@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร แค้นเสน่หา ตอนที่ 8 วันที่ 24 ก.ค. 56

อ่านละคร แค้นเสน่หา ตอนที่ 8 วันที่ 24 ก.ค. 56

“เธอเสียสติหรือเปล่าหญิงทอแสง ชายเดียวเป็นญาติเกือบจะร่วมสายเลือดเดียวกันด้วยซ้ำ ไม่มีใครยอมให้เธอกับชายเดียวทำอะไรผิดธรรมเนียมแบบนั้นหรอก ฉันไม่ฟังอะไรแล้ว หญิงเล็ก...เตือนลูกเธอด้วย จะบ้าไปกันใหญ่แล้ว”

“ท่านป้าคะ...หญิงทราบค่ะ ทราบมาตั้งนานแล้วว่าพี่ชายเดียวไม่ใช่ลูกของท่านป้าแขไข”

ความคิดเกินงามของคุณหญิงทอแสงรัศมีทำให้ท่านหญิงปั้นร้อนใจจนต้องเสด็จถึงวังรังสิยาในเช้าวันถัดมา ท่านหญิงแขไขเจิดจรัสไม่กังวลนักเพราะไม่คิดว่าหลานสาวจะทำจริงอย่างที่พูด อีกทั้งชายเดียวก็ยังเด็กเกินกว่าจะคิดเรื่องแบบนี้


“หญิงทอแสงพูดเต็มปากเต็มคำว่ารักชายเดียวเพราะรู้มานานว่าไม่ใช่ลูกเธอ ถ้าเป็นจริงก็จะรู้กันหมดเรื่องชายเดียวเป็นลูกของนังบุหลัน...คิดถึงหัวใจชายเดียวสิ”

“หญิงคิดมาตลอดค่ะพี่หญิง...ตั้งแต่วันแรกที่หญิงรับชายเดียวเป็นลูก”

ท่านหญิงปั้นส่ายหน้าให้กับความรั้นของท่านหญิงแขไข ขอตัวกลับแต่ไม่วายทิ้งท้ายให้ระวังคุณหญิงทอแสงรัศมี แถมยังถามถึงเรื่องหลานสาวของบ้านปัณณธรว่ามีกี่คนกันแน่ ท่านหญิงแขไขหน้าถอดสีเพราะเป็นชนักปักหลัง ทูลเสียงเบาว่ามีสองคน ท่านหญิงปั้นถอนใจหนักหน่วง หวนคิดถึงต้นเหตุของเรื่องแล้วเครียดแทน

“นังเฟืองใช่ไหมที่จัดการเรื่องนี้ นังคนนี้ตายไปแล้วยังทิ้งพิษร้ายไว้อีก”

ฉับพลันนั้นก็มีลมกรรโชก ท่านหญิงแขไขขมุบขมิบห้ามผีบ่าวคนสนิท แต่ท่านหญิงปั้นกลับนั่งอย่างสงบ

“ได้ยินมานานแล้วว่ามันเฮี้ยน...ใช่ไหมหญิงแขไข มันรักเธอ...แต่ก็ไม่ใช่เหตุผลที่จะทำให้ชีวิตเธอยุ่งยากเช่นนี้ ระวังตัวให้ดี...เธอฟังมันมากตอนมันมีชีวิต แต่อย่าลืมว่ามันตายแล้วตอนนี้ พอกันทีกับนังเฟือง”

ท่านหญิงแขไขจนด้วยเหตุผล ตามไปส่งญาติผู้พี่ที่รถด้วยท่าทางคิดหนัก ผีเฟืองได้ยินทุกอย่าง อาละวาดแผลงอิทธิฤทธิ์ใส่ผู้คนในวังเพื่อระบายอารมณ์ แต่ไม่มีใครตื่นกลัวเหมือนเคยเพราะชินแล้ว

ฝ่ายพิสินีรับรู้เรื่องการเสียชีวิตของพจน์ไม่นานจากนั้น เสียใจแทนฉัตต์ที่ไม่มีโอกาสไปร่วมงานศพพ่อ เธอแวะไปหาเขาที่มหาวิทยาลัย พบเขายืนดูกระดาษแผ่นหนึ่งด้วยแววตากังวล โล่งใจที่เขายังไม่รู้เรื่อง แต่กำลังเครียดเรื่องค่าเล่าเรียน ท่าทางแปลกๆของเธอทำให้เขาถามว่าเป็นอะไร และเพราะความสงสารทำให้เธอเลือกพูดจาเป็นนัยๆ
“เรื่องเศร้าของคนที่บัวรักแต่เจ้าตัวเขายังไม่รู้ บัวเลยยิ่งเศร้าเพราะสงสารเขามาก”

เขาดึงเธอมากอดปลอบตามประสาเพื่อนแสนดี เปรยเบาๆว่าอาจต้องหางานทำเพราะไม่อยากกวนพ่อ เป็นห่วงจริมาและคนอื่นๆที่บ้านจะต้องลำบาก พิสินีมองหน้าเขายิ้มๆ ภูมิใจเหลือเกินที่เขาเป็นคนดีมีความรับผิดชอบ

ปัญหาเรื่องการเงินเป็นเรื่องใหญ่อย่างที่ฉัตต์นึกกลัว คุณหญิงเพ็ง จันทร์ รุ้ง และจริมาปรึกษากันอยู่นานจนได้ข้อสรุปว่าจะทำร้านอาหาร โดยมีคนงานในบ้านทั้งหมดเป็นลูกมือ จริมาเห็นดีด้วย ช่วยกันกับรุ้งวางแผนการเงินและ ตกแต่งร้าน โดยปรับเปลี่ยนเรือนริมน้ำให้กลายเป็นมุมน่ารักเหมาะแก่การรับประทานอาหารและชมวิว

สองสาวช่วยกันเตรียมการสุดความสามารถจนถึงคืนสุดท้ายก่อนที่จริมาจะเดินทางกลับ เธอฝากฝังบ้านและคุณย่ากับเพื่อนรัก รุ้งรับปากดิบดีและขอให้อีกฝ่ายสัญญาว่าจะตั้งใจเรียน จริมาพยักหน้ารับทั้งน้ำตาเคลือบคลอ

“รุ้งคิดถูกแล้วที่เรียนพยาบาล ริมาขอบใจมาก...ไม่มีใครจะดูแลคุณย่าได้ดีเท่ารุ้งอีกแล้ว”

“แม่ไงคะ แม่ไม่เรียนอะไรมาสักอย่างแต่เก่งกว่ารุ้งเสียอีก ให้ยาคุณย่าเป็นหายทุกครั้ง”

จริมาปาดน้ำตาแล้วอดนึกถึงเรื่องในวัยเด็กไม่ได้ พี่ชายเธอก็เป็นคนหนึ่งที่โดนจันทร์จับคว้านคอทุกครั้งที่ไม่สบาย รุ้งนิ่งไปอึดใจแล้วอดไม่ได้ เปรยเบาๆถึงความฝังใจของฉัตต์ที่มีต่อเธอกับแม่ จริมาตกใจแก้ต่างแทนพี่ชาย

“แต่นั่นมันตอนเด็ก พี่ฉัตต์ไม่ได้ฝังใจมาจนทุกวันนี้หรอก”

“รุ้งกับแม่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าพเนจรมา แล้วคุณราตรีก็เสียชีวิต”

“ไม่...หยุดพูดเดี๋ยวนี้ พี่ฉัตต์เลิกคิดไปนานแล้ว ไม่เข้าใจหรือรุ้ง...ไม่งั้นเขาจะซื้อเปียโนให้ทำไม พี่ฉัตต์เอาเงินเก็บตั้งแต่เด็กเลยนะ วันเกิด ปีใหม่ เงินอะไรๆก็เอามาหมด เงินที่คุณแม่สั่งให้พี่ฉัตต์ก่อนท่านจะตายก็ด้วย”

รุ้งยังงอนเพราะน้อยใจเขาที่ไม่เคยเอ่ยถึงเธอในจดหมายสักครั้ง จริมาเซ็งแต่ยังยืนยัน

“ริมามั่นใจว่าพี่ชายของริมาไม่เกลียดแต่เขาไม่อ่อนโยน พูดดีๆไม่เป็น รุ้งคิดแบบนี้กับเขา...ริมาไม่สบายใจเลย” รุ้งนิ่งเงียบ จริมาเลยยิ่งใจเสีย “ริมาไม่เคยคิดว่ารุ้งเป็นคนอื่นนอกจากพี่น้อง อะไรที่ริมาให้ได้ พี่ฉัตต์ก็ต้องให้ได้เหมือนกันเพราะเราสองคนเป็นน้องสาวเขา”

รุ้งร้องไห้ จริมาโอบปลอบ ทราบดีว่าเพื่อนกับพี่ชายมีความรู้สึกดีๆต่อกัน แต่คงต้องปรับความเข้าใจกันอีกยาว

ooooooo

ท่านหญิงแขไขน้อยใจลูกชายที่ไม่มีเวลาให้เธอเหมือนเคย ความทุกข์ใจของท่านหญิงทำให้ผีเฟืองทนไม่ได้ ร่ำๆจะออกไปอาละวาดให้หายแค้น ท่านหญิงต้องรั้งไว้เพราะไม่อยากให้ใครเดือดร้อน

“เฟือง...ไปเกิดนะ หญิงจะอธิษฐานจะทำบุญให้เฟือง อย่าทนทุกข์ทรมานอย่างนี้อีกเลย”

เฟืองหมอบติดพื้นส่ายหน้า ท่านหญิงได้แต่ถอนใจ อัดอั้นตันใจที่สุดเพราะผีบ่าวคนสนิทไม่ยอมปล่อยวาง

ความกลัดกลุ้มทำให้ท่านหญิงอยากออกจากบ้าน ตัดสินใจไปหาน้องสาวแต่ไม่ทันได้ออก ท่านหญิงเล็กก็ก้าวเข้ามาเสียก่อนและขอหารือเรื่องคุณหญิงทอแสงรัศมี ท่านหญิงแขไขโวยวายเพราะคิดว่าน้องสาวเป็นคนเล่าให้ลูกสาวฟัง ท่านหญิงเล็กชักฉุนจึงโต้กลับ

“พี่หญิงคิดว่ามันเป็นความลับนักหรือคะ พี่หญิงไม่เคยท้อง...แล้วอยู่ๆก็มีลูกชาย จะไม่มีใครสงสัยหรือคะ”

“ฉันไม่สนคนอื่น แต่ชายเดียวจะรู้เรื่องนี้ไม่ได้”

ท่านหญิงเล็กบอกว่าทราบข้อนี้ดีแต่ท่านหญิงแขไขยังกังวล เพราะเชื่อว่าคุณหญิงทอแสงรัศมีต้องพูดแน่

“ฉันรู้ว่าเธอห้ามลูกไม่ได้ เธอไม่รู้จักลูกสาวตัวเองหรือไง หญิงทอแสงรักชายเดียว ฉันไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ทำไมความรู้สึกพี่น้องถึงกลายเป็นรักแบบหนุ่มสาวไปได้” ท่านหญิงเล็กเถียงว่าคงเป็นเพราะวัย แต่พี่สาวค้านทันที “ไม่ใช่แน่ หญิงทอแสงอยู่ใกล้ชายเดียวเป็นไม่ได้ต้องเข้าใกล้ชิด เธอสอนลูกยังไง...ให้ใช้ความเป็นน้องมานั่งกอดนั่งเบียด”

“โธ่เอ๊ยพี่หญิง...คร่ำครึแบบนี้ เจ้าพี่ถึงต้องไปเอานังบุหลันเป็นหม่อมอีกคน”

ท่านหญิงแขไขเคืองที่โดนพูดแทงใจ ท่านหญิงเล็กโมโหเลยย้อนว่าเรื่องมันวุ่นวายก็เพราะผีเฟือง ลมกรรโชกเข้ามาทันใดพร้อมการปรากฏตัวของผีบ่าว ท่านหญิงเล็กเบิกตาโพลงตัวแข็งทื่อ...เชื่อแล้วว่ามันเฮี้ยนจริงๆ!

เวลาเดียวกันที่บ้านปัณณธร...ชายเดียวไปหาจริมาเพื่ออำลาเพราะรู้ว่าเธอจะเดินทางวันนี้ แต่พบกับรุ้งเสียก่อนจึงไปคุยด้วยตามประสาคนคุ้นเคยกัน เขาเป็นห่วงเธอที่ต้องทำงานและเรียนหนักเพื่อแบ่งเบา

ภาระทางการเงิน รุ้งยิ้มรับไม่ท้อ ยืนยันว่าเต็มใจทำเพราะอยากตอบแทนพระคุณบ้านนี้

แต่ความตั้งใจดีก็มาพร้อมกับความกังวลใจเรื่องฉัตต์ที่อาจโกรธเพราะไม่รู้เรื่องอะไรสักอย่าง ชายเดียวปลอบว่าอย่าคิดมาก ตนเชื่อว่าเพื่อนรุ่นพี่ต้องเข้าใจเพราะทุกคนหาเงินเพื่อส่งเสียเขาเรียนจนจบ รุ้งไม่คิดแบบนั้นแต่ไม่อยากต่อความยาว เปลี่ยนไปถามถึงธุระที่ทำให้เขาต้องมาถึงบ้าน พลันยิ้มน้อยๆและชี้ไปทางเรือนริมน้ำที่จริมานั่งเล่นอยู่คนเดียว

จริมาเบ้หน้าเมื่อเห็นชายเดียว เขาพยายามชวนคุยแต่ไม่ค่อยได้เรื่อง หญิงสาวยังอารมณ์ไม่ค่อยดีเพราะไม่อยากจากบ้านไปไกลอีกแล้ว จริมาหันหลังให้เขาพลางเอามือปาดน้ำตา กัดฟันแน่นไม่ยอมให้มันไหลออกมาอีก ชายเดียวก้าวไปยืนขนาบแล้วพยายามบอกให้ร้องไห้เพื่อระบายความอึดอัดใจ

“วันที่คุณไปหา...ผมบอกให้คุณร้องออกมาแล้วคุณก็ดีขึ้น”

ทำนบน้ำตาของเธอพังไม่เป็นท่า หญิงสาวร้องไห้จนสาแก่ใจแล้วจึงหันมาเผชิญหน้าเขาอีกครั้ง ชายเดียวยื่นผ้าเช็ดหน้าให้ เธอรับไปเช็ดแล้วส่งคืน มองหน้าเขาด้วยความอาวรณ์แต่ไม่แสดงออกเพราะไม่อยากให้ความหวังตัวเอง

จริมากลับถึงโรงเรียนไม่กี่วันหลังจากนั้น เธอเดินเหม่อเพราะยังเศร้าเรื่องพ่อและสะเทือนใจเรื่องชายเดียว ทันใดนั้น...สายตาก็พลันเหลือบเห็นฉัตต์มายืนรอหน้าทางเข้าหอ เธอโผไปกอดเขาแน่นด้วยความรักและคิดถึง ร้องไห้ออกมาด้วยความอัดอั้นตันใจ...คิดถึงพ่อ คุณย่า และทุกคนที่เมืองไทยเหลือเกิน

ooooooo

อ่านละคร แค้นเสน่หา ตอนที่ 8 วันที่ 24 ก.ค. 56

ละครแค้นเสน่หา บทประพันธ์โดย : วราภา
ละครแค้นเสน่หา บทโทรทัศน์โดย : อ.แดง ศัลยา
ละครแค้นเสน่หา กำกับการแสดงโดย : สำรวย รักชาติ
ละครแค้นเสน่หา ผลิตโดย : บริษัท ฮูแอนด์ฮู จำกัด
ละครแค้นเสน่หา ควบคุมการผลิตโดย : วรายุทธ มิลินทจินดา
ละครแค้นเสน่หา ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ