@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร ดาวเคียงเดือน ตอนที่ 1 วันที่ 12 ก.ค. 57

อ่านละคร ดาวเคียงเดือน ตอนที่ 1 วันที่ 12 ก.ค. 57

ที่โถงวังทัศนัย บรรดาผู้มารับจันทรกานต์ นั่งเป็นระเบียบเรียบร้อยในห้องมืดๆ ดูวีดิโอพรีเซนเทชั่นประวัติชีวิตของจันทรกานต์
เป็นภาพวัยเด็กที่คุณชายจันทรและดารารายอยู่เคียงข้าง ไล่ตั้งแต่อนุบาลจนถึงประถม มัธยม แสดงถึงการเลี้ยงดูอย่างดีมาก แทรกเสียงบรรยายที่เป็นทางการดูดี...

“ม.ล.จันทรกานต์ ทัศนัย เกิดมาจากความรักอย่างสุดหัวใจของคุณชายพ่อ ม.ร.ว.จันทร และคุณแม่ดาราราย วัยเด็กของจันทรกานต์มีแม่ครัวเฉพาะ พี่เลี้ยงเฉพาะ มีครูเฉพาะวิชา คุณชายพ่อและคุณแม่ ตั้งปณิธานไว้ว่า จะมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้จันทรกานต์เท่านั้น”



จันทรกานต์กระซิบบอกแม่ให้พอเถิดตนอาย แต่ดารารายไม่สนใจ บรรยายของเล่นในวัยเด็กของจันทรกานต์อย่างมีความสุขว่า เรื่องพวกนี้เหมือนเกิดขึ้นเมื่อวานเอง

วิวิทธิ์เหลือบมองจันทรกานต์ยิ้มให้อย่างคนรู้จักคุ้นเคย ถัดไปคือเพชร ที่มองจอภาพหยันๆ กระซิบอะไรกับยุพาฝ่ายบุคคลสาวโอลด์เมด จันทรกานต์มองอย่างสังเกตท่าทีนั้น

ในงานต้อนรับนี้ จักรพัฒน์และพิชยา เดินมาคุยกับจันทรกานต์ จักรพัฒน์ทักทายอย่างสนิทสนม

“น้องชาย” แล้วโผเข้ากอดกัน

“พี่จักรพัฒน์ ดูดีเหมือนเดิมนะครับ พิชยาคุณก็สวยเหมือนเดิม” พิชยาติงว่าเราเป็นเพื่อนเก่าแก่เรียกอย่างนั้นห่างเหินจัง ให้เรียก ซาย่าอย่างที่เคยเรียกดีกว่า จันทรกานต์บอกว่าตนลืมไป พิชยาทำทีตัดพ้อว่าพอตนแต่งงานก็หมดความหมายเลยนะ จักรพัฒน์ถามพิชยาว่าเธอเมาหรือเปล่า

“เปล่า...คุณจันทร์ขา สมัยเรียนก็ว่าหล่อแล้ว กลับมาจากเมืองนอก ยิ่งหล่อกว่าเดิมอีก อย่างนี้สาวๆในออฟฟิศคงคลั่งคุณเป็นแถว”

“เออะ...คงไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ” จันทรกานต์รีบเปลี่ยนเรื่อง บอกจักรพัฒน์ว่าตนรอฟังข่าวดีอยู่ อยากมีหลาน พิชยาแทรกขึ้นเยาะในทีว่าคงอีกนาน หรือไม่ก็หมดหวังเลย เธอพูดจนจักรพัฒน์หน้าเจื่อนแล้วขอตัวไปท่ามกลางความรู้สึกอึดอัดของจันทรกานต์

เมื่อเดินแยกไปแล้ว จักรพัฒน์ติติงพิชยาว่าไม่น่าพูดอย่างนั้นต่อหน้าน้องชายตน เห็นแก่หน้าตนบ้าง

“อายเหรอคะ ไม่ต้องอายหรอก เพราะเดี๋ยวคุณจันทร์เขาก็ต้องรู้เองแหละว่าหม่อมหลวงจักรพัฒน์ทำงานเก่งทุกอย่างแต่ไร้น้ำยา” พิชยายิ้มหยันแล้วเดินแยกไป จักรพัฒน์มองตามเซ็งๆ

ooooooo

จันทรกานต์เดินไปเจอวิวิทธิ์คุยอยู่กับน้อยที่ช่วยจัดงานนี้ เขาขอบคุณวิวิทธิ์ที่ยอมมาทำงานกับตน

“แม่คุณเสนอเงินให้ผมสองเท่าจากงานเก่า แฮะๆ เป็นเลขาดูไม่แมนเลย ถ้าไม่ใช่คุณผมคงไม่ทำ”

“ผมรู้ คิดว่าเพื่อนช่วยเพื่อนนะ ผมต้องการคุณจริงๆ ยังจำได้ที่คุณพ่อให้คุณมาดูแลผมอย่างดีระหว่างฝึกงานที่บริษัทก่อนที่ผมจะไปเรียนต่อ”

ขณะนั้นเอง คุณชายจันทรเดินไปที่ไมค์กลางงาน ประกาศกับผู้มาร่วมงานว่า...

“ขอบคุณทุกคนที่สละเวลามางานต้อนรับจันทรกานต์ในวันนี้นะครับ ทุกคนที่นี่เป็นคนในครอบครัว บางคนเป็นญาติ เป็นเพื่อนคุณจันทร์ตั้งแต่เด็ก บางคนก็เป็นคนสำคัญที่ช่วยให้ห้างแกรนด์ของเราเป็นห้างสรรพสินค้าที่อยู่คู่คนไทยมานานอย่างคุณเพชร เอ็มดีคนเก่งของเรา”

เพชรยกแก้วค้อมหัวขอบคุณท่ามกลางเสียงปรบมือ คุณชายจันทรประกาศว่าวันนี้มีเรื่องน่ายินดีเกี่ยวกับคุณจันทร์ที่เราจะได้รู้พร้อมกัน แล้วจึงประกาศเรื่องสำคัญว่า

“ถึงเวลาที่เราจะต้องมีผู้บริหารคนใหม่ แผนของผมคือแต่งตั้งให้จันทรกานต์ดำรงตำแหน่งเอ็มดีคนต่อไปของห้างแกรนด์ ผมทราบดีว่า จันทรกานต์ยังเด็ก ตัวเขาเองก็อึดอัด เขากลัวที่สุดกับคำว่าเด็กเส้น ผมบอกว่าไม่ต้องกลัว แกเป็นลูกพ่อเป็นเด็กเส้นเต็มตัวอยู่แล้ว”

ทุกคนหัวเราะขำ ยกเว้นเพชรที่นั่งหน้าตึง

“ผมเลยบอกเขาว่า พ่อจะให้แกพิสูจน์ตัวเองสองปี ถ้าแกทำให้ห้างของเรายังมีกำไรต่อเนื่องอยู่ได้ ผมจะให้เขาทำต่อ แต่ถ้าไม่ ตัวเขาจะหลีกทางลาออก เพื่อไปเรียนเพิ่มเติมจนกว่าจะถึงเวลาที่เหมาะสม เขาบอกว่าโอเค ยุติธรรมดีไหม”

ทุกคนตอบรับด้วยความยินดี มีแต่เพชรที่หน้าถมึงทึง วิวิทธิ์ยิ้มเยาะพูดดังๆว่า

“คุณจันทร์ของพวกเราทำได้อยู่แล้ว เชียร์ส!” ทุกคนร้องตามพร้อมยกแก้วเครื่องดื่มชู

“ขอบคุณวิวิทธิ์ ขอบคุณทุกคนมากครับ สิ่งที่คุณจันทร์ต้องการที่สุดในเวลานี้ คือคำแนะนำและกำลังใจ ใช่ไหมครับคุณเพชร”

“ได้เลยครับ ผมเคารพคุณชายเป็นนายมาตลอด คุณจันทร์ก็เหมือนนายน้อยของผม ยินดีด้วยครับ” เพชรจำใจพูด

ooooooo

ระหว่างที่ดาริกากลับไปเอาธัมบ์นั้น วรางค์ต้องรับหน้าแก้ปัญหาลูกค้าที่มีความคาดหมายสูงกับการมาฟังครั้งนี้มาก แทนที่จะได้ดูวีดิโอตัวอย่างกลับต้องมาฟังวรางค์พูดพล่ามซ้ำซาก

บางคนเร่งให้เปิดวีดิโอ บางคนรู้ทันถามว่าไม่ได้เอามาใช่ไหมถึงได้เล่าปากเปล่าแบบนี้

ขณะวรางค์กำลังตกที่นั่งลำบากนั่นเอง ดาริกาก็วิ่งพรวดเข้ามา วรางค์เหมือนรอดตาย ทุกคนโล่งอกแล้วผู้มาประชุมก็ได้ชมภาพยนตร์ตัวอย่างโฆษณากันสมใจ

คืนนี้ วรางค์จัดอาหารพิเศษเลี้ยงดาริกา อาร์ตี้ บ๊วย และอาร์ทเต็มที่ บอกให้ทานเยอะๆ เธอขอบใจดาริกาที่เอางานมาส่งทัน ไม่อย่างนั้นมีหวังตนโดนลูกค้าขย้ำทั้งฝูงแน่

ดาริกาถามว่าตกลงเนื้อหาในภาพยนตร์โฆษณาลูกค้าซื้อแล้ว งานนี้ก็คงสำเร็จลุล่วงไปอีกเรื่องแล้วใช่ไหม วรางค์บอกว่ายัง เพราะลูกค้าเรียกร้องซุปตาร์แม็กซ์มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้เรา พลางเอารูปแม็กซ์ให้ดู

“ซุปตาร์แม็กซ์ อ๊ายยยย...หล่อทะลุขุมขนออกมาเลย อยากร่วมงานด้วยเป็นที่สุดเลยค่ะ” ดาริกาดี๊ด๊าสุดๆ อาร์ตี้เลยให้เธอติดต่อให้เลยเพราะตนโทร.เท่าไรก็ไม่มีคนรับสาย ลูกค้าขอคำตอบในสามวันด้วย “เป็นหน้าที่หนู” ดาริกาทำหน้างง

“ถูกต้อง เอ้า กินเยอะๆ ได้มีแรงตามล่านายนี่”

วรางค์กับอาร์ตี้ช่วยกันคีบซูชิให้ดาริกาอย่างเอาใจ ดาริกาดูรูปแม็กซ์แล้วฮึดสู้

ooooooo

วันต่อมา ดาริการู้ว่าแม็กซ์มีถ่ายแบบที่สตูดิโอ เห็นแฟนคลับวิ่งตามรถตู้ที่แม็กซ์นั่งกันอย่างคลั่งไคล้ก็เอาบ้าง แต่อยากให้เนียนเลยออกอาการเว่อร์กว่าใครๆ

ระหว่างแม็กซ์ถ่ายแบบโดยมีจ๋าผู้จัดการหญิงวัยกลางคนท่าทางเค็มจัดยืนคุมอยู่ ดาริกาออกมาโทร.บอกอาร์ตี้ที่ออฟฟิศว่าตอนนี้แม็กซ์ถ่ายแบบ จะอยู่ถึงสี่โมงเย็นเพราะมีสัมภาษณ์ด้วย บอกอย่างตื่นเต้นว่า “หนูนัดประชุมไว้แล้วค่ะ”

“ดีมาก พี่จะไปเดี๋ยวนี้ เรานัดซุปตาร์แม็กซ์ได้แล้วพี่” อาร์ตี้หันบอกวรางค์ ทั้งสองตีมือกันด้วยความดีใจว่างานนี้ต้องสำเร็จแน่

เมื่อไปนั่งคุยกันที่สตูดิโอ จ๋าวางท่ายโสพูดกันท่าว่าคิวงานของแม็กซ์เดือนนี้เหลือไม่เยอะ อาจจะลำบากหน่อย แต่พอวรางค์บอกว่า ลูกค้าตนสู้ คุณต้องการเท่าไหร่แจ้งมาได้เลย จ๋าก็ยิ้มออกบอกว่าแบบนี้ค่อยคุยกันได้ แล้วคุยธุรกิจกัน

ระหว่างนั้นแม็กซ์ไม่ได้สนใจอะไรแต่คอยชำเลืองมองดาริกาที่มีอาร์ตี้นั่งคั่นอยู่อย่างพอใจ พอวรางค์เสนอว่านอกจากค่าตัว ถ้าเขาสนใจอะไร ให้ได้ก็จะให้ แม็กซ์ตาวาวถามว่าจริงหรือ แล้วเอานามบัตรใส่มือดาริกานัดว่า

“ไปทานข้าวกับผมศุกร์หน้าบ่ายสอง”

พอแยกกัน ดาริกาพูดเซ็งๆว่า “ตอนแรกก็ปลื้มนะคะเพราะหล่อ แต่เห็นนิสัยแล้วห่วยทะลุสิวออกมาเลย” ถามวรางค์ว่า “พี่จะยอมให้หนูไปออกเดทกับเจ้านั่นเหรอคะ” วรางค์บอกว่าเพื่องาน ดาริกาตัดพ้อว่าไม่ห่วงตนเลยนะ

“อืมม์ ใช่ พี่ไม่ห่วงหนูเลย พี่ห่วงงานมากกว่า” เป็นคำตอบที่ทำเอาดาริกาเซ็งมาก

ooooooo

รุ่งเช้า ขณะดาริกานอนหลับอุตุอยู่นั้น นาฬิกาปลุกเธอกดปิดแล้วนอนต่อ แต่ก็ไม่ได้นอนอยู่ดีเพราะพุดตานเพื่อนรุ่นพี่โทร.มาบอกว่าจะไปต่างประเทศ 6 เดือนให้ช่วยไปนอนเฝ้าคอนโดให้หน่อย

ดาริการับปากแต่ไว้พรุ่งนี้ตนกลับจากบ้านแม่เราค่อยเจอกัน แต่พอนอนต่อก็นึกได้ว่าวันนี้วันเซลส์ก็ลุกพรวดกระโจนจากเตียงทันที

ที่สำนักงานห้างแกรนด์...วิวิทธิ์พาจันทรกานต์เดินสำรวจห้างและแนะนำพนักงานแผนกต่างๆ กระทั่งรายบุคคลอย่างละเอียด เขารู้ลึกรู้ดี จนจันทรกานต์บอกว่าแบบนี้ไงตนถึงต้องมีเขา แล้วมองไปที่เพชรกับยุพาถามว่า

“แล้วคุณเพชรกับสาวคนนั้นล่ะ” วิวิทธิ์บอกว่านั่นแหละที่เขาต้องระวังที่สุด ก็พอดีเพชรเดินรี่เข้ามาพร้อมยุพา

“คุณจันทรกานต์ครับ ขอต้อนรับการมาทำงานวันแรกของคุณ ให้ผมพาทัวร์ก่อนไหมครับ”

“ไม่ต้องหรอกครับ เพราะวิวิทธิ์ทำหน้าที่นี้อยู่แล้ว”

เพชรบอกว่าตนอาจจะให้ข้อมูลเบื้องลึกกับเขาได้มากกว่าถูกต้องและแม่นยำกว่า ‘บางคน’ เลยถูกวิวิทธิ์เหล่ใส่ถามจันทรกานต์ว่า

“เอาไงดีครับคุณจันทร์ จะเลือกอดีตเอ็มดี หรือเลขาคู่ใจครับ”

“ตอนนี้ผมเลือกเลขาก่อนดีกว่านะครับ” พูดแล้วเดินแยกไปกับวิวิทธิ์ ถูกวิวิทธิ์หันมองเย้ย เพชรเลยด่าตามหลังเบาๆว่าได้โอกาสเป็นเลียแผล็บ!

ooooooo

พอนึกได้ว่าวันนี้วันเซลส์ ดาริกาก็ลิ่วไปห้าง แต่ไม่ไปออที่หน้าห้างรอเวลาเปิดเหมือนคนอื่น แต่กลับไปรอประตูหลังอยู่คนเดียว พอห้างเปิดประตูปุ๊บก็พุ่งเข้าไปปั๊บไม่ต้องวิ่งแข่งกับใคร

จันทรกานต์เห็นดาริกายืนที่ประตูหลังก็ชมกับวิวิทธิ์ว่าผู้หญิงคนนี้วางแผนมาอย่างดี ชวนไปดูกันใกล้ๆ บอกว่าเคสนี้น่าสนใจ

ดาริกาวิ่งพุ่งไปที่กระบะเสื้อผ้าลดราคา ปรากฏว่าแย่งกันกับเจ๊คนหนึ่ง ดาริกาอ้างว่าตนเห็นก่อน เจ๊คนนั้นเถียงว่าตนหยิบก่อน แต่แล้วเจ๊ก็เสียท่าเมื่อดาริกาตะโกนว่าเสื้อตรงนี้ลด 70 เปอร์เซ็นต์ คนก็กรูกันมาที่กระบะ ดาริกาฉวยจังหวะนั้นแย่งเสื้อจากเจ๊อาศัยความชุลมุนมุดใต้กระบะไปออกอีกทาง เลยได้เสื้อสมใจหมาย

จันทรกานต์จับตาดูดาริกาตลอดเวลา วิวิทธิ์สะกิดบอกเขาว่า ผู้หญิงคนนั้นประกาศลดราคา 70 เปอร์เซ็นต์เธอทำให้ลูกค้าเข้าใจผิด ขืนลด 70 เปอร์เซ็นต์ขาดทุนป่นปี้แน่

“เอาน่า นายดูแลตรงนี้ก่อนฉันขอตามดูสาวคนนี้สักหน่อย เคสนี้น่าสนใจจริงๆ” พอจันทรกานต์แยกไป วิวิทธิ์ก็รีบไปกดกริ่งเลิกช็อป พวกที่รุมกันอยู่ที่กระบะพากันบ่นพึม

เมื่อไปที่เคาน์เตอร์ส่วนลด ดาริกาควักเอาคูปองที่สะสมไว้มากมายมาเลือกได้ที่ต้องการแล้วยื่นให้พนักงาน พอพนักงานจะคิดเงิน ก็เรียกไว้บอกว่าสมาชิกลดอีกสิบเปอร์เซ็นต์ เท่านั้นไม่พอ ถามอีกว่าใช้บัตรเครดิตใบนี้สะสมแต้มได้สองเท่าอีก สุดท้ายสั่งพนักงานว่า “ถึงสิ้นเดือนห้างคุณแจกบัตรชิงโชคไปเกาหลี อย่าลืมหยิบมาให้ฉันด้วยนะคะ”

พอพนักงานเดินมึนๆไปจัดการให้ ดาริกาหันมาเห็นจันทรกานต์ก็ตะลึงในความหล่อ เฉไฉถามว่าเป็นพนักงานใช่ไหม เซลส์แบบนี้บ่อยๆ ดีตนชอบ

“ครับ แต่ทางห้างเราคงไม่ชอบแน่ ถ้าคุณเล่นประกาศว่าขายเสื้อลด 70 เปอร์เซ็นต์อย่างเมื่อกี๊เพราะเราขาดทุน”

“ขาดทุนกำไรนิดหน่อยเป็นไรไป คืนกำไรให้ลูกค้าบ้างได้บุญนะ” จันทรกานต์ถามว่ามาช็อปเซลส์แบบนี้บ่อยๆหรือ เธอตอบอย่างภูมิใจว่า “ไม่ค่อยพลาดหรอกค่ะ บางทีก็ไปสาขาแคราย บางทีก็ไปบางกะปิ แต่ที่นี่ของคุณภาพดี พนักงานก็ดี โดยเฉพาะพนักงานชายหล่อทุกแผนกเลยค่ะ น่าช็อปเป็นที่สุด ฮิๆ”

ดาริกายิ้มกวนนิดๆ ทะเล้นหน่อยๆ ก่อนแยกไป จันทรกานต์หน้าแดงพึมพำ... “ผู้หญิงอะไร!”

ooooooo

ช็อปจนพอใจแล้ว ดาริกาหอบของทั้งหมดกลับไปที่บ้านแม่กับตาซึ่งต้องเดินผ่านสุสาน แต่เธอเดินชินจนไม่มีความหวาดกลัวอะไรเลย

ไปถึงบ้านเห็นพวก แอล เน และตี๋ แก๊งมอเตอร์ไซค์วัยรุ่นสุดหล่อ กำลังตั้งหน้าตั้งตาขูดฝาบ้านตนที่ทำจากฝาโลงเพื่อหาหวย เลยถูกดาริกาทำผีหลอกวิ่งหนีกันกระเจิง

พอเข้าบ้าน ดาริกาเอาเสื้อที่ซื้อมาฝากแม่ หมวกที่ซื้อมาฝากตา ซื้อเครื่องปั่นผลไม้ กุสุมาผู้เป็นแม่ดีใจบอกว่าจะได้ทำน้ำเต้าหูไปขายและพ่อก็จะได้กินน้ำผลไม้คั้นสดๆ ทุกวันด้วย ตาทศติงว่าซื้อของมากมายอย่างนี้ จะมีเงินเหลือเก็บหรือ?

“ไม่ต้องห่วง หนูซื้อของลดราคาทั้งนั้น”

“ไม่ต้องห่วงหรอกพ่อ ยายดาวมันประหยัดอย่างกับอะไรดี มา...ตำน้ำพริกเสร็จแล้ว กินข้าวกันเถอะ” กุสุมาชวน

ดาริกาลุกไปช่วยยกอาหารมาวางที่โต๊ะ สูดกลิ่นน้ำพริกชมเปาะ “น้ำพริกกะปิแม่นี่ หอมสุดๆ” แล้วทั้งสามก็นั่งกินข้าวกันอย่างเอร็ดอร่อย

ooooooo

ดาริกามีเป้าหมายในชีวิตที่จะเก็บเงิน “เพื่อบ้านใหม่” เธอเก็บเงินสะสมมาจนปัจจุบันได้สองแสนกว่าบาท วันนี้เธอเปลี่ยนตัวเลขที่จดบนกระดานดำใหม่เป็นเกือบสามแสนแล้ว

เธอบอกตาทศที่เดินผ่านมาว่า “จะครึ่งหนึ่งแล้ว อีกห้าปีก็จะเก็บเงินซื้อที่ตรงนี้ให้เป็นของเราเสียที จะได้ไม่ต้องอาศัยวัดอยู่ เกรงใจวัด สุสานก็มีแต่ขยายออก”

“ตาเป็นสัปเหร่อ ทำงานให้วัดทุกอย่าง พระท่านไม่ไล่เราหรอกน่า เก็บเงินไว้ซื้อของกินบ้าง ผอมไปไหมเรา หือ...” ตาทศจับหัวดาริกาโยกไปมาอย่างเอ็นดู เธอบอกตาว่าเตรียมไว้เผื่อฉุกเฉินขึ้นมาจะได้มีทุนสำรองไว้ขยับขยาย เธอมองตัวเลขบนกระดานอย่างภูมิใจ

ooooooo

ความเห่อและห่วงลูกชายวัย 26 เหมือนเด็ก 5 ขวบ ที่ต้องประคบประหงมของดาราราย สร้างความอึดอัดแก่หนุ่มเนี้ยบอย่างจันทรกานต์มาก

จนวันนี้เขาทนไม่ได้ เมื่อดารารายเข้าห้องนอนไม่เคาะประตูและไปเจอเขานอนกางเกงหลุดนอนโป๊ เขาทั้งอายและไม่พอใจมาก จนเริ่มมีความคิดอยากจะแยกออกไปอยู่ต่างหาก

ที่โต๊ะอาหารเช้านี้ ดารารายเองก็เขินจนขอตัวลุกไปดูในครัว จันทรกานต์จึงเสนอกับคุณชายจันทรว่า

“พ่อครับ ผมซีเรียสนะครับ แม่ยุ่งกับชีวิตส่วนตัวของผมเหลือเกิน ทำเหมือนผมเป็นเด็กห้าขวบ” คุณชายจันทรติงว่าแม่เขาคิดว่าลูกเป็นเด็ก ต่อไปก็ให้ล็อกห้องทุกครั้งก็แล้วกัน “ไม่ล่ะครับ ไม่ล็อกอะไรทั้งนั้น ผมตัดสินใจแล้ว ผมจะย้ายไปอยู่คอนโดครับ”

เมื่อดารารายรู้ก็ยืนกรานไม่ยอมให้ไปอยู่คอนโดอ้างว่าแล้วใครจะดูแลอาหารการกินเสื้อผ้าให้ จันทรกานต์บอกว่าตอนอยู่เมืองนอกตนก็ดูแลตัวเองมาตลอด เมื่อดารารายไม่อาจเอาชนะลูกด้วยเหตุผลได้ก็หันไปบอกคุณชายจันทรให้พูดอะไรบ้าง

“แม่ครับ อย่าห้ามผม วันนี้ผมนัดวิวิทธิ์ไปดูคอนโดแล้ว ผมย้ายออกแน่นอนครับ ผมไม่อยากเป็นชีเปลือยให้ใครมาเห็นอีก”

พอดีนายช้างมาบอกว่าทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว จันทรกานต์เดินออกจากห้องไป ดารารายถามคุณชายจันทรว่าไม่ห้ามลูกบ้างหรือ คุณชายบอกว่า “ไม่ล่ะ ลูกมันไม่ใช่เด็กแล้ว” ดารารายสะบัดหน้าเชิดงอนที่ไม่ได้ดั่งใจ

ooooooo

กลับจากบ้านแม่ ดาริกาไปพบพุดตานที่คอนโดหรูในชุดยีนส์ขาสั้นขาดๆ เสื้อยืดเปื่อยๆ รองเท้าแตะแบบเดียวกันแต่คนละสี ดาริกาถามพุดตานว่าแน่ใจแล้วหรือที่จะให้ตนมาอยู่ห้องสวีทราคาเรือนล้านตั้งหกเดือน

“คิดดีแล้ว เพราะฉันหาใครไม่ได้นอกจากเธอ เธอคือคนที่ฉันไว้ใจที่สุด เธอไม่ขโมย เธอไม่สะตอ และเธอไม่ใช้ร่างกายเปลือง คือ ไม่พาผู้ชายมาฟีเจอริ่งในห้องฉันแน่”

พุดตานพาดาริกาไปที่ระเบียงเพื่อดูของรักของหวงที่ต้องให้ดูแลเป็นพิเศษ คือ ต้นพุดซ้อน ปีโกเนีย ลิลลี่ พุดพิชญา สั่งเข้มงวดว่า

“รดน้ำเช้าเย็น และปิดผ้าคลุมกันแดดบ่าย ห้ามเฉา ห้ามตาย ถ้าคุณนายฉันตายเธอตายตกไปตามกัน” จากนั้นให้ไปดูห้องน้ำสั่งให้แม่บ้านมาทำความสะอาดวันเว้นวัน ห้ามชื้นห้ามเชื้อราและจะแนะนำเครื่องใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ รวมทั้งโถฉี่ ฉีดหน้า ฉีดกลาง ฉีดหลัง ดาริกาฟังแล้วสะดุ้ง

ออกจากห้องน้ำ พาไปที่มุมแพนทรีสอนการใช้เครื่องครัว ดาริกาดูแล้วมึนกับรายละเอียดมากมาย เลยตัดบทบอกว่า

“พี่คะ ไม่ต้องอธิบายค่ะ หนูจะไม่แตะต้องภาชนะไฮโซของพี่แม้แต่นิดเดียว” พุดตานถามว่าแล้วเธอจะทำครัวยังไง “ง่ายนิดเดียวค่ะ พี่รอหนูแค่ครึ่งชั่วโมง หนูขอตัวกลับห้องเช่ารูหนูของหนูแว้บเดียว” ว่าแล้วเดินอ้าวออกไปเลย

ooooooo

เมื่อตัดสินใจจะแยกไปอยู่คอนโดแล้ว จันทรกานต์กับวิวิทธิ์ไปดูห้องหรูที่คอนโด เรอเน่ผู้จัดการคอนโด สาววัยกลางคน พาไปดูห้องแนะนำด้วยลีลามีจริต

“วิวสวยมากนะคะ ตอนนี้มีเหลือแค่ห้องเดียวนะคะ และมีคนหมายตาอยู่หลายคนเลยด้วย ตัดสินใจเลยไหมคะ”

วิวิทธิ์เปรยๆว่าห้าสิบล้านแพงมาก ขอไปคิดดูก่อน ถามว่าไม่มีให้เช่าหรือ เรอเน่บอกว่าคอนโดระดับนี้ขายขาดอย่างเดียวเพื่อรับประกันว่าเราจะได้ลูกค้าที่มีระดับไฮเอนด์ สังคมที่ศิวิไลซ์ จันทรกานต์ขอไปดูฟิตเนสและสปาหน่อยได้ไหม

“เรอเน่ ยินดีค่ะ เชิญชั้นล่างค่ะ” เธอยิ้มหวานพาไปอย่างกระตือรือร้น

เมื่อเดินออกจากส่วนสปา เรอเน่หยุดคุยที่เคาน์เตอร์ วิวิทธิ์รออยู่ จันทรกานต์จึงเดินออกไปที่หน้าตึก...

ดาริกานั่งสามล้อบรรทุกเครื่องครัวจากห้องเช่ามาถึงพอดี สามล้อเบรกเอี๊ยดที่หน้าคอนโดจนข้าวของร่วงกราว สากกะเบือกลิ้งไปที่เท้าของจันทรกานต์พอดี! ชายหนุ่มกระโดดหลบ ดาริกาวิ่งตามมาตะครุบ แต่พอเงยหน้าก็มองอึ้งทัก

อ่านละคร ดาวเคียงเดือน ตอนที่ 1 วันที่ 12 ก.ค. 57

ละครเรื่องดาวเคียงเดือนบทประพันธ์โดย รอมแพง
ละครเรื่องดาวเคียงเดือน บทโทรทัศน์โดย นันทวรรณ รุ่งวงศ์พาณิชย์
ละครเรื่องดาวเคียงเดือน กำกับการแสดงโดย ชนินทร ประเสริฐประศาสน์
ดาวเคียงเดือน ละครแนว รักตลกโรแมนติก ดราม่าคอเมดี้
ละครเรื่องดาวเคียงเดือน ผลิตโดย บริษัท บรอดคาซท์ ไทยเทเลวิชั่น จำกัด
ละครเรื่องดาวเคียงเดือนควบคุมการผลิตโดย คุณอรุโณชา ภาณุพันธ์
ละครเรื่องดาวเคียงเดือนออกอากาศทุกวันศุกร์-เสาร์และวันอาทิตย์ เวลา 20.15-22.45 น.
ละครเรื่องดาวเคียงเดือน เริ่มออกอากาศตอนแรก วันศุกร์ 18 ก.ค.นี้ ทางไทยทีวีสีช่อง3
ที่มา ไทยรัฐ