@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร แค้นเสน่หา ตอนที่ 6 วันที่ 15 ก.ค. 56

อ่านละคร แค้นเสน่หา ตอนที่ 6 วันที่ 15 ก.ค. 56

“อย่ามาทำกิริยาแบบนี้กับฉันนะ อวดดีใหญ่แล้ว มองแบบนี้อยากจะพูดอะไร”

“คุณฉัตต์คิดว่ารุ้งอยากพูดอะไรล่ะคะ ขนาดไม่ได้พูดคุณฉัตต์ยังว่ารุ้งเลย ถ้าพูด...รุ้งคงโดนผลักตกน้ำก็ได้”

ฉัตต์เถียงว่าใครจะใจร้ายแบบนั้น พาลกระแนะกระแหนเพราะหมั่นไส้เป็นทุน ที่น้องสาวบุญธรรมทำท่าทางสนิทสนมกับชายเดียว แต่ไม่สนใจมองหน้าเขาตั้งแต่เช้า รุ้งไม่สน ไปสมทบชายเดียวกับจริมาและเริ่มต้นหัดขับเรือบ้าง ฉัตต์ได้แต่มองตามเซ็งๆ หมดอารมณ์ชื่นชมวิวทิวทัศน์รอบตัวจนกระทั่งถึงวัดจึงพากันไปไหว้พระ


ฉัตต์หัวเสียกว่าเดิมเมื่อเห็นชายเดียวพะเน้าพะนอรุ้งอย่างออกนอกหน้า สนกับพิกุลคอยจับตาดูไม่ห่างแต่ไม่กล้านินทาเจ้านาย เช่นเดียวกับจริมาที่สังเกตเห็นและลอบมองหน้าพี่ชายยิ้มๆ...หน้าบอกบุญไม่รับขนาดนี้ พวกปากไม่ตรงกับใจ...หวงเขาแล้วทำท่ามาก โดนเสือปืนไวงาบไปก็ควรแล้ว!

หลังกลับจากล่องเรือ...ชายเดียวก็พาเพื่อนทั้งสามไปกราบท่านแม่ ท่านหญิงมองรุ้งเป็นพิเศษ ความคล้ายคลึงของเด็กสาวกับลูกชายทำให้ทนมองต่อไปไม่ได้ ลุกขึ้นยืนและขอตัวกลับห้อง ชายเดียวได้แต่มองตามงงๆ “ขอโทษนะครับ ท่านแม่เป็นอะไรไม่ทราบ สงสัยไม่ทรงสบายพระทัยเลยดูหงุดหงิด ท่านแม่ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ผมขอโทษด้วยนะครับ”

ฉัตต์กับรุ้งไม่ถือสา ต่างจากจริมาที่เคืองมากเพราะไม่ชอบท่าทางหยิ่งไม่เห็นหัวใครของท่านหญิงอยู่แล้ว อดไม่ได้แขวะกลับเมื่อชายเดียวชวนมาเที่ยวในโอกาสหน้า

“ให้ท่านแม่ของคุณชายสบายพระทัยก่อนแล้วกัน”

รุ้งกระตุกมือแต่จริมาไม่ฟังและจูงจักรยานออกไปก่อน ฉัตต์ตบบ่าปลอบใจเพื่อนรุ่นน้องและส่งสายตาบอกรุ้งให้กลับพร้อมกัน เด็กสาวทำตามแต่อดเหลียวหลังไปดูหน้าจ๋อยๆของชายเดียวด้วยความสงสารไม่ได้ เห็นหญิงชรานุ่งโจงยืนข้างๆเขาจ้องเขม็งมาที่เธอ แต่พอเพ่งมองอีกครั้งกลับไม่เห็นใคร

รุ้งเก็บความสงสัยมาถามแม่ในคืนเดียวกันนั้น จันทร์ไม่สบายใจแต่กลบเกลื่อนได้แนบเนียน เล่าให้ฟังว่าที่วังรังสิยามีคนแก่อาศัยอยู่ รุ้งคาใจแต่ไม่อยากเซ้าซี้จึงขอตัวไปนอน จันทร์สังหรณ์ว่าจะเป็นผีเฟืองแต่ไม่อยากบอกให้ลูกกลัว ได้แต่จดบันทึกบนโต๊ะ เฝ้ามองลูกสาวหลับใหลด้วยความเป็นห่วงลึกๆ...ขออย่าให้เกิดเรื่องไม่ดีเลย

ooooooo

สองสาวบ้านปัณณธรซ้อมการแสดงในวันรุ่งขึ้น รุ้งซ้อมรำอวยพรกับครูที่ด้านหนึ่ง โดยมีกลุ่มคุณหญิงทอแสงรัศมีซุบซิบกันเสียงดังใกล้ๆ จริมาไม่ชอบใจที่เพื่อนรักโดนกวนสมาธิจึงหันไปเอาเรื่อง ราชนิกุลสาวของขึ้นและเอาเรื่องเต็มที่แต่จริมาก็ไม่ยี่หระแถมส่งอรสาเพื่อนร่วมชั้นไปจัดการ

“อรสา...เธอบอกเขาไปเถอะ ฉันขี้เกียจพูดกับคนไม่มีความคิด”

คุณหญิงโกรธจนตัวสั่น ชี้หน้าจริมาแล้วต่อว่าเสียงลั่น “มากไปแล้วนะจริมา เธอไม่ใช่ครูที่จะมาว่ากันแบบนี้”

“ก็ได้...ฉันถอนคำพูดที่ว่าเธอไม่มีความคิด”

คุณหญิงทอแสงรัศมีเต้นผางสั่งให้ขอโทษ จริมาเลยจัดการแบบขอไปทีพร้อมยิ้มยั่วประสาทจนราชนิกุลสาวปรี๊ดแตกแต่ทำอะไรไม่ได้มาก มองตามหลังจริมากับพวกเดินเชิดออกไปอีกมุม...ฝากไว้ก่อนเถอะยายตัวดี!

คุณหญิงทอแสงรัศมีไม่ต้องรอนานก็มีโอกาสเอาคืน เธอกับจริมาต้องซ้อมระบำสเปนด้วยกันช่วงบ่ายจึงแกล้งยั่วประสาทจนครูประจำชั้นเหลืออด สั่งให้หยุดและบอกให้ซ้อมต่อ บรรดานักเรียนมองหน้ากันงงๆที่ครูไม่ลงโทษและไม่ตัดสินว่าใครผิดถูก ครูส่ายหน้าเบาๆพร้อมเฉลย

“ถ้าฉันตัดสินพวกเธอแล้วจะเลิกทะเลาะกันไหม ก็ไม่...ฉันเห็นทะเลาะกันตั้งแต่ ม.1 ก็ไม่เห็นวี่แววจะเลิกทะเลาะ งั้นก็ทะเลาะกันไปเถอะแต่อย่าให้ถึงขั้นทำร้ายกัน...เข้าใจไหม” ทุกคนจ๋อย ครูเลยอบรมต่อ “คนเราไม่ชอบกันเป็นเรื่องธรรมดาแต่จำไว้อย่าทำร้ายกัน เพราะมันคือจิตใจที่มืดบอด ถึงขั้นทำร้ายร่างกายกันได้ ต่อไปก็คงทำผิดศีลธรรม อีกอย่าง...นักเรียนตีกันเป็นภาพน่าเกลียด อย่าให้เห็นอีก ฉันเป็นครูของพวกเธอ ฉันทนไม่ได้ที่เห็นลูกศิษย์ตีกัน”

จริมาแอบเบ้หน้ากับรุ้ง เชื่อมั่นมากว่าคนอย่างคุณหญิงทอแสงรัศมีไม่มีทางคิดได้ตามที่ครูอบรม เมื่อกลับถึงบ้านจริมาก็ไม่หายอารมณ์ขุ่นมัว รุ้งพยายามกล่อมให้ใจเย็นแต่ไม่ค่อยได้ผลนัก

“โธ่เอ๋ย...คนอย่างยายทอแสงรัศมีน่ะเหรอจะรับอะไรดีๆอย่างนั้นเข้าสมอง รุ้งน่ะมองอะไรสวยงามไปหมด เอาไว้อีกห้าปี...ริมาจะชี้ให้เห็นว่าคนอย่างยายนั่นน่ะไม่สำนึกแน่”

สองพี่น้องพากันไปทำการบ้าน ไม่ทันเห็นพจน์เดินไอเสียงดังมาจากอีกมุม แต่ยอดได้ยินจึงรีบไปบอกจันทร์ว่าอาการผู้พิพากษาใหญ่น่าเป็นห่วง สันนิษฐานว่าอาจเลวร้ายกว่าที่คิดจึงพยายามปิดบังจากทุกคน จันทร์ ตัดสินใจไปถาม พจน์ปฏิเสธว่าไม่มีอะไรดังคาด แถมบอกให้ช่วยเตรียมอาหารเย็นต้อนรับแขกคนสำคัญในวันรุ่งขึ้น จันทร์รับปากดิบดีแล้วต้องแปลกใจเมื่อเขาบอกให้เรียกเด็กๆรวมทั้งรุ้งมาร่วมโต๊ะด้วย...มีเรื่องอะไรกันแน่นะ

ooooooo

สมาชิกบ้านปัณณธรพากันตื่นเต้นว่าใครคือแขกคนสำคัญ นั่งตัวเกร็งจนพจน์นึกขำ และแล้วเวลาที่รอคอยก็มาถึง...หลวงวิเศษก้าวเข้ามาในบ้านตรงเวลาและค้อมตัวทำความเคารพคุณหญิงเพ็งเป็นคนแรก

“คุณหลวงวิเศษนี่เอง พ่อพจน์ทำแม่นอนไม่หลับว่าแขกพิเศษคือใคร”

“ไม่ได้พบกันนาน คุณหญิงสบายดีนะขอรับ”

คุณหญิงยิ้มรับและแนะนำลูกหลานตามลำดับ หลวงวิเศษมองหน้าจันทร์กับรุ้งนิ่งๆแต่ไม่กระโตกกระตาก พจน์กลัวคนอื่นๆจะสงสัยเลยรีบบอกให้ไปทานอาหารเสียก่อนค่อยคุยกัน

ทุกคนนั่งรับประทานอาหารอย่างเรียบร้อย คุณหลวงลอบสังเกตอากัปกิริยาของจันทร์กับรุ้งเงียบๆ นึกชื่นชมว่าอดีตหม่อมวางตัวได้ดีแถมถ่ายทอดมาถึงลูกสาว เมื่อรับประทานเสร็จคุณหญิงก็ให้เด็กๆมาไหว้ลาไปทำการบ้านและพักผ่อน คุณหลวงรับไหว้ทุกคนจนมาถึงรุ้งก็อดแปลกใจไม่ได้ที่เธอมีชื่อเหมือนคนสามัญธรรมดา

“หนูรุ้งหรือ...รุ้งเฉยๆหรือว่ามีอะไรนำหน้าอีก”

จันทร์ชิงตอบเสียเองว่ารุ้งเฉยๆ หลวงวิเศษพยักหน้าแล้วส่งสายตาไปทางพจน์ ท่านผู้พิพากษาใหญ่จึงไปส่งแม่เข้านอนแล้วชวนคุณหลวงกับจันทร์ไปดื่มชากาแฟและเป็นคนเฉลยว่าเล่าทุกอย่างให้นายตำรวจใหญ่ฟังตามที่เธออนุญาต หลวงวิเศษไม่รอช้าเปิดฉากถามถึงลูกทั้งสองของอดีตหม่อม

“หม่อมมีลูกแฝดคือคุณชายศักดินากับ...”

“ค่ะ...รุ้งคลอดในเรือ ไม่มีใครในวังรู้เรื่อง”

“ตัวการคือนางเฟืองแต่ก็ชิงฆ่าตัวตายเสียก่อน ก่อนตายก็ฆ่านายแคล้วด้วย แถมหม่อมกับยอดยังหายไป”

“ท่านชายคงคิดว่าหม่อมฉันหนีไปกับนายยอด”

“มิได้ครับ...ผมขอยืนยันว่าท่านชายไม่ทรงเคยคิดแบบนั้นเลย ท่านตรอมพระทัยและประชวรหลายครั้ง สุดท้ายท่านเกิดอุบัติเหตุตกบันไดเป็นอัมพาตครึ่งตัว”

จันทร์น้ำตาคลอเมื่อนึกถึงความโชคร้ายของสามี คุณหลวงวิเศษยังคาใจเพราะคิดว่าเธอรอดมาได้ก็น่าจะสู้คดี

“ความกลัวไงคะ ดิฉันไม่ทราบว่าเฟืองตาย ถ้าดิฉันกลับไป เฟืองไม่มีวันปล่อย...มันแค้นแทนท่านหญิง”

“เสียดายเหลือเกินที่ท่านชายไม่ทรงทราบว่ายังมีลูกหญิงอีกคน”

พจน์เปรยเบาๆว่าป่านนี้คงจะทราบแล้ว จันทร์กลั้นสะอื้น ซาบซึ้งในบุญคุณของพจน์เหลือเกิน

“ขอบพระคุณคุณพี่กับคุณหลวง ดิฉันเป็นหนี้บุญคุณร่มไม้ชายคาบ้านปัณณธร ได้กินอิ่มนอนหลับและลูกหญิงมีการศึกษา ส่วนลูกชาย...แม้ไม่ได้รู้จักว่าเป็นแม่ลูกแต่ในเมื่อเขามีความสุขดิฉันก็ดีใจและไม่ต้องการเรียกร้อง เพราะมันอาจเป็นการดึงให้เขาตกต่ำ... เขาอาจโกรธดิฉันก็ได้”

“ที่ผมเชิญคุณหลวงมาก็เพื่อให้เป็นสักขีพยานอีกคน ชีวิตเราไม่มีอะไรแน่นอน หากผมมีอันเป็นไปก็ไม่ต้องการให้ความจริงทั้งหลายตายไปกับผม ต่อจากนี้ผมขอมอบความลับของหม่อมบุหลันให้คุณหลวงดูแลด้วยครับ”

คำพูดเหมือนสั่งเสียของพจน์ทำให้จันทร์สะดุ้ง สังหรณ์ว่าอาการป่วยของเขาคงไม่ธรรมดา อดไม่ได้ตามไปเคาะประตูห้องเขากลางดึกคืนนั้นเพื่อถามให้แน่ใจแต่เขายังปากแข็งและบอกว่าไม่ต้องห่วง

“พี่ไม่เป็นอะไร ไม่ต้องกลัว หรือถ้าเป็น...พี่ก็จะเตรียมทุกอย่างไว้ให้ ไม่ให้ใครต้องยุ่งยากเลย”

จันทร์ไม่สบายใจ เชื่อมั่นว่าพี่ชายบุญธรรมตั้งใจปิดบังอะไรบางอย่างแน่และเธอต้องรู้ให้ได้!

ooooooo

อ่านละคร แค้นเสน่หา ตอนที่ 6 วันที่ 15 ก.ค. 56

ละครแค้นเสน่หา บทประพันธ์โดย : วราภา
ละครแค้นเสน่หา บทโทรทัศน์โดย : อ.แดง ศัลยา
ละครแค้นเสน่หา กำกับการแสดงโดย : สำรวย รักชาติ
ละครแค้นเสน่หา ผลิตโดย : บริษัท ฮูแอนด์ฮู จำกัด
ละครแค้นเสน่หา ควบคุมการผลิตโดย : วรายุทธ มิลินทจินดา
ละครแค้นเสน่หา ออกอากาศ: เร็ว ๆ นี้ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ