@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร รากบุญ2 ตอน รอยรักแรงมาร ตอนที่ 14/4 วันที่ 25 ก.ค. 57

อ่านละคร รากบุญ2 ตอน รอยรักแรงมาร ตอนที่ 14/4 วันที่ 25 ก.ค. 57

เจติยายิ้มรับปากให้แม่สบายใจ “ค่ะแม่ ตอนนี้เราเหลือกันแค่สองคนพี่น้องเท่านั้น เจไม่มีวันทิ้งน้องหรอกค่ะ”
มยุรียิ้มสบายใจแต่ก็เป็นห่วงเจติยา “ลูกก็ต้องดูแลตัวเองให้ดีด้วยนะเจ” มยุรียิ้มอย่างดีใจมากเป็นพิเศษ “หลังจากนี้ไป เจก็ยิ่งต้องดูแลตัวเองให้ดีมากขึ้นอีกนะลูก”

เจติยามองหน้าแม่แล้วก็สีหน้ามีคำถามสงสัยกับคำสั่งเสียทิ้งท้ายของแม่
ฉายามองมยุรีด้วยสายตากำราบเล็กน้อย
มยุรีจ๋อยไป “ขอโทษค่ะท่าน”
“ได้เวลาแล้วล่ะ” ฉายาบอก
เจติยาใจหายวูบ เธอมองมยุรีแล้วก็น้ำตาท่วมขึ้นมาอย่างกลั้นไม่อยู่
มยุรีน้ำตารื้นขึ้นมา “ไม่ต้องกลัวนะเจ ถึงจะไม่มีแม่อยู่แล้ว แต่ความรักของแม่ก็จะอยู่กับลูกทั้งสองคนตลอดไป”


เจติยาร้องไห้โฮออกมาแล้วพูดเสียงสั่น “เจรักแม่ค่ะ”
เจติยาเข้าไปสวมกอดวิญญาณมยุรีแต่ก็กอดไม่ได้แล้ว มยุรียิ้มอย่างมีความสุขขณะมองลาเจติยาเป็นครั้งสุดท้าย ฉายากับวิญญาณของมยุรีค่อยๆเลือนหายไป เจติยาได้แต่ร้องไห้ขณะกอดตัวเองเอาไว้ ลาภิณเดินตามเข้ามาพอดี
ลาภิณตกใจปนเป็นห่วง “เจ”
เจติยาสะอื้น “แม่ทิ้งเจไปแล้วค่ะคุณต้น”
ลาภิณรีบเข้ามาสวมกอดเจติยาเอาไว้แน่น เจติยากอดลาภิณร้องไห้สะอึกสะอื้นราวจะขาดใจ

งานศพของมยุรีเป็นงานเล็กๆ ที่มีคนมาไม่มากนักแต่ก็จัดอย่างดี เจติยายืนอยู่คนเดียวกำลังมองนวัช นิษฐา อยุทธ์ ทวี โอ้เอ้ และคนอื่นๆ ทยอยกันเอาดอกไม้จันท์ไปวางเตรียมเข้าเตาเผาอีกที เจติยามีสีหน้าสงบนิ่ง ไม่ร้องไห้เพราะทำใจได้แล้ว ลาภิณเดินเข้าไปโอบเอวเจติยา
ลาภิณเป็นห่วง “คุณเป็นไงมั่ง”
เจติยายิ้มรับ “โอเคค่ะ เจทำใจได้แล้วล่ะ”
ลาภิณยิ้มบางๆ “ดีแล้ว ที่ผ่านมา เจทำดีที่สุดแล้ว ไม่เหลืออะไรต้องเสียใจอีกแล้วล่ะ” ลาภิณสีหน้าเศร้าลง “ไม่เหมือนผม ถึงจะรู้ว่าคุณแม่ไม่ได้โกรธอะไร แต่ก็ยังรู้สึกผิดอยู่ดี”
เจติยาเป็นฝ่ายจับมือลาภิณบีบเบาๆ เพื่อให้กำลังใจ
อยุทธ์วางดอกไม้จันท์เสร็จก็เหลือบไปมองลาภิณกับเจติยา อยุทธ์หน้าจ๋อยไปก่อนจะเดินเลี่ยงไปทางอื่น
นวัช นิษฐา ทวี และโอ้เอ้เดินเข้าไปหาเจติยา
“ย้ายศพไปเผาที่วัดเลยนะพี่เจ” โอ้เอ้บอก
เจติยาพยักหน้ารับ
ทวีเข้ามาตบบ่าเจติยาเบาๆ เพื่อให้กำลังใจ
เจติยายิ้มๆ ให้ทวี
ทวีถาม “นทีล่ะ”
ทุกคนกวาดตามองหานที
“เห็นเดินออกไปเมื่อกี้นะครับ” ลาภิณบอก
นิษฐาเห็นใจ “น้องคงยังทำใจไม่ได้แหละค่ะ ฐาเห็นยืนเงียบอยู่คนเดียว ใครถามอะไรก็ไม่พูด”
“นทีเค้าสนิทกับแม่มากก็อย่างงี้แหละ” นวัชบอก
เจติยามีสีหน้าเคร่งเครียดเพราะเป็นห่วงน้อง
“เจออกไปดูหน่อยดีกว่า ฝากทางนี้ด้วยนะคะคุณต้น”
ลาภิณพยักหน้ารับ เจติยาเดินออกไปหานที

นทีนั่งซึมอยู่ที่มุมหนึ่งของนิราลัย เจติยาเดินออกมาเจอก็เดินไปนั่งข้างๆ นทีเหลือบตามองพี่สาวเล็กน้อย
“เรากำลังจะย้ายศพไปเผาที่วัดนะ” เจติยาบอก
นทีพยักหน้ารับ
“เรื่องทรัพย์สิน แม่สั่งเสียพี่ไว้หมดแล้ว เรื่องบ้านเป็นของนทีนะ แต่พี่อยากให้เราย้ายมาอยู่กับพี่ที่บ้านคุณต้นมากกว่าส่วนบ้านแม่ พี่ผู้กองจะหาคนเช่าให้ เราจะได้มีรายได้ไว้ใช้จ่าย” เจติยาบอก
นทีพยักหน้ารับแต่ไม่พูดอะไร
เจติยาทนไม่ไหวเลยตัดใจถามไปตรงๆ “ยังโกรธพี่อยู่เหรอ”
นทีหันไปมองเจติยานิ่งอยู่ครู่นึงก่อนตอบ “เปล่า ผมคิดได้แล้วว่าสิ่งที่พี่เจทำเป็นเรื่องที่ถูกต้อง แล้วก็เป็นความต้องการของแม่จริงๆผมไม่โกรธพี่แล้วล่ะ”
เจติยายิ้มดีใจที่น้องเข้าใจ แล้วสองพี่น้องต่างก็นั่งเงียบไปอึดใจ
นทีน้ำตาคลอแล้วพูดเสียงสั่น “พี่เจ ผมคิดถึงแม่”
เจติยาน้ำตาท่วมตา เธอไม่พูดอะไรได้แต่สวมกอดเอวนทีแล้วซบหน้ากับบ่าน้องชาย ไม่มีบทสนทนาใดใดจากสองพี่น้องมีเพียงแผ่นหลังของทั้งคู่ที่สั่นสะท้านจากการร้องไห้เสียใจอย่างหนัก

พิมพ์อรกำลังจับมือกสิณเพื่อดูเหตุการณ์ของเจติยา
พิมพ์อรหงุดหงิด “ฟูมฟาย น่ารำคาญทั้งพี่ทั้งน้อง”
พิมพ์อรปล่อยมือกสิณแล้วเดินเลี่ยงออกมา
พิมพ์อรมีสีหน้าเจ็บใจ “แต่แม่นี่ก็หัวแข็งได้ใจจริงๆ ขนาดชีวิตแม่ตัวเองแท้ๆ ยังสละได้”
กสิณหนักใจ “ก็เพราะเจติยาเป็นคนแบบนี้ไงล่ะ เราถึงเอาชนะมันไม่ได้ซะที”
พิมพ์อรทำหน้าบึ้งตึง “ฉันต้องการรู้แค่ว่าจะทำยังไงถึงจะได้เหรียญจากมันมา ไม่ได้อยากฟังคำเยินยอมัน” พิมพ์อรหมั่นไส้
“ตอนนี้ก็มีอยู่ทางเดียวแหละ แต่ว่า...”
“แต่อะไร”
“ฉันเคยพูดไปแล้วนี่ ว่าต้องใช้ลาภิณเป็นเครื่องต่อรอง” กสิณบอก
พิมพ์อรเครียดหนัก “ฉันไม่ต้องการให้เค้ามาเกี่ยวข้องด้วย แค่เรื่องคราวก่อน เค้าก็เกลียดฉันจนแทบจะไม่มองหน้าอยู่แล้ว”
“แต่ตอนนี้เธอต้องเลือกแล้วล่ะ ระหว่างลาภิณกับพ่อของเธอ”
“ทำไมฉันต้องเลือกด้วย”
ทันใดนั้น พยาบาลที่ดูแลวนันต์ก็วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาอย่างร้อนใจ
“คุณพิมพ์อรคะ แย่แล้วค่ะ คุณวนันต์อาการไม่ดีเลยค่ะ”
พิมพ์อรตกใจจึงตวาด “ก็รีบโทรตามหมอสิ มาบอกฉันแล้วฉันจะช่วยอะไรได้ล่ะ”
“ค่ะๆ” พยาบาลรีบไปกดโทรศัพท์โทรหาหมอ
พิมพ์อรรีบเดินไปหาพ่อทันที กสิณมองตามพิมพ์อรแล้วยิ้มร้าย
พิมพ์อรนั่งเฝ้าพ่อด้วยความห่วงใย ในขณะที่วนันต์นอนหลับอยู่ สักพักวนันต์ก็ค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นแต่มีท่าทางอ่อนระโหยโรยแรงมาก
วนันต์อ่อนเพลียสุดๆ “หมอกลับไปแล้วเหรอ”
“ค่ะ”
วนันต์ยิ้มบางๆ “เวลาของพ่อ คงจวนจะหมดแล้วล่ะ”
พิมพ์อรใจคอไม่ดี “ไม่ใช่นะคะคุณพ่อ หมอบอกว่าอาการของคุณพ่อปกติดี ที่ดูเหมือนแย่ลงไป เป็นเพราะผลข้างเคียงของยาเท่านั้นเอง ถ้าร่างกายปรับสภาพได้ ก็ไม่มีอะไรแล้วล่ะค่ะ”
วนันต์ยิ้มบางๆ “อย่าโกหกพ่อเลยอร พ่อได้ยินที่ลูกคุยกับหมอหมดแล้ว”
พิมพ์อรหน้าเจื่อนไป
วนันต์มีสีหน้าปลงๆ “ดีแล้วล่ะ ถ้าการตายของพ่อช่วยลูกให้พ้นจากมันได้ พ่อขอตายดีกว่า”
วนันต์ค่อยๆหลับตาลงอย่างอ่อนเพลียก่อนจะหลับสนิทไป
พิมพ์อรลุกเดินห่างออกแล้วมองพ่อนิ่งอยู่ครู่นึงก่อนจะพูดเบาๆ “ไม่ต้องเสียเวลาเลือกหรอกกสิณ ไม่มีใครสำคัญกับฉัน เท่ากับคุณพ่ออีกแล้ว”
พิมพ์อรมีสีหน้าแววตาอำมหิตขึ้นมา แม้เธอจะรักลาภิณมากขนาดไหน แต่ก็รักพ่อมากกว่า กสิณที่ยืนกอดอกมองดูอยู่ด้านหลังหัวเราะลงคออย่างเยือกเย็น กสิณสาแก่ใจที่ทุกอย่างเดินตามแผนการของตัวเอง

ลาภิณกำลังคุยโทรศัพท์มือถืออยู่ในห้องทำงาน โดยมีสิทธิพรอยู่ใกล้ๆ
ลาภิณคุยมือถือ “ขอบพระคุณท่านมากนะครับ ผมสัญญาว่างานจะเสร็จทันตามกำหนดแน่นอนครับ” ลาภิณฟัง “ครับ สวัสดีครับ”
ลาภิณกดวางสายไป
สิทธิพรลุ้น “เป็นยังไงบ้างวะ”
“เค้ายอมขยายเวลาทำงานให้ แกไม่ต้องเสียค่าปรับ แต่ค่าเสียหายที่ไฟไหม้ แกต้องรับผิดชอบเองทั้งหมด”
สิทธิพรถอนใจอย่างโล่งอก “แค่นี้ก็บุญแล้ว”
“แกต้องดึงคนงานจากส่วนอื่นมาเร่งงานทางนี้ทันทีเลยเข้าใจมั้ย”
สิทธิพรพยักหน้ารับ
ลาภิณเป็นห่วง “แล้วมันจะกระทบโครงการของท่านบุญช่วยรึเปล่า”
“ไม่ต้องห่วงหรอก โครงการของท่านบุญช่วยยังเหลือเวลาอีกเยอะแยะ ยังไงก็เสร็จทัน ฉันรับรองนะต้น ถึงฉันจะเขี้ยวลากดินกับคนอื่นยังไง แต่กับแก ฉันจะดูแลผลประโยชน์ของแกอย่างดีที่สุด ไม่ทำให้แกต้องเดือดร้อนไปด้วยแน่นอน”
ลาภิณพยักหน้ารับพร้อมยิ้มให้ “ขอบใจมากเพื่อน”
สิทธิพรหน้าเจื่อน ยิ้มแหยๆ “แต่ว่าตอนนี้ฉันไม่มีเงินจ่ายค่าแรงคนงานเลยว่ะ หมุนไม่ทัน”
ลาภิณถอนใจออกมาเพราะเดาได้เลยว่าเพื่อนจะพูดอะไรต่อ
สิทธิพรพูดต่อ “ขอยืมซักห้าล้านสิ ฉันมีโครงการที่จอมเทียนจะส่งงานอาทิตย์หน้านี้แล้ว เสร็จเมื่อไหร่ก็ได้เงินงวดสุดท้าย ภายในเดือนหน้า ฉันจะเคลียร์หนี้ก้อนนี้ใช้แกทันที
“ได้ แต่ขอเป็นตอนบ่ายๆ นะ ฝ่ายบัญชีเค้ากำลังปิดงบอยู่ ขอดูนิดนึงว่าจะโยกเงินส่วนไหนให้แกยืมได้มั่ง” ลาภิณบอก
“ขอบใจมากเพื่อน”

อ่านละคร รากบุญ2 ตอน รอยรักแรงมาร ตอนที่ 14/4 วันที่ 25 ก.ค. 57

ละครรากบุญ2 บทประพันธ์โดย : ช่อมณี
ละครรากบุญ2 บทโทรทัศน์โดย : เอกลิขิต
ละครรากบุญ2 กำกับการแสดงโดย : ธรธร สิริพันธ์วราภรณ์
ละครรากบุญ2 ผลิตโดย : บริษัท ทีวีซีน แอนด์ พิคเจอร์ จำกัด
ละครรากบุญ2 ควบคุมการผลิตโดย : ณัฏฐนันท์ ฉวีวงษ์
ละครรากบุญ2 ออกอากาศทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ละครรากบุญ2 เริ่มออกอากาศตอนแรก วันอังคารที่ 8 กรกฎาคม 2557 นี้
ที่มา ไทยรัฐ