้ามีความสุขนั่งอยู่กับพราวพิไล

“ไงฝีมือฉัน...ได้ผลเกินคาด ตอนนี้ยัยรวีพรรณขอแยกทางกับนายพิทยาชั่วคราว และอีกไม่นาน เค้าต้องเลิกกัน!”
พราวพิไลมองสุอาภาอย่างเป็นห่วง
“แต..ฉันถามจริงเหอะ แกชอบคุณพิทรึเปล่า”
สุอาภาสำลักกาแฟ
“ถามอะไรบ้าๆ”
“ไม่รู้สิ อาจเป็นเพราะว่าแกตั้งใจมากเหลือเกิน ฉันไม่เคยเห็นแกจะเอาจริงเอาจังกับเรื่องไหนแบบนี้มาก่อน”
“ฉันยอมแพ้ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ เค้าไม่มีอะไรเลยนะพราว นอกจากจะเป็นคนดีซะเหลือเกิน ดีจนฉันกลายเป็นเพียงคนเลวๆที่เค้ายืนกรานกับป๋าว่าเค้าไม่อยากแต่งงานด้วย”
สุอาภามีแววตามีความเสียใจ
“งั้นขออย่างได้มั้ย”
“ถ้าให้ได้ก็จะให้”
“อย่าให้เป็นเพราะว่าแตแคร์เค้ามากเกินไป จนทนเห็นเค้าไปมีความสุขกับคนอื่นไม่ได้ ถึงทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เค้ามา เพราะเค้าไม่ใช่คนอย่างที่เราเคยคบหามานะแต คุณพิทยาเป็นคนหยิ่ง ความหยิ่งของเค้าจะทำลายแตเข้าจนได้ ถ้าเค้ารู้ว่าแตมีเจตนายังไงกับเค้า”
สุอาภาฟังพราวพิไลพูดแล้วก็อดคิดตามไปด้วยไม่ได้ แม้จะทำเป็นไม่สนใจก็ตาม
“แหมพราว..หมู่นี้ทำไมถึงคิดอะไรลึกซึ้งนัก ฉันไม่คุยกับแกแล้ว คุยแล้วเครียดไปดีกว่า”
สุอาภาพูดจบก็เดินฉับๆออกไป แต่สีหน้าดูจะกังวลใจอยู่ไม่น้อย พราวพิไลมองตามเพื่อนเป็นห่วง

มุมหนึ่งในบ้าน นพกำลังคุยโทรศัพท์กับหมอ ด้วยสีหน้ากังวลใจ
“ผมมีภาวะการเต้นของหัวใจผิดปกติ !!...แล้วต้องรักษายังไง”
นพยังไม่ทันฟัง...ก็เห็นบวรกับวรรณวดีเดินเข้ามาพอดี
“แค่นี้ก่อนนะหมอ”
นพรีบวางสาย หันไปทางบวรกับวรรณวดีที่มีท่าทางอึกอัก
“มีอะไรจะพูดกับป๋า”
บวรสะกิดให้วรรณวดีพูด
“พี่ใหญ่เล่าให้ต่ายฟังว่า รวีแฟนพิท บอกกับพิทให้ห่างกันซักพักค่ะ ต่ายคิดว่ามันอาจจะเกี่ยวกับแตค่ะป๋า”
นพชะงักและอึ้งไปทันที
“ถ้าไม่มีหลักฐาน ก็อย่ามาพูดใส่ร้ายน้องกันนะ”
บวรถอนใจ
“พวกเราไม่ได้ใส่ร้ายน้องนะครับป๋า พฤติกรรมของแตมันแปลกตั้งแต่ตอนที่ขอเข้าไปฝึกงานที่บริษัทแล้ว และหลังจากนั้น มันก็ทำตัวสนิทสนมกับพิทมาก ดีกับพิท อย่างชนิดที่เรียกว่ากลับจากหน้ามือเป็นหลังมือ”
“ป๋าก็รู้ว่ายัยแตไม่ใช่คนที่ทำดีกับคนอื่นง่ายๆ ก่อนหน้านี้แตก็ทั้งโกรธและเกลียดพิท อย่างกับอะไรดี”
นพคิดนิดนึงแล้วถาม
“เราสองคนคิดว่ายัยแตจงใจจะทำให้พิทมีปัญหากับแฟน”
บวรกับวรรณวดีมองหน้ากันแล้วก็เงียบก่อนจะพยักหน้าพร้อมกัน วรรณวดีมีสีหน้าเป็นกังวลมาก นพได้แต่ทอดถอนหายใจด้วยความคิดหนัก

นพมองรูปครอบครัว แต่สายตามองไปที่รูปพิทยาแล้วก็ครุ่นคิดอะไรออก

วันถัดมา เวลาเช้า พิทยาเดินมายืนข้างๆนพ นพหันมา
“อารู้เรื่องเธอกับหนูรวีแล้ว อาว่ามันถึงเวลาที่เธอต้องทำให้หนูรวีเห็นว่าเธอจริงจังกับเค้าซักที”
พิทยานิ่วหน้า
“อาจะไปสู่ของหนูรวีให้”
พิทยาอึ้ง นพพูดต่อ
“เงียบทำไม หรือเธอไม่ต้องการให้อาทำแบบนี้”
“ไม่ใช่ครับ ผมไม่นึกว่าคุณอาจะ...”
นพยิ้มอย่างรู้ใจ
“เพราะฉันเคยขอให้เธอแต่งงานกับยัยแตใช่มั้ย”
พิทยานิ่งไปซักพักแล้วก็พยักหน้า
“นั่นเพราะฉันคิดผิด การแต่งงานต้องเกิดจากคนสองคนที่รักกันไม่ใช่ถูกบังคับให้รักกัน”
พิทยาโล่งใจมากบอก
“ขอบพระคุณคุณอามากนะครับที่กรุณาผม”
นพยิ้มให้พิทยาอย่างใจดี

สุอาภาเดินเข้ามาในห้องพิทยาก็แปลกใจที่เขาไม่อยู่ แล้วไม่นานพิทยากับนพก็เดินมาที่หน้าห้อง
สุอาภาหันไปมองเห็นนพตบบ่าพิทยา
“เรื่องนั้น ฉันจะดูฤกษ์ให้ก่อน”
“ครับ”
สุอาภาเดินมา
“ดูฤกษ์เรื่องอะไรเหรอคะ”
นพกับพิทยาหันไปมองสุอาภา
“ป๋าจะไปสู่ขอหนูรวีให้พิทเค้าน่ะ”
สุอาภาตกใจหน้าถอดสี แล้วนพก็เดินออกไป สุอาภากำมือแน่นไม่พอใจ

สุอาภาจ้ำเดินตามเข้ามาในห้อง นพแปลกใจ
“ป๋าจะไปสู่ขอยายนั่นให้พิทเหรอคะ”
นพตกใจกับน้ำเสียงแตเลยปราม
“กระแต!”
“แตขอโทษค่ะ คือ..แตแปลกใจ พิทเค้าโดนบังคับรึเปล่า”
“ทำไมคิดแบบนั้น”
“แฟนเค้าไม่อยากให้แตเข้าไปตอแยกับพิทยังไงล่ะคะ ท่าทางเค้าขี้หึงจะตาย”
“ก็น่าให้เค้าหึงนี่น่า”
สุอาภาหลบตา นพสังเกตอาการ
“นี่แตไม่พอใจกับการแต่งงานของเค้ารึเปล่า”
“แตจะมีสิทธิ์อะไรไปไม่พอใจ เพราะมันไม่ใช่เรื่องของแต เค้ารักกันจะแต่งงานกัน มันก็เรื่องของเค้า ว่าแต่ป๋าเหอะ ฟาวล์รึเปล่าเรื่องที่อยากให้แตแต่งงานกับเค้า แต่กลับต้องไปขอผู้หญิงคนอื่นให้ลูกชายสุดที่รักของป๋าแทน”
“เพราะเรื่องนั้น ทำให้ป๋าตัดสินใจที่จะช่วยพิท อะไรที่ป๋าทำให้เค้าได้ ป๋าก็จะทำ ชีวิตทั้งชีวิตของพิทน่าสงสารมามากพอแล้ว”
สุอาภานิ่งไปซักพัก
“ไงป๋าก็ระวังตัวไว้ด้วย เพราะพ่อแม่ผู้หญิงเค้าไม่ค่อยจะพิศวาสพิท เค้าเป็นโรครังเกียจความจนอย่างแรง”
“ป๋าซะอย่าง ฝ่ายโน้นเรียกมาแพงแค่ไหน ก็สู้ขาดใจ”

สุอาภาทำเป็นยิ้มทั้งที่ในใจเจ็บปวดอยู่ลึกๆ
ภายในห้องเสื้อแต๋มตอนกลางวันบรรยากาศกำลังมาคุ สุอาภาหันขวับมาทางแต๋ม ด้วยสีหน้าเหวี่ยงเอาเรื่อง

“พี่แต๋มไม่มีชุดที่มันสวยกว่านี้เหรอไงคะ มีแต่ชุดอะไรก็ไม่รู้ โอ๊ย เซ็งเซ็งเซ็ง!”
ลูกค้าทั้งร้านหันมามองสุอาภาแล้วก็เดินออกไป
แต๋มถึงกับกลืนน้ำลายเอื๊อกกับอาการเหวี่ยงของสุอาภา
“คุณแตไปอารมณ์เสียจากที่ไหนมาฮะเนี่ย พูดซะลูกค้าออกจากร้านเจ๊ไปหมดแล้ว”
“ไม่มีลูกค้า เดี๋ยวแตเหมาทั้งร้านก็ได้ ไม่เห็นเป็นไรเลย”
แต๋มเหวอ สุอาภาจ้ำเดินเข้าไปดูด้านใน แต๋มพ่นลมหายใจส่ายหัวด้วยความเหนื่อยใจ
ระหว่างนั้นรมณีกับเพื่อนคุณนายเดินเข้ามา แต๋มฉีกยิ้มกว้าง...รีบเข้ามาต้อนรับ ยกมือไหว้
“สวัสดีค่ะคุณรมณี รอซักครู่นะคะ เดี๋ยวแต๋มเข้าไปเอาชุดที่ตัดเสร็จแล้วมาให้”
“จ๊ะ”
แต๋มเดินออกไป รมณีหันมาทางเพื่อน แต่เพื่อนกลับเห็นสุอาภาอยู่ที่ด้านในร้าน ก็เลยหันมาบอก
“นั่นมันยัยสุอาภาที่เป็นข่าวบ่อยๆนี่”
รมณีหันขวับไปมองพอเห็นสุอาภาก็เบ้หน้ารังเกียจขึ้นมาทันที ก่อนจะหันมาทางเพื่อน ตัวเองเลยยืนหันหลังให้สุอาภา
“ตัวจริงเค้าดูสวยกว่าในรูปข่าวที่ลงอีกนะ”
“สวยแต่รูป จูบไม่หอมเคยได้ยินมั้ย”
เพื่อนนิ่วหน้ามองสงสัย รมณีพูดต่อ
“ยัยนี่พ่อตามใจ ผิดก็กลายเป็นถูก...ก็เลยเสียคน แล้วก็อาจจะเสียตัวไปแล้วด้วยก็ได้”
รมณีส่งน้ำเสียงเยาะๆเพื่อนฟังแล้วก็ตาโต อยากรู้ต่อทันที
“เมาท์”
“เมาท์ที่ไหน เรื่องจริงล้วนๆ นี่ถ้าฉันมีลูกเป็นยัยนั่น ฉันคงจะแทบบ้าตาย เพราะวันๆมีแต่เรื่องผู้ชาย” สุอาภาที่ยืนอยู่หลังราวแขวนเสื้อผ้าได้ยินทุกอย่างก็กำมือแน่นด้วยความไม่พอใจ หันไปเห็นแต๋มเดินมาก็นึกอะไรออกทันที
“พี่แต๋มคะ...ช่วยออกแบบเสื้อให้แตหน่อยนะคะ แตจะใส่ไปงานแต่งงานพี่ชาย”
สุอาภาจงใจพูดเสียงดังให้รมณีได้ยิน แล้วมันก็ได้ผล เพราะรมณีได้ยินจริงๆ
แต๋มประหลาดใจ
“พี่ชาย คุณใหญ่จะแต่งงานเหรอคะ”
“ไม่ใช่พี่ใหญ่ค่ะ แต่เป็นพี่ชายอีกคนของแต ชื่อพิทยา”
รมณีแทบสะอึกตั้งใจฟังทันที
“ป๋ากำลังจะไปสู่ขอผู้หญิงให้เค้า แตก็เลยอยากตัดชุดไว้แต่เนิ่นๆ งานนี้จัดเต็มนะคะ แตบอกได้เลยว่าเป็นงานช้างแห่งปี”
“ขนาดนั้นเลยเหรอคะ เออ..พี่ถามได้มั้ยเอ่ยว่าเจ้าสาวเป็นใคร”
“คุณรวีพรรณ..ลูกสาวคุณรมณียังไงคะพี่แต๋ม”
แต๋มตกใจยกมือขึ้นมาปิดปาก พร้อมกับปรายตามองรมณีที่ยืนกำมือแน่นอยู่กับกลุ่มเพื่อน
เพื่อนหันไปมองรมณีด้วยความแปลกใจมาก
“ลูกเธอกำลังจะแต่งงานเหรอรมณี”
สุอาภาหันไป...ทำเป็นประหลาดใจที่เพิ่งเห็นรมณีก็เดินเข้าไปหาใกล้ๆพร้อมยกมือไหว้
“สวัสดีค่ะคุณรมณี แหมบังเอิ๊ญบังเอิญนะคะ”
รมณีไม่ชอบหน้าแต่จำต้องรับไหว้ แต๋มมองแบบรู้สึกไม่ค่อยดี
“มาตัดชุดใส่วันงานของลูกสาวเหมือนกันเหรอคะเนี่ย”
รมณีฉุนอย่างแรง
“อย่ามาพูดมั่วๆ”
สุอาภาทำลอยหน้าลอยตา
“ไม่มั่วนะคะ คุณพ่อฉันกำลังหาฤกษ์เข้าไปสู่ขอคุณรวีพรรณ คุณนี่ใจกว้างเหมือนแม่น้ำ น่านับถือจริงๆ รางวัลคุณแม่ดีเด่นปีนี้น่าจะตกเป็นของคุณ”
รมณีแทบจะเก็บสีหน้าไว้ไม่อยู่ โกรธจนตัวสั่น สุอาภาทำเป็นแปลกใจ
“อย่าบอกนะคะว่าไม่รู้”
สุอาภาแกล้งปิดปากแล้วพูดต่อ
“ตายจริง! ฉันปล่อยไก่ไปตัวเบ้อเริ้ม ถ้าถึงวันที่คุณพ่อพาพิทไปสู่ขอคุณรวีพรรณเมื่อไหร่ คุณก็ทำเป็นไม่รู้เรื่องนะคะ”
สุอาภายิ้มพร้อมยกมือไหว้รมณีแล้วก็เดินออกไป รมณีกำมือแน่นด้วยความโมโหมาก หันไปเห็นเพื่อนๆมองมาก็ยิ่งทำหน้าไม่ถูก

เวลาเย็น ภายในบ้าน รมณีหันมาทางณรงค์ด้วยความโมโหมาก
“ยังไงฉันก็ไม่ยอมยกยัยรวีให้มันแน่ ให้ฉันตายไปเสียก่อนยังดีกว่า ในเมื่อมองเห็นทางข้างหน้าว่าลูกเราต้องตกระกำลำบากแค่ไหน นายนั่นน่ะมีอะไรบ้าง มรดกที่แม่มันทิ้งให้ก็ไม่มี เงินเดือนที่ทำมาหาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องก็ไม่พอยาไส้ อีกหน่อยถ้ามีลูกด้วยกัน ลูกไม่ต้องเกิดมาแร้นแค้นเหรอคะ”
“ใจเย็นก่อนคุณ”
“ฉันเย็นไม่ไหวแล้ว ขนาดจะนั่ง ยังนั่งไม่ติด เกิดปุบปับมันมาสู่ขอยัยรวีซะวันนี้พรุ่งนี้ เราจะทำยังไง”
“ผมว่าเราต้องให้ลูกไปที่ไหนไกลๆซักพัก”
“จะไปไหนได้ แกต้องทำงาน”
“ผมเจอคุณวิธาน เจ้านายรวีวันก่อน เค้าบอกว่าเค้าต้องไปดูงาน พอดีเลขามีปัญหาทำท่าจะไปด้วยไม่ได้ เค้าก็บ่นอยู่ว่าจะหาใครไปแทน เพราะไปหลายวัน ผมจะลองโทร.บอกคุณวิธานให้ยัยรวีไปช่วย ผมว่าไม่น่ามีปัญหา แต่คุณก็อย่าเพิ่งกระโตกกระตากไป รอให้ผมคุยกับคุณวิธานก่อน”
รมณีพยักหน้า ยิ้มด้วยความสบายใจ พลางคิดอะไรได้บางอย่าง

ภายในออฟฟิศ รวีพรรณนั่งตรงข้ามวิธาน
“ผมอยากให้คุณไปดูงานกับผมที่ต่างประเทศ หวังว่าคุณจะไม่ขัดข้อง”
รวีพรรณสีหน้าดูลังเลนิดหน่อย มองหน้าวิธาน
“ไปที่ไหนคะ”

ที่บ้านภูวดล….ภูวดลนั่งอยู่กับรมณี
“อเมริกา”
“ใช่จ๊ะ ยัยรวีต้องไปทำงานแทนเลขาของบริษัทที่มีปัญหาไปไม่ได้ พอดีรวียังมีวีซ่าอเมริกาอยู่ก็เลยต้องไปแทน”
ภูวดลยิ้มรับพลางลอบหันไปหรี่ตาร้ายกาจ

ภายในร้านอาหาร สินีนาฎเดินมายืนข้างๆรวีพรรณ
“ไปน่ะดีแล้วรวี จะได้เปลี่ยนบรรยากาศ เธอจะได้สบายใจขึ้น”
“ฉันควรบอกพิทรึเปล่า”
“ไม่ต้องบอก ถือเป็นการสั่งสอนที่พิทคิดนอกใจเธอ”
รวีพรรณนิ่งไปซักพักแล้วก็พยักหน้า สินีนาฎยิ้มมุมปากมีความสุขที่เห็นพิทยากับรวีพรรณมีปัญหากัน

หลายวันต่อมา ที่ไซต์งานก่อสร้าง บวรกำลังคุยกับผู้รับเหมา พิทยาที่ดูเหม่อๆ ยืนอยู่ด้วย บวรพูดกับผู้รับเหมา
“เอาตามนั้นแหละนะ”
ผู้รับเหมาพยักหน้ารับแล้วเดินออกไป บวรหันไปเห็นสีหน้าพิทยาก็พอจะรู้ว่าเป็นอะไร
“พิท...พิท! กลับบ้านไปพักเถอะ”
“ผมไม่ได้เป็นอะไร”
“ร่างกายไม่เป็น แต่ใจ..ป่วยหนัก”
พิทยาถอนหายใจ บวรถาม
“บอกรวีเรื่องที่ป๋าจะไปสู่ขอเหรอยัง”
“ยังครับ ผมไม่รู้ว่ารวีจะรับโทรศัพท์ผมรึเปล่า”
“นี่มันก็ผ่านมาหลายวันแล้ว ฉันว่ารวีคงใจเย็นลงแล้วล่ะมั๊ง”
“ไม่รู้สิครับ ตั้งแต่คบกันมา รวีไม่เคยเป็นแบบนี้ ผมก็เลยกลัว”
“แกอย่ามานั่งคิดเอาเองแบบนี้ อย่างที่ฉันเคยพูด...แยกกันชั่วคราว ไม่ได้แปลว่าเลิกกัน”
บวรตบบ่าพิทยาให้กำลังใจ...แล้วก็เดินออกไป พิทยานิ่งคิด

ที่มุมหนึ่งในออฟฟิศ พิทยามองหน้าสินีนาฎสีด้วยความหน้าประหลาดใจ
“รวีกำลังจะไปทำงานที่อเมริกา”
สินีนาฎแกล้งทำเป็นไม่รู้
“ใช่... นี่รวีไม่ได้บอกพิทเหรอ”
“ไม่ได้บอก”
“ตายจริง ท่าทางครั้งนี้รวีจะโกรธพิทมาก พิทที่เป็นแฟนกลับไม่รู้แต่คนที่รู้ดันเป็นคุณภูวดล ถ้ามีอะไรให้สิช่วยบอกมาได้เลยนะ ยังไงพิทกับรวีก็เป็นเพื่อนที่สิรักด้วยกันทั้งคู่”
สีนีนาฎจับแขนพิทยาที่พยักหน้าหน้าเศร้า แล้วลอบยิ้มดีใจที่เห็นความร้าวฉาน แล้วพิทยาก็นึกอะไรออก
“ถ้างั้นสิช่วยผมทีว่าตอนนี้รวีไปไหน ยังไงวันนี้ผมต้องคุยกับเค้าให้ได้”
สินีนาฎเซ็งไปในทันที

สุอาภาเปิดประตูเข้ามาในห้องทำงานของพิทยาแต่เขาไม่อยู่ เธอแปลกใจ
“ไปไหนของเค้า”
สุอาภาหันไปเห็นบวรเดินมา ก็รีบเดินไปหา
“พี่ใหญ่...พิทอยู่ไหน”
“เห็นว่าจะไปหารวี พี่ว่าเดี๋ยวก็คงคืนดีกันแล้วแหละ”
บวรพูดจบก็เดินออกไป แต่สุอาภากังวลขึ้นมาทันที

ภายในห้างหรู ภูวดลกับรวีพรรณเดินดูเสื้อหนาวด้วยกัน
“ขอบคุณนะคะที่มาซื้อเสื้อเป็นเพื่อนฉัน ความจริงคุณไม่จำเป็นต้องทำตามที่คุณแม่ฉันบอกทุกอย่างก็ได้”
“ผมเป็นคนไม่ทำอะไรตามใจใคร นอกจากตัวเอง ผมเต็มใจที่จะมาเป็นเพื่อนคุณ”
รวีพรรณนิ่งไป ภูวดลหันไปเห็นเสื้อหนาวตัวหนึ่ง ก็หยิบออกมา
“ตัวนี้มั้ยครับ เนื้อผ้าแบบนี้ลมไม่เข้า แถมยังไม่หนักด้วย”
“ลองดูก็ได้ค่ะ”
“ผมช่วย”
ภูวดลถือเสื้อให้รวีพรรณใส่ รวีพรรณใส่เสร็จ..หันไป ทำให้หน้าใกล้กับภูวดล เขามองเธอด้วยแววตาวาบหวาม พิทยายืนอยู่พอดี รวีพรรณหันไปเห็นก็ผงะ ภูวดลหันไปเห็นพิทยาก็เซ็ง
รวีพรรณ รีบผละออกห่างภูวดลทันควัน

อ่านละคร แรงปรารถนา ตอนที่ 4/3 วันที่ 8 ม.ค. 56

ละครแรงปรารถนา บทประพันธ์โดย อาริตา
ละครแรงปรารถนา บทโทรทัศน์ : ปณธี
ละครแรงปรารถนา กำกับการแสดง : ยุทธนา ลอพันธ์ไพบูลย์
ละครแรงปรารถนา แนวละคร : โรแมนติก - ดราม่า
ละครแรงปรารถนาดำเนินงานสร้าง : บริษัทละครไท จำกัด โดย หทัยรัตน์ อมตวณิชย์
ละครแรงปรารถนา ออกอากาศ : ทุกวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 20.30 น. ช่อง 3 (ต่อจากเหนือเมฆ)
ที่มา manager