@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร ตะวันฉายในม่านเมฆ ตอนที่ 8-9 วันที่ 6 ม.ค. 56

อ่านละคร ตะวันฉายในม่านเมฆ ตอนที่ 8

ตะวันฉายตกใจ เมฆแกล้งยื่นหน้ามาจะจูบ เธอ ถอยกรูด ทันใดเสียงของหล่นโครม ทั้งสองหันมองเห็นเก่งยืนตะลึงตะกร้าผ้าหล่นจากมือปากคอสั่นถามว่าเขาเป็นชายรักชายหรือ เมฆตอบว่าใช่ ตะวันฉายตาเหลือกรีบวิ่งหนีไปด้วยความอับอาย เมฆสะใจที่ได้แกล้ง

หลังจากนั้น เมฆก็แกล้งพูดจาหยอกล้อตะวันฉายตลอด อิงฟ้าไม่พอใจ พอเห็นตะวันฉายกับหมอกรดน้ำผักกาดที่ปลูกด้วยกัน หมอกตื่นเต้นดีใจที่เห็นมันโตขึ้นมา อิงฟ้าไปซื้อผักกาดใส่กระถางมายื่นให้ลูก แล้วบอกให้เอานี่ไปส่งครู ไม่ต้องไปรอที่ปลูกให้เสียเวลา ตะวันฉายแย้ง

“เด็กรุ่นใหม่เขาปลูกฝังเรื่องโตไปไม่โกง คุณไม่น่าทำแบบนี้เลยนะครับ ยิ่งกว่านั้นแล้วความภูมิใจของคุณหมอกล่ะครับ ความสุขในการดูแลต้นไม้มันก็ขาดหายไป การปลูกผักกาดมันไม่ได้แค่ผักกาด แต่คุณหมอกจะได้ความรับผิดชอบ ความรักในธรรมชาติ ได้อะไรอีกเยอะแยะที่คุณน่าจะเข้าใจ”



“นี่นายกล้าดีมาสั่งสอนฉันเลยเหรอ หมอกครับ หมอกเลือกว่าจะเอาอะไร ระหว่างผักกาดสวยๆของแม่ กับผักกาดที่ซันปลูกให้ แม่ดูแล้วไม่รู้ว่ามันจะโตได้สวยเท่านี้หรือเปล่า”

หมอกมองแล้วคิด “ปลูกกับพี่ซันสนุกกว่า หมอกได้รดน้ำต้นไม้เองด้วยครับ”

อิงฟ้าโกรธมาก เดินกลับเข้าบ้าน ทิ้งกระถางผักลงขยะ หมอกน้ำตาปิ่ม ตะวันฉายกอดปลอบ พาหมอกอาบน้ำให้สะอาดแล้วค่อยไปง้อคุณแม่...พออาบน้ำเสร็จ เธอก็พาหมอกลงมา สวนกับเมฆ เขาแกล้งกระซิบ ให้เธอไปอาบน้ำให้เขาบ้าง เธอตอกกลับ

“ผมกำลังจะไปทำเรื่องดีๆ ไม่มีเวลามาทำเรื่องไร้สาระหรอก”

เมฆฉงน เดินตามแอบดู เห็นตะวันฉายพาหมอกไปขอโทษอิงฟ้า เขาจึงได้รู้เรื่องผักกาดก็อมยิ้ม ตะวันฉายหันมาเจอตกใจ เขาชมว่าเธอเหมาะที่จะเป็นแม่คน เธอโต้ว่าตนเป็นผู้ชาย

“เอ้า...สมัยนี้ผู้ชายกลายเป็นผู้หญิงเยอะออก นายนี่ล่ะเหมาะเหม็งเลย”

“ผมจะกลายเป็นผู้หญิงได้ไง คุณนั่นแหละ เพี้ยนไปคนเดียวเถอะ” ตะวันฉายเดินหนี

ooooooo

คืนนั้น หมอกฝันร้ายร้องไห้มาเคาะห้องตะวันฉาย เธอจึงพากลับไปนอนกล่อมจนหลับ ออกมาเจออิงฟ้าที่แต่งชุดนอนบางเบารอคอยเมฆอยู่ พอปะหน้ากัน อิงฟ้าจึงพูดขึ้นว่า ขอบใจที่ดูแลลูก แต่สำหรับเมฆตนไม่ยอมแพ้ เพราะตนเชื่อว่าที่เขาทำกับเธอ แค่ประชดตนเท่านั้น

หลังจากเมฆ เอวา และนิคเล่นดนตรีเสร็จ มีโปร– ดิวเซอร์จากนิวยอร์กมาติดต่อให้นิคเข้าสังกัด ไปอัดเสียงที่นั่น นิคดีใจ เมฆพลอยยินดีด้วยแต่เอวากลับรู้สึกหวิวๆ คืนนี้เธอจึงนั่งดื่มอยู่ที่ผับจนเมามาย บาเทนเดอร์โทร.ตามนิคให้มาพาเธอกลับ นิคแปลกใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ

“เป็นอะไร ก็แค่อยากจะฉลอง” เอวาเสียงอ้อแอ้

“ฉันเบื่อกับอาการที่แกต้องปิดบังเรื่องอะไรต่อมิอะไรเต็มทีแล้วว่ะ ถ้าแกไม่พูดความจริง แกก็อยู่คนเดียวไปละกัน”

เอวาร้องไห้โฮ “ก็นั่นแหละที่ฉันไม่อยากกลับบ้าน ฉันไม่อยากอยู่คนเดียว กลับไปก็เหงา ฉันไม่มีใครเลย”

นิคอึ้งกอดปลอบ และนั่งเป็นเพื่อนเธออยู่ริมน้ำจนเห็นว่าสร่างเมาเขาจึงถามอีกครั้ง

“เอวา...แกอย่าโกรธฉันเลยนะ ฉันรอฟังแกระบายเรื่องในใจของแกมาทั้งคืน แต่แกก็ไม่พูดเรื่องนี้เลย ที่แกเมาเละเมื่อคืน จริงๆแล้วแกเฮิร์ทเรื่องพี่ยุทธใช่หรือเปล่า”

เอวาตอบไม่ถูก นิคจึงถามมีเรื่องอะไรอีก เธอตัด สินใจพูดออกมา “ใช่...ฉันอกหัก ฉันรู้ว่าเรื่องฉันกับพี่ยุทธมันเป็นไปได้ยาก แล้วตอนนี้ฉันก็รู้สึกเหมือนแกกำลังจะทิ้งฉันอีกคน ฉันเลยทำใจไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้ไม่อยากให้แกไปนะ มันสับสนไปหมด ฉันไม่รู้ว่าฉันเป็นบ้าอะไร”

นิครับปากไม่มีวันที่เขาจะทิ้งเธอ เอวาแย้งถ้าเขาไม่ไปเมืองนอกเพราะตน ตนก็รู้สึกผิดอีก นิคขอเป็นคนตัดสินใจเอง เอวานึกได้ว่าเมื่อคืนนิคร้องเพลงให้ฟัง จึงขอเขาอัดเพลงนั้นให้ นิคแอบดีใจที่แม้เอวาจะเมายังฟังเพลงที่เขาแต่งเพื่อเธอรู้เรื่อง...

เมฆกลับบ้านเข้าห้องเตรียมตัวอาบน้ำ อิงฟ้ามาเคาะเรียก เขาคว้าเสื้อคลุมมาสวมไปเปิดประตู อิงฟ้าโถมเข้ากอดและยั่วยวนจนเขาเกือบเคลิ้ม อิงฟ้าขอร้องอย่าแกล้งทำตัวเป็นเกย์อีก

“ฮึ...บางทีที่ผมทำบ้าๆกับซัน มันอาจจะทำให้ผมมีความสุขกว่าการอยู่กับฟ้าก็ได้นะ”

อิงฟ้าผงะ เมฆฉวยโอกาสแกะมือเธอแล้วเผ่นออกมา ไปเคาะห้องตะวันฉาย เธอสะดุ้งตื่นคิดว่าเป็นหมอกจึงรีบมาเปิดประตู พอเห็นเมฆนุ่งบ็อกเซอร์มีเสื้อคลุมหลวมๆก็ปิดตาร้อง

“อ๊าย...ผีเปรต น่ากลัวกว่าผีผักกาดอีก”

เมฆเอ็ดให้เงียบแล้วผลักเธอเข้าห้องปิดประตูล็อก ตะวันฉายโวยวายว่าเขาเข้ามาสภาพนี้คิดจะทำอะไร เมฆขยับเสื้อผ้าให้เข้าที่แล้วบอกว่าขอนอนห้องนี้ด้วย ไม่ทันไร เสียงอิงฟ้าเคาะเรียก ตะวันฉายจึงรู้แล้วว่าเขาหนีใครมา แต่ก็บอกว่าเขาน่าจะไปนอนกับแฟน

“จำไม่ได้เหรอ เมื่อกลางวันฉันเพิ่งบอกว่าเราชอบกัน เพราะฉะนั้นคนรักกันก็คือแฟนกัน” ตะวันฉายว่าเขามั่ว “มั่วที่ไหน เดี๋ยวก็เนียนกันไปเองแหละ ตกลง คืนนี้ฉันนอนนี่นะแฟนหนุ่ม” ว่าแล้วเมฆก็โดดขึ้นนอนบนเตียง

ตะวันฉายโกรธแต่ทำอะไรไม่ได้ จึงเอาโน้ตบุ๊กออกมานั่งทำงานไม่กล้านอน สุดท้ายก็ผล็อยหลับคาเครื่อง เมฆตื่นมาอุ้มเธอไปนอนบนเตียง แล้วมานั่งอ่านนิยายของเธอ เขาเขียนคำแก้ไขไว้ด้วยตัวสีแดงพร้อมคำอธิบายจนจบ

วันรุ่งขึ้น ตะวันฉายตื่นขึ้นมาพบว่าเมฆนอนอยู่ข้างๆก็ตกใจ สำรวจตัวเองว่าทุกอย่างบนร่างกายอยู่ครบรวมทั้งแว่น จึงชะโงกไปมองหน้าเขาใกล้ๆ จู่ๆเมฆก็แกล้งละเมอดึงเธอเข้าไปกอด เธอตกใจดิ้นรนร้องให้ปล่อยจนเหนื่อยหอบ สักพักเมฆลืมตาขึ้นมาทำตกใจสำรวจตัวเองว่าเธอทำอะไรตน ตะวันฉายทั้งโกรธทั้งอายผลักเขาแทบตกเตียง ไล่ให้กลับออกไปได้แล้ว

ooooooo

อ่านละคร ตะวันฉายในม่านเมฆ ตอนที่ 9

อิงฟ้าเห็นเมฆเพิ่งออกจากห้องตะวันฉายก็ตกใจ รีบถามว่าเขานอนในห้องนี้ทั้งคืนหรือ เมฆพยักหน้ารับยิ้มๆอย่างสะใจ...ตะวันฉายเก็บที่นอนเสร็จ จะเก็บคอมจึงเห็นว่านิยายของตนมีการแก้ไขพร้อมคำอธิบายเอาไว้เป็นตัวหนังสือสีแดง เธอถึงกับทึ่ง ที่เขาอ่านมันจนจบ

จากนั้น ตะวันฉายมาปลุกหมอกอาบน้ำแต่งตัว หมอกเอาแต่คุยด้วยความดีใจ ที่วันแม่ปีนี้ตนจะมีแม่ไปอวดเพื่อนๆที่โรงเรียน ตะวันฉายแกล้งขอไปด้วย หมอกตอบว่าพี่ซันไม่ใช่แม่จะไปได้อย่างไร เธอถึงกับสะอึกแอบยิ้มเศร้าๆ

ในเช้าวันนั้น ยุทธการได้รับแฟ้มรายงานจากจ่าสม มีภาพหญิงสาวชื่อเอ็มม่า ที่ระบุว่าเป็นคนติดต่อซื้อบ้านให้เฮลมุท ชื่อไทยของเธอคือ...อิงฟ้า พิพัฒนพงษ์สกุล เขาชะงักเงยหน้าถามจ่าสมว่าแน่ใจหรือ จ่าสมพยักหน้าเศร้าๆแต่เหมือนต้องหักใจ

“นามสกุลเดียวกับคนที่หมวดให้ผมตามหาตัว นายธีรภพ พิพัฒนพงษ์สกุล เป็นสามีของอิงฟ้า ทั้งสองแต่งงานกันเมื่อห้าปีที่แล้ว พอบริษัทของธีรภพล้มละลาย อิงฟ้าเลยเดินทางไปเยอรมนีและอยู่ที่นั่นจนกลับมาเมืองไทยเมื่อสองเดือนที่แล้ว”

“แล้วนายธีอะไรนั่นล่ะ”

“เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุในช่วงที่บริษัทล้มละลาย ตอนหลังน้องชายคือคุณนภทีป์เข้ามารับช่วงต่อ แล้วยังรับเลี้ยงลูกของธีรภพกับอิงฟ้า ชื่อเด็กชายธีรดล ด้วยครับ”

ยุทธการถึงกับอึ้งกับข้อมูลที่เพิ่งรับรู้ ได้อ่านข้อมูลการตายของธีรภพและสาเหตุการล้มละลายของเขา อีกเรื่องที่ทำให้ต้องหนักใจ คืออิงฟ้าเกี่ยวข้องกับพวกค้า ยาเสพติดข้ามชาติ ไม่รู้ว่าธีรภพและเมฆเกี่ยวข้องด้วย หรือไม่... ยุทธการครุ่นคิดอย่างหนักแล้วลองถามจ่าสม

“จ่า ถ้ามีคนคนหนึ่งเขาเฝ้ารอจะเจอคนที่เขารักมาก แต่เรารู้ว่าคนๆนั้นตายไปแล้ว เป็นจ่า จ่าจะบอกเขาไหม”

“ถ้าเป็นผม ผมจะเลือกเจ็บแรง แต่จบเร็ว...ชีวิตของเขาจะได้ดำเนินต่อไงครับ ความจริงบางอย่างอาจจะไม่ให้ความสุขกับเรา แต่มันก็คือความจริง รู้ช้ารู้เร็วมันก็เปลี่ยนความจริงไปไม่ได้”

ยุทธการเห็นด้วย ขอบคุณจ่าสมแล้วผลุนผลันออกไป

ooooooo

ในขณะที่อิงฟ้าเห็นตะวันฉายรดน้ำผักกาดให้หมอกก็หมั่นไส้จะเดินหนี พอดีเมฆกลับมา จึงหันมายืนยิ้มรอ เมฆลงจากรถยิ้มให้ แต่เดินเลยไปหาตะวันฉาย ทักว่าดูแลผักกาดให้ลูกของเราหรือ ตะวันฉายเคืองจะเลี่ยงหนี เขาเข้ามาขวาง เธอกระซิบด้วยน้ำเสียงดุ

“คุณเมฆ ผมว่าคุณเล่นเกินไปแล้วนะครับ”

เมฆโต้ว่าเธอต่างหากที่เล่นเกินไป ตะวันฉายงง เมฆเปลี่ยนเรื่องสั่งให้เธอไปเก็บของย้ายมาอยู่ห้องเดียวกับตน เขาดึงแขนเธอ “ฉันชอบอยู่ก่อนแต่ง ไป... ฉันช่วยเก็บของ”

อิงฟ้าสุดทน เข้ามาขวาง “เมฆ ฟ้ารู้ว่าเมฆต้องการประชดฟ้า เมฆอาจจะได้ความสะใจ แต่เมฆไม่มีความสุขหรอก ฟ้ารู้เมฆไม่ใช่เกย์”

“ผมก็ไม่ใช่ครับ” ตะวันฉายโพล่งขึ้น เมฆเหล่ที่เธอไม่ช่วยกันบ้าง

อิงฟ้าขอร้องให้เมฆกลับมารักกับตนเหมือนเดิม เขายืนกราน มันสายไปแล้ว ตอนนี้ตนรักซัน... ตะวันฉายสะดุ้ง เมฆยืนยันอีกครั้ง อิงฟ้าร้องลั่นไม่จริง เขาส่ายหน้าคิดจะทำให้เธอเชื่อจึงดึงตะวันฉายเข้ามาจูบต่อหน้าต่อตา ชั่วครู่ก็ปล่อย

“ถ้ายังจะคิดว่าผมโกหกอีกก็ตามใจนะ” เมฆยิ้มหวานให้ตะวันฉาย

แต่เธอยืนตาค้างแล้วเป็นลมร่วงลง เมฆตกใจเข้าอุ้มเธอไปนอนที่โซฟาห้องทำงาน ปฐมพยาบาลอย่างห่วงใย อิงฟ้ายืนมองด้วยความน้อยใจ แล้วมาร้องไห้ต่อหน้ารูปธีรภพในห้อง

ตะวันฉายรู้สึกตัวขึ้นมา เห็นหน้าเมฆอยู่ใกล้ๆก็ตกใจพรวดพราดลุกขึ้น ผลักเขาออกห่าง

“คุณเมฆ...คุณทำแบบนี้ทำไม”

“ฉันขอโทษ นายโกรธมากเลยเหรอ”

“สำหรับผม การที่เราจะจูบกับใครสักคนมันสำคัญมาก มันต้องมาจากความรู้สึกที่มีต่อกัน คนเห็น แก่ตัวไม่นึกถึงคนอื่น คนไม่มีหัวใจอย่างคุณน่ะ ไม่มี วันเข้าใจหรอก”

“นายรู้ได้ไงว่าฉันไม่มีหัวใจ” เมฆพรั่งพรูความเจ็บช้ำ “ฉันเคยให้หัวใจกับคนคนหนึ่ง ให้เขาหมดทั้งใจ แต่ที่ฉันได้รับกลับมามันคืออะไรรู้ไหม การทรยศหักหลังไง นายเคยโดนไหม คนที่รักที่สุดหักหลัง คนที่รักที่สุดทรยศ” เมฆเดินเข้ามาจ้องหน้าตะวันฉาย “ตอนนี้ที่ฉันเกลียดและกลัวที่สุดก็คือความหลอกลวง ไม่จริงใจโกหกกัน ถ้าวันหนึ่งนายตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าอะไรๆรอบตัวล้วนเป็นเรื่องโกหก นายจะไม่พูดอย่างนี้”

“เอ่อ...คุณเมฆ...เอ่อ คือ ผม...”

เมฆดันตัวตะวันฉายออกไปจากห้องแล้วปิดประตูล็อก เธอเคาะเรียกเท่าไหร่เขาก็ไม่เปิด เป็นครั้งแรกที่ตะวันฉายรู้สึกร้อนรนกับท่าทีเฉยชาของเมฆ เธอวิ่งออกมานอกบ้านเพื่อมองเขาทางหน้าต่าง แต่เขาก็ปิดม่าน เธอไม่รู้จะทำอย่างไร ได้แต่นั่งเศร้าอยู่หน้าห้อง

จนบ่ายคล้อย เมฆเปิดประตูออกมาเห็นตะวัน– ฉายอยู่หน้าห้องก็ถามเรียบๆว่าทำอะไร เธอรีบเอ่ยปากขอโทษที่พูดไม่ดี เขากลับบอกว่าเขาต่างหากที่ต้องขอโทษ

“เอาเป็นว่าเราเจ๊ากัน คุณเมฆจะทานกลางวันเลยไหมครับ”

เมฆส่ายหน้าเดินไป ตะวันฉายวิ่งตามถามจะไปรับหมอกใช่ไหม ตนขอไปด้วย

“ไม่ต้อง...”

“เฮ้อ...คุณเมฆครับ อย่าเป็นแบบนี้เลย”

“ตกลงนายจะเอาไง ตอนนี้ฉันก็ไม่ยุ่งกับนายแล้ว ไม่พอใจอีกเหรอ”

“แต่คุณมาโกรธผมอ่ะ”

“ก็นายมาด่าฉันนี่”

สองคนเถียงกันไปมา ตะวันฉายขอให้เขากลับมาเหมือนเดิม เมฆยิ้มกวนๆ ถ้าอยากให้เหมือนเดิมต้องเป็นแฟนกัน และคืนนี้ก็นอนด้วยกัน

“คุณนี่มันได้คืบจะเอากิโลเมตรเลยนะเนี่ย”

เมฆจ้องตาเธอรอคำตอบ ตะวันฉายเออออแต่ขอเป็นแฟนต่อหน้าอิงฟ้าเท่านั้น เขาอมยิ้มโอบคอเธอไปขึ้นรถเพื่อรับลูกของเรา พลัน...ยุทธการโทร.เข้ามา บอกว่ามีเรื่องสำคัญเกี่ยวกับธีรภพ ตะวันฉายตกใจ รับปากไปพบทันที เมฆน้อยใจที่ตะวันฉายเปลี่ยนใจไปพบยุทธการ

ooooooo

พอได้เห็นแฟ้มเกี่ยวกับธีรภพ ตะวันฉายนิ่งอึ้ง ไม่ได้เสียใจกับการตายของเขาแต่ตกใจที่หมอกเป็นลูกชายเขากับอิงฟ้า แล้วเมฆเกี่ยวข้องอย่างไรกับอิงฟ้า ยุทธการให้ตะวันฉายรีบออกมาจากบ้านเมฆ เธอขอเวลาสักหน่อย มันกะทันหันเกินไป

อ่านละคร ตะวันฉายในม่านเมฆ ตอนที่ 8-9 วันที่ 6 ม.ค. 56

ตะวันฉายในม่านเมฆ บทประพันธ์โดย ภาวิน
ตะวันฉายในม่านเมฆ บทโทรทัศน์โดย
กฤษณ์ มงคลเกษม,พิมพ์พชา รุ่งประพันธ์,วิวัฒน์ กฤษณาเวศน์
ตะวันฉายในม่านเมฆ กำกับการแสดงโดย ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติ
ตะวันฉายในม่านเมฆ ดำเนินการผลิต ณัฐพงศ์ เหมือนประสิทธิ์เวช
ตะวันฉายในม่านเมฆ ผลิตโดย บริษัท เมคเกอร์ กรุ๊ป จำกัด
ที่มา ไทยรัฐ